:: TRIP & TREK :: โลกกว้างของคนเดินทาง ::

เชิญตั้งคำถามของคุณได้ที่นี่ครับ

ใครรู้วัฏจักรชีวิตของผีเสื้อบ้าง

รู้แล้วกรอกข้อมูลเกี่วยกับแต่ละระยะ(ถ้ามีภาพด้วยยิ่งดีค่ะ)

โดยคุณ น.ร. ที่จะทำรายงาน [2006-08-02 18:35:15]

โดยคุณ Joyful [2006-08-02 19:12:56] #4178 (1/15)

เจ้าของห้องอยู่หน่ายยยยยยยยยยยยย มาช่วยนักเรียนหน่อยเร้วววววววววววววววววววววววววว

โดยคุณ นายซาไกทัดดอกฝิ่น [2006-08-02 20:02:44] #4180 (2/15)

1.ไข่
2.หนอน
3.ดักแด้
4.ผีเสื้อ...
การผสมพันธ์ วางไข่
การผสมพันธ์ การหาคู่ของผีเสื้อเพศผู้มีหลายวิธีด้วยกัน บางชนิดรอให้ตัวเมีย บินเข้ามาในพื้นที่ ของตัวเอง บางชนิดกำหนดอาณาเขตของตัวเองแล้วบินวนหาตัวเมียภายในพื้นที่นั้น
ผีเสื้อที่กำหนดอาณาเขตของตัวเองไว้จะไม่ยอมให้ผีเสื้อตัวอื่นเข้ามาใกล้ บางครั้งเมื่อมีผู้บุกรุก ผีเสื่อเจ้าถิ่นจะออกไปขับไล่ ถ้าผู้บุกรุกไม่ออกไปก็ต้องต่อสู้กันจนกว่าจะแพ้กันไปข้างหนึ่งเช่น ผีเสื้อในวงศ์ขาหน้าพู่ จะหวงถิ่นมาก มันจะไล่ไม่เว้นแม้แต่แมลงปอ หรือนกที่บินเข้ามา แม้ว่าผลสุดท้าย มันอาจจะตกเป็นอาหารของนกก็ตาม หลังจากตัวผู้พบตัวเมียก็จะเริ่มเกี้ยว ด้วยการบินเข้าไปหา และกระพือปีก ปล่อยกลิ่น สัญญาณเพศ (pheromones) ให้กระจายออกไป เพื่อบอกให้ตัวเมียรู้ว่า เป็นผีเสื้อ ชนิด เดียวกัน จากนั้นมันจะ พยายาม ให้ตัวเมียลงเกาะ เพื่อตัวเองจะได้ลงเกาะ บนหลัง และทำการ ผสมพันธ์
กลิ่นสัญญาณ เป็นสิ่งสำคัญ ที่จะทำให้ตัวเมีย ยอมรับ การผสมพันธุ์ ถ้าตัวเมียไม่พอใจ ก็จะบินหนีไป ผีเสื้อบางชนิดมีต่อมสัญญาณกลิ่น ที่ปีกคู่หลัง เช่น ผีเสื้อในสกุล ผีเสื้อหนอนใบรัก บางชนิด ก็อยู่ที่ปลายส่วนท้อง เช่น ผีเสื้อในสกุลผีเสื้อจรกา
การวางไข่หลังจากผีเสื้อตัวเมียได้รับการผสมพันธ์เรียบร้อยแล้ว มันจะรอจนไข่ที่ผสมแล้วแก่พอที่จะไข่ได้ มันจะบินหาพืชอาหาร ของตัวหนอน เพื่อวางไข่ โดยมันจะใช้ปลายส่วนท้องแตะที่ใบพืชและรู้ด้วยสัญชาติญาณพิเศษทันทีว่าใช่พืชที่เป็นอาหารของหนอนหรือไม่ ถ้าไม่ใช่มันจะบินหาต่อไป แต่ถ้าใช่มันจะยืดส่วนหางเล็กน้อยแล้วค่อย ๆ วางไข่ ขณะที่วางไข่ผีเสื้อจะขับสารเหนียว ๆ ออกมาด้วย เพื่อให้ไข่ยึดติดกับใบไม้
โดยปกติผีเสื้อวางไข่ไว้ใต้ใบแต่มีบางครั้งที่วางไว้บนใบ แต่บ่อยครั้งที่ผีเสื้อไม่ได้วางไข่ไว้บนใบพืชอาหารโดยตรง แต่วางไว้ตามกิ่งไม้ ต้นไม้ ที่อยู่ใกล้กับพืชอาหารของตัวหนอน บางทีวางห่างออกไปจากพืชอาหารถึง 1 เมตร หรือมากกว่านั้น สำหรับผีเสื้อที่ตัวหนอนกินใบหญ้า เป็นอาหาร มันจะใช้วิธียบินเรื่อยๆ ต้นหญ้าแล้วปล่อยไข่ลงมาโดยที่มันไม่ต้องเกาะบนใบหญ้าเลยผีเสื้อชนิดนี้วางไข่ครั้งละมาก ๆ เพราะต้องเผื่อบางส่วนที่อาจเสียหายไปไม่ฟักออกเป็นตัว ผีเสื้อกลางคีนมักจะวางไข่เป็นกลุ่มและสลัดขนจากลำตัวปกคลุ่มไข่ไว้ ไข่ของผีเสื้อมีหลายลักษณะแตกต่างกันตามวงศ์ ซึ่งมีทั้งกลม เรียว แบน สี่เหลี่ยม ทั้งผิวเรียบและลวดลาย มีสีต่าง ๆ กันไปตามแต่ละชนิด

โดยคุณ นายซาไกทัดดอกฝิ่น [2006-08-02 20:09:12] #4181 (3/15)

ผีเสื้อ วางไข่

โดยคุณ นายซาไกทัดดอกฝิ่น [2006-08-02 20:12:29] #4182 (4/15)

หนอนผีเสื้อ
หลังจากผีเสื้อวางไข่แล้ว 3-5 วัน ไข่จะฟักออกเป็นตัวหนอน หลังออกจากไข่ใหม่ ๆ หนอนของผีเสื้อบางชนิดจะกินเปลือกไข่เป็นอาหาร การที่หนอนกินเปลือกไข่นี้ยังไม่มีการยืนยันแน่ชัดว่าเพราะเหตุใด แต่จากการศึกษาของผู้เขียนพบว่าหนอน ตัวที่กินเปลือกไข่ จนหมดจะเจริญเติบโตเร็วกว่าหนอนตัวที่ไม่กินเปลือกไข่หรือน้อย และใช้เวลาในการพัฒนาการแต่ละขั้นสั้นกว่า ในขณะที่ตัวที่ไม่กิน เปลือกไข่หรือกินน้อยจะโตช้า หรือบางครั้งจะตายก่อนที่จะโต สันนิษฐานว่าเปลือกไขอาจมีสารอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของหนอน หรืออาจเป็นการทำลายหลักฐานและร่องรอยที่อาจทำให้ศัตรูรู้ถึงแหล่งอาศัย
หนอนจะเจริญเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ โดยการลอกคราบเพื่อเปลี่ยนขนาดซึ่งโดยทั่วไปหนอนจะลอกคราบ 4-5 ครั้ง ผีเสื้อกลางวัน เมื่อลอกคราบ ครั้งสุดท้ายผนังชั้นในเมื่อสัมผัสกับอากาศภายนอกจะแข็งตัว กลายเป็นเปลือกแข็งหุ้มลำตัวไว้เป็นดักแด้ และรูปร่างจะเปลี่ยนไปจาก เดิมโดยสิ้นเชิง
ส่วนหนอนผีเสื้อกลางคืนมันลอกคราบจนมีขนาดโตเต็มที่แล้วมันจะขับใยเหนียว ๆ ออกมาทางรู spinneret เพื่อทำเป็นรังไหม หุ้มตัวใช้เวลา ในการสร้างรังไหมหุ้มตัวประมาณ 12-13 ชั่วโมง แล้วจึงเข้าสู่ระยะดักแด้ต่อไป แต่มีผีเสื้อกลางคืน บางชนิด ที่ไม่มีการสร้างรังไหม แต่จะใช้ วิธี คลานไปหาที่ปลอดภัยใต้ขอนไม้ หรือกอหญ้าตามพื้นดินแทน

หนอนผีเสื้อเมื่อมีขนาดโตเต็มที่ จะเข้าสู่ระยะดักแด้ ดักแด้ของหนอนผีเสื้อจะมีลักษณะต่างกัน ไปตามสายพันธุ์หนอน เมื่อเจริญเติบโต เต็มที่ จะหยุดกินอาหาร และถ่ายของเสียออกจากร่างกายจนหมด แล้วคลานหาที่เหมาะสมที่มันคิดว่าปลอดภัยจากศุตรูแล้วชักใยให้ ตัวเองยึดติดกับกิ่งไม้(บางชนิดจะชักใยหุ้มตัวเองไว้ภายในก่อน เช่น หนอนผีเสื้อกลางคืนบางชนิด จำพวกผีเสื้อหนอนไหม ผีเสื้อหนอนกระท้อน) ระยะนี้จะเห็นว่าตัวหนอนมีขนาดเล็กลงจากเดิมหนอนจะเกาะอยู่นิ่ง ๆ ไม่ขยับเขยื้อน เรียกระยะนี้ว่าระยะก่อนดักแด้ หลังจากนั้นอี 2-3 วัน หนอนจะลอกคราบออกเป็นดักแด้ต่อไป

หลังจากเป็นดักแด้ใช้เวลาอีกหลายวันจึงจะออกมาเป็นผีเสื้อ ช่วงนี้จะไม่กินอาหารเกาะอยู่นิ่งๆ และมีการพรางตัวให้มีสีตามวัตถุ ที่ดักแด้เกาะด้วย ช่วงเวลาดังกล่าวนี้ภายในดักแด้จะมีการพัฒนาการจากตัวหนอนเปลี่ยนรูปร่างไปเป็นผีเสื้อทีละนิด ใช้เวลาอีกประมาณ 7-15 วัน ก็จะมีร่างกายเป็นผีเสื้อที่สมบูรณ์ ผีเสื้อกลางวันจะออกจากดัดแด้ช่วงเวลาเช้า ๆ ส่วนผีเสื้อกลางคืนมักจะ ออกจาก ดักแด้ในช่วงเวลากลางคืนหรือใกล้รุ่ง หลังออกจากดักแด้ใหม่ ๆ จะมีลำตัวอ้วนและปีกจะยับยู่ยี้เหมือนกระดาษมี่ถูกขยำ ผีเสื้อจะหายใจ เอาอากาศเข้าไปในตัวให้มากที่สุดทั้งทางรูหายใจและทางปาก แรงดันของอากาศและการหดตัว ของกล้ามเนื้อจะช่วย ขับของเหลว ในร่างกายเข้าไปในเส้นปีกเพื่อให้ปีกกางออกเต็มที่ ช่วงนี้จะใช้เวลาประมาณ 20 นาที แล้วหลังจากนั้นอีกประมาณ 1-2 ชั่วโมง เพื่อรอให้ปีกแข็งแรงและแห้งสนิท จึงจะออกบินไปหากินต่อไป ระหว่างที่รอให้ปีกแห้งผีเสื้อจะขับของเสียที่อยู่ในร่างกายออกมาจนหมด ของเสียนี้เรียกว่า มีโคเนียม (Meconium) ทำให้ส่วนท้องมีขนาดเล็กลงเพื่อลดน้ำหนัดตัวให้เบาขึ้นเพื่อที่จะบินไปหากินได้ง่าย ว่องไวรวดเร็ว เป็นประโยชน์ในการบิบหลบหนีอันตรายจากศัตรูในธรรมชาติด้วย

ผีเสื้อมีอายุเฉลี่ย ประมาณ 15 วัน แต่มีบางชนิดอาจอยูได้นานเป็นเดือนหรือเป็นปี ซึ่งก็มีเพียง 1-2 ชนิดเท่ากันการมีอายุสั้น-ยาวของผีเสื้อนั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายด้านด้วยกัน เช่น สภาพอากาศ อุณหภูมิ อาหาร สภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัยที่อุณหภูมิเหมาะสม และมีอาหารอุดมสมบูรณ์ ผีเสื้อหก็จะมีอายุอยู่ด้หลายวัน บางทีอาจเกิน 15 วันแต่หาที่อยู่อาศัยมีอุณหภูมิที่ร้อนหรือเย็นจัดจนเกินไป อาหารขาดแคน ผีเสื้อจะมีอายุสั้นลง อาจอยู่ได้ไม่ถึง10วันก็ตาย นอกจากนี้ยังมีศัตรูธรรมชาติอีกมากมาย ที่ควบคุมทำให้ผีเสื้อมีปริมาณสมดุลกับแหล่งอาหาร

โดยคุณ นายซาไกทัดดอกฝิ่น [2006-08-02 20:18:33] #4183 (5/15)