กลับหน้าแรก | กระดานข่าวสีเขียว - สีคราม
ค้นหาคำถาม
:: TRIP & TREK :: โลกกว้างของคนเดินทาง :: :: ทริปเดินทาง ::: พาใจไปเที่ยว :: :: TRIP & TREK :: โลกกว้างของคนเดินทาง ::
เชิญตั้งคำถามของคุณได้ที่นี่ครับ
.เที่ยวภูหลวงได้อะไรนอกจากดอกไม้สวย

แวะเวียนอ่านไปเวปไปเรื่อยเปื่อย ได้ข้อคิดดีๆ เอามาแบ่งปันกัน ทุกครั้งที่เราไปเที่ยวตามธรรมชาติ เราเคยได้ข้อคิดอะไรดีๆ จากธรรมชาติบ้าง... เคยเห็นใบไม้เต้นระบำ ได้ยินเสียงสายน้ำกระซิบแผ่วเบากันบ้างหรือเปล่า....
โดยคุณ ฮานาเล [2005-06-10 12:04:04] Bookmark and Share

โดยคุณ ฮานาเล [2005-06-10 12:08:31] #8161 (1/10)

เสน่ห์ภูหลวง / พระไพศาล วิสาโล

ดสุดยอดของภูหลวงเมื่อแรกเห็นนั้น ผิดกับที่วาดภาพเอาไว้มาก แทนที่จะเป็นป่าทึบและเต็มด้วยไม้ใหญ่ เบื้องหน้าเราคือป่าแคระหรือป่าไม้พุ่ม ไม้ส่วนใหญ่ลำต้นเตี้ยและเล็ก กลางวันจึงรับแดดเต็มที่ ขณะเดียวกันก็ต้องเจอกับลมที่ปะทะแรง เคยนึกเอาอย่างคนไม่รู้ว่า "ราชินี" แห่งป่าอนุรักษ์ของไทยจะตระการตาและยิ่งใหญ่ด้วยทิวทัศน์ ยิ่งกว่าภูกระดึงหรือเขาใหญ่ ไม่นึกว่าจุดที่ถือกันว่างดงามด้วยไม้พันธุ์งามนั้นกลับดูพื้น ๆ และออกจะแห้งแล้งด้วยซ้ำ


ที่จริงป่าทึบ ป่าสน และไม้ใหญ่ก็มีอยู่ไม่น้อยทั่วภูหลวง แต่บริเวณที่ลือชื่อที่สุดในด้านไม้ดอก โดยเฉพาะกล้วยไม้ กลับเป็นป่าแคระ ซึ่งมีดินคุณภาพต่ำเอามาก ๆ ระบบนิเวศบริเวณนั้นเปราะบางอย่างยิ่ง ดังนั้นน้อยคนที่จะได้รับอนุญาตให้มาเที่ยวชม นอกจากพระตำหนักของสมเด็จพระราชินีแล้ว ก็มีอาคารไม่กี่หลัง (ซึ่งรวมไปถึงสถานีถ่ายทอดสัญญาณโทรทัศน์) อยู่ในบริเวณนั้น
โดยคุณ ฮานาเล [2005-06-10 12:09:50] #8162 (2/10)

แต่จะว่าไป เป็นเพราะดินที่เลวและสภาพแวดล้อมที่ไม่อำนวยนี้เอง เสน่ห์แห่งภูหลวง จึงเปล่งประกายให้เราได้ชื่นชม ถ้าภูหลวงมีดินดีอุดมด้วยน้ำ ไหนเลยจะมีกล้วยไม้นานาพรรณอยู่ทั่วผืนป่า รองเท้านารี สิงโตกลอกตา เอื้องครั่งแสด และกล้วยไม้อีกกว่า ๒๐๐ ชนิด ช่วยกันแต่งแต้มภูหลวงให้งดงามอย่างหาที่ใดมาเปรียบเทียบได้ยาก
โดยคุณ ฮานาเล [2005-06-10 12:11:16] #8163 (3/10)

อันที่จริงแล้ว "ความสงบเสงี่ยมและอ่อนน้อมถ่อมตน" คือเอกลักษณ์สำคัญยิ่งของภูหลวงเลยทีเดียว บรรดาชีวิตต่าง ๆ ที่นำความงดงามและกิตติศัพท์มาสู่ภูลูกนี้ล้วนเบาบางอย่างยิ่งในเรื่องความถือตัวถือตน สาเหตุสำคัญก็เพราะ ภูหลวงไม่มีที่ว่างมากนัก สำหรับการแสดงอำนาจบาตรใหญ่ และความเห็นแก่ตัว ดินที่เลวและน้ำซึ่งมีน้อยทำให้ต้นไม้ที่สูงใหญ่วางอำนาจไม่อาจอยู่ได้ ไม้ใดจะอยู่ภูหลวงได้ต้องทำตัวให้เล็กลงและอยู่อย่างสมถะ กล้วยไม้หลายชนิดไม่ลังเลใจเลยที่จะลดขนาดของตัวเองจนกลายเป็นกล้วยไม้จิ๋ว น้ำค้างเพียงหนึ่งหยดหรือแค่ละอองหมอกในอากาศ ก็ช่วยให้เขาเหล่านั้นอยู่ได้อย่างสบาย

ความแห้งแล้งอีกเช่นกัน ที่ทำให้ชีวิตทั้งหลายไม่อาจอยู่อย่างตัวใครตัวมัน หรือเที่ยวเบียดเบียนกันได้ หากแต่จำต้องโน้มตัวเข้าหากันเพื่อช่วยเหลือกัน เพราะถ้าต่างคนต่างอยู่ก็ต้องสูญพันธุ์กันไปหมด พยานแห่งความร่วมมือกันจะแสดงให้เราประจักษ์แทบทุกตารางนิ้ว ถ้านึกไม่ออกก็ขอให้มองที่ไลเคน ไลเคนเป็นตัวอย่างความร่วมมือกันระหว่างสาหร่าย (หรือตะไคร่) กับรา ฝ่ายแรกนั้นสามารถสังเคราะห์แสงได้ ส่วนฝ่ายหลังก็ดูดสารอาหารและความชื้นได้ เมื่อรวมกันเป็นไลเคนแล้ว ก็ยังไปร่วมมือและช่วยเหลือชีวิตอื่นอีกต่อไปอีก เช่น เหง้าน้ำทิพย์ ซึ่งอาศัยไลเคนที่ชื่อว่า "ฟองหิน" เอื้อเฟื้ออยู่ที่โคนต้น
โดยคุณ ฮานาเล [2005-06-10 12:13:16] #8164 (4/10)

คนที่ตัวตนใหญ่โตนั้นไม่คิดที่จะปรับตัว หากเรียกร้องให้คนอื่นปรับเข้าหาตนมากกว่า แต่นั่นไม่ใช่นิสัยของพันธุ์ไม้ส่วนใหญ่ที่นั่น ขณะที่ก๊อกมองพร้อมจะขึ้นไปอยู่บนต้นไม้อื่น เหง้าน้ำทิพย์ก็ไม่ปฏิเสธที่จะขึ้นบนหิน แม้จะแข็งกระด้างเพียงใด ขอให้มีรอยแตกเล็ก ๆ เท่านั้น เหง้าน้ำทิพย์ก็พร้อมจะยื่นรากเข้าไปแทรกและขออาศัยอยู่ จากนั้นก็ค่อย ๆ เก็บสะสมเศษใบไม้ใบหญ้าแล้วแปรให้เป็นดินรอบโคนต้นเพื่อเก็บความชื้น โดยมีฟองหินช่วยอีกแรงหนึ่ง

คงมีไม่กี่แห่งนักที่เราจะได้เห็นความงดงามเยื่ยงราชินีควบคู่กับสมถะอ่อนน้อมถ่อมตน แต่ที่ภูหลวงคุณค่าทั้งสองมีให้เห็นได้ไม่ยาก แต่จะมีสักกี่คนที่มองทะลุความงดงาม จนเห็นความสงบเสงี่ยมของบรรดากล้วยไม้พันธุ์ไม้ที่นั่น ทั้ง ๆ ที่คุณค่าประการหลังนั้นคือเอกลักษณ์และเสน่ห์ที่สำคัญที่สุดของภูหลวง ถ้าผู้คนซึมซับรับเอาความสมถะของธรรมชาติที่นั่นไปบ้าง ชีวิตจะมีความสุขกว่าเดิม อีกทั้งโลกก็จะน่าอยู่ยิ่งขึ้นด้วย
โดยคุณ ฮานาเล [2005-06-10 12:16:13] #8165 (5/10)

น่าเสียดายที่เรามักไปเที่ยวภูหลวงด้วยความถือตัวถือตนอย่างยิ่ง ไม่เพียงแต่จะชื่นชมความงามของกล้วยไม้เท่านั้น หากยังคิดเก็บความงามเหล่านั้นมาเป็นของตัวอย่างเดียว

จะต้องมีภูหลวงอีกกี่แห่ง ขึ้นภูหลวงอีกกี่เที่ยว เราถึงจะซาบซึ้งกับความอ่อนน้อมถ่อมตน และถือเอาภูหลวงเป็นครูผู้ยิ่งใหญ่ แทนที่จะรุมทึ้งรุมทำร้ายเพื่อสนองตัวตนอันพองโตอย่างไม่รู้จักจบสิ้น.



คัดลอกข้อความจากเวป
http://www.khonnaruk.com>
ขอบคุณรูปดอกไม้สวยๆ จากภูหลวงจาก เวป TNT
โดยคุณ m/'on [2005-06-10 18:12:35] #8168 (6/10)
คงไม่ใช่เฉพาะภูหลวงที่เราได้เห็นดอกไม้สวยๆ ในความรู้สึกส่วนตัวทุกสถานที่ที่ไป แม้ดอกไม้ที่เห็นจะเป็นเพียงดอกหญ้าริมทาง แต่มันก็มีความสำคัญของพื้นที่นั่น ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของระบบนิเวศน์ ตอนที่ไปขุนแม่ยะเดินทางเข้าหมู่บ้านชาวเขาเห็นดอกหญ้าสีเหลืองข้างทางออกดอกพร้อมกันตลอดทางเดิน เห็นแล้วสดชื่นดี มันทำให้รู้สึกหายเหนื่อยและมีกำลังใจ บ่อยครั้งที่เราได้เห็นสิ่งมีชีวิตอื่นๆในบริเวณใกล้เคียงกัน การอยู่ร่วมกันอย่างกลมกลืนทำให้เราทึ่งกับสิ่งที่ได้พบเห็นและไม่น่าเชื่อว่ามันจะเกิดจากธรรมชาติ มันสวยงามตระการ ไม่มีการแต่งแต้มสีสัน ถึงแม้จะตัดต่อพันธุกรรมหรือจับมาผสมพันธ์มันก็ยากที่จะทำได้ เพราะด้วยความยากมันจึงเป็นสิ่งที่คนต้องการไปครอบครอง มันจึงค่อยๆร่อยหรอสูญพันธุ์ไป ส่วนตัวแล้วการจะเด็ดใบไม้สักใบยังคิดแล้วคิดอีกจะเด็ดใบไหนดี เด็ดทำไม เด็ดไปแล้วจะเกิดอะไรขึ้นกับมัน สงสัยจะคิดมากจนวิตกจริต
โดยคุณ m/'on [2005-06-10 18:14:07] #8169 (7/10)

บ่อยๆที่รู้สึกสงสารคนในเมืองใหญ่ที่ไม่มีโอกาสได้เห็น ไม่มีโอกาสได้สัมผัส วันๆเจอแต่สารพิษที่คละคลุ้งอยู่ท่วมตัว พอมีโอกาสจะได้เจอกับสิ่งที่สวยงามกลับต้องมองผ่านขวดกลมๆ แบบไร้สติ ได้แค่รู้ว่ามาเที่ยวแต่ขาดการซึมซับอย่างเข้าใจทิ้งไว้แต่เพียงเศษแก้วแตกละเอียดและขยะเกลื่อนกลาด

นอกจากมองเห็นความสวยงาม ยังมองเห็นการมีชีวิตที่แตกต่างถึงแม้จะเป็นพืชพันธุ์เดียวกัน อย่างเช่นต้นสาบเสือ หนาดขาว ที่ขึ้นรกอยู่บริเวณบ้าน เราถือว่ามันเป็นวัชพืช รก ตายยาก ต้องถางทิ้งบ่อยๆ แต่พอมันขึ้นตามป่าเขามันกลับกลายเป็นพืชชนิดหนึ่งที่มีความสำคัญต่อพื้นที่ จนเผลอใจเรียกดอกไม้ป่า ตอนอยู่บ้านเรียกต้นหญ้า

แต่สงสัยอยู่อย่างเกี่ยวกับนิสัยคนไทยทำไมไม่ค่อยช่วยกันอนุรักษ์เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม อะไรดีไม่ดีคงต้องรอให้ฝรั่งมาบอกเสียก่อน
โดยคุณ นายซาไกทัดดอกฝิ่น [2005-06-10 21:12:42] #8171 (8/10)
เอื้อ..และพึ่งพา....
โดยคุณ ฅนหลังเขา [2005-06-12 16:14:09] #8175 (9/10)
โอ้ว....เราพลาดอะไรไปหรือเปล่าเนี่ย
โดยคุณ Why Me. [2005-06-13 13:57:41] #8185 (10/10)

พวงหยกมุมคล้ายกันเยย เอิ้กๆๆ