กลับหน้าแรก | กระดานข่าวสีเขียว - สีคราม
ค้นหาคำถาม
:: TRIP & TREK :: โลกกว้างของคนเดินทาง :: :: ทริปเดินทาง ::: พาใจไปเที่ยว :: :: TRIP & TREK :: โลกกว้างของคนเดินทาง ::
เชิญตั้งคำถามของคุณได้ที่นี่ครับ
เรื่องเก่าเอามาเล่าใหม่... ตอน ผีในป่า

หลายครั้งหลายหน ที่ความมืดมิดในป่าสร้างความไม่คุ้นชินให้กับเรา ๆ ผู้คุ้นเคยกับแสงจากหลอดนีออน พาลให้จินตนาการไปถึงสิ่งลี้ลับได้ต่าง ๆ นานา ครั้งนึงเมื่อตั้งแคมป์กันที่เขาสอยดาว จ. จันทบุรี ท่ามกลางสภากาแฟข้างกองไฟ เสียงหวีดร้องของบ่าง หรือ กระรอกบิน กรีดลึกลงไปถึงขั้นหัวใจของคนขี้ตาแหกอย่างข้าพเจ้า ...

อีกครั้งที่ภูกระดึง ท่ามกลางความมืดมิดบนทางเดินกลับจากผาหล่มสักตามเส้นทางเลียบผา สามชีวิต กับ หนึ่งไฟฉาย ที่มีถ่านสำรองจำกัด จึงเดินกันกลับท่ามกลางความมืด ทั้งหล่มโคลน ทั้งรากไม้ เล่นเอาขวัญหนีดีฝ่อ แค่เพียงพุ่มไม้เห็นเงาตะคุ่ม ๆ จากแสงจันทร์ ก็ทำให้จิตนการไปได้ต่าง ๆ นา ๆ สุดท้ายสองหอนโหยหวนจากฝูงสุนัขป่า ก็ทำเอาขวัญกระเจิงเกินจะกลับ

ล่าสุดเมื่อสามปีที่แล้ว ณ แคมป์น้ำตกก้อน้อย เปลมุ้งที่เพิ่งถอยมาใหม่เอี่ยม ถูกผูกเข้ากับต้นไม้ที่สูงใหญ่มั่นคง ครั้งแรกก็ย้อมใจกับการผูกเปลโดยหาเพื่อนมาผูกทำเป็นเปลคอนโดอีกชั้น คืนนั้นหลับไปกับเสียงน้ำไหลในลำธาร และผวาตื่นขึ้นหลายหนกับความรู้สึกโล่งโถงเมื่อลืมตาขึ้น พลันจินตนาการไปไกล หากมีคนมายืนชะโชกหน้ามาทีเปลจะทำอย่างไร แล้วก็ผล๊อยหลับไปอีกครั้งกับระแวง ... หลับไปนานเท่าไหร่มันทันรู้ตัว มาตื่นอีกครั้งเมื่อต้นไม้ที่ผูกเปลสั่นคลอนจนรู้สึกได้ เสียงใบไม้ไหวซ่าทำเอาขนลุกไปทั้งตัว .. โดนเข้าแล้วสิเรา คราวนี้ก็สวดมนต์แผ่เมตตาจนหลับไปอีกหน ตึ๊ก... เสียงต้นไม้โดนโยกคลอนอีกครั้ง ใบไม้ไหว ขนลุกทั้งตัว ... ท่ามกลางความเงียบ มีเสียงพลิกตัวจากเพื่อนที่นอนเปลชั้นล่าง เมื่อรู้อะไรเป็นอะไร แทบอยากจะกระโดดลงจากเปล เตะเพื่อนให้หายแค้น.. หน๊อย.... หลอกให้ตูกลัวอยู่ได้ตั้งค่อนคืน

แล้วพวกท่านล่ะ เจอประสบการณ์สยองกันหรือยัง!!!!!!!!!
โดยคุณ Joyful [2006-09-29 09:01:29] Bookmark and Share

โดยคุณ Jungle [2006-09-29 11:09:50] #19855 (1/17)
มีเรื่องเล่า... ปี 2538 สมัยที่ฝึก รด. ปี 3 ที่ปักธงชัย... ตรงค่ายมันเป็นป่าช้าเก่า... หลุมอะรต่ออะไรเต็มไปหมด... ตอนนี้ยังไม่รู้... ด้วยความเหนื่อยอ่อน... เวลารับหน้าที่เวรยาม.. จะรับเฉพาะเวรตรวจการณ์ คือ เดินตรวจไปรอบๆ ค่าย เพราะถ้าเป็นเวรยืน.. จะต้องยืนขาแข็ง ตั้ง 2 ชั่วโมง... ถ้าเป็นเวรตรวจการณ์ก็จะมีเวลาที่เดินลับตาครูฝึก.. แอบหลบไปงีบได้ซักงีบ แล้วค่อยเดินต่อ จะนอนทั้งที ถ้าให้ครูฝึกจับได้ก็เสียเหลี่ยมหม๊ด.... ก็ต้องหลบ โดยการลงไปนอนในหลุม... ม่รู้จะมีใครอึดอัดเพราะเรานอนทับรึเปล่า... เวลาผ่านไป 6 วัน ในคืนสุดท้าย...ต้องฝึกการลาดตระเวณในเวลากลางคืน... ก่อนลงเขาไปยิงปืน...คืนนั้นเดินเริ่มขึ้นเขาทางตอน ตี 2 เดินๆ ไป พอดีเพื่อนกองร้อยข้างหน้ามันปวดท้อง...เราก็เลยวิทยุบอกให้ทั้งหมดหยุดชั่วคราว(เป็นพลวิทยาครัย.. PRC77 หนักมากกก...)ครูฝึกเลยให้เพื่อนๆ ไปสำรวจทาง ว่าพอมีทางจะหามคนเจ็บไปทิ้งไว้ข้างทาง ให้ทหารเอารถจี๊ปมารับได้มั๊ย... เขาใช้ไป 2 คน... พอเดินไปถึงแนวป่า.. ทั้งสองก็แตกกระเจิงกลับมา... "ช่วยด้วย..ผีหลอกๆๆๆ"... พวกเราก็ตื่นเต้นกันใหญ่... (คิดในใจ ทำไมม่หลอกเรามั่งน้า...จะได้แกล้งไข้ขึ้น.. ไม่ต้องแบกวิทยุทหาร หนักตั้ง 10 กว่า ก.ก.)... ครูฝึกถามสองคนนั่น.. ว่า..ผีเป็นยังไง... เขาก็ตอบพร้อมกันเลยว่า อยู่ได้ยินเสียงคราง "ฮือๆๆ" มาจากในราวป่า... ครูฝึกก็เลยใช้พวกเรา...ไปดู กำลังจะพากันเข้าไปดู ก็เห็นมีเงาตะคุ่มๆ สองเงา... ที่ราวป่า... ครูฝึกเลยฉายไปดู.. ปรากฎว่าเป็น รด.ด้วยกัน.. ครูฝึกเลยถามว่าไปหนมา...ทั้งสองตอบอย่างเข้มแข็งว่า..."ไปขี้มาครับ"... เรื่องเลยถึงบางอ้อ... เพราะเสียงที่ได้ยิน..มันคือ เสียง "เบ่ง" ครับ.... รด.ฝึกหนัก+อาหารไม่คุ้น+เครียด เลยท้องผูก... ต้องใช้กำลังภายในมากหน่อย... จนเพื่อต๊กกะใจ...
โดยคุณ คนคุ้นเคย [2006-09-29 11:45:00] #19856 (2/17)
เรื่อง ผีๆ ร้อยเรื่อง ถ้าให้คะแนนความน่าเชื่อได้สักสิบเรื่องก็มากเกิน

เกิดจากความกลัว สร้างจินตนาการ แล้วก็เอามาเล่ากันเป็นตุเป็นตะ

ไม่ใช่ไม่เชื่อ แต่หลายครั้งพอตั้งสติได้ มันก็ไม่ใช่

เคยไปกับพวกล่าสัตว์ เวลาเขาไปนั่งห้างกันตอนกลางคืนกลางป่า

เขาจะไปก่อนตะวันตกดิน เพื่อทำความคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อม

ไม่ว่าจะเป็นลักษณะรูปร่างของต้นไม้ ใบไม้ ก้อนหิน ภูเขา รอบๆ ตัว

เมื่อความมืดคืบคลานเข้ามา ก็สามารถจดจำได้ว่า อะไรอยู่ตรงไหน

ประสาทจะได้ไม่หลอน เพราะในท่ามกลางความมืดมิด ต้นไม้อาจกลายเป็นปีศาจ ใบไม้อาจกวักมือเรียกไหวๆ ให้สะพึงกลัว

ถ้าตั้งสติให้ดีแล้ว สิ่งต่างๆ ที่น่ากลัวอาจเป็นเพียงธรรมชาติที่แวดล้อมเราอยู่เท่านั้นเอง

จากประสบการณ์หลายต่อหลายครั้ง ที่ตั้งสติได้แล้วก็เป็นอย่างที่บอกมา มีเพียงครั้งเดียวเท่านั้นที่คิดว่าน่าจะเป็นเรื่องจริงผ่านตา และจดจำมาจนทุกวันนี้.........
โดยคุณ คนคุ้นเคย [2006-09-29 11:51:43] #19857 (3/17)
เคล็ดลับวิธีการทำให้ขนไม่ลุกเวลากลัวผีในป่า

ง่ายมากๆ ก่อนเข้าป่าให้

โกนขนในร่างกายให้หมดทุกเส้น

รับรองผีมาเป็นกองทัพ

ขนก็จะไม่ลุกอีกเลย
โดยคุณ debby [2006-09-29 14:45:27] #19858 (4/17)
ถ้าไปเที่ยวทะเลแล้วเจอผี
ก็จะกลายเป็น ..... ผีทะเล
โดยคุณ G-girl [2006-09-29 18:34:49] #19859 (5/17)
ม่ายอ่าน ม่ายอ่าน
โดยคุณ หมูสเลนเดอร์ [2006-09-29 21:04:26] #19860 (6/17)
โห........งี้ถ้าเล่าตอนกิน ซาซิมิ.....
........เก๊าะเป็น ผีดิบ อ่ะดิ.....

ม่ายอาวววววว........ ม่ายเล่า.....ม่ายอ่าน....
โดยคุณ J [2006-09-29 23:03:08] #19861 (7/17)
เคยไปพักที่อุทยานสามร้อยยอด บ้านหลังใหญ่มาก นอนได้ 6 คน แต่ไปกันแค่ 2 คน เป็นวันธรรมดา คนน้อย

...โดยส่วนตัวแล้ว ชอบอ่านเรื่องผี เรื่องลึกลับ เชื่อว่ามีจริง แต่ต่างคนต่างอยู่ ก็ไม่กลัวอะไรมากมาย เคยเอาเรื่องผีในโรงแรมไปนอนอ่านเล่นก่อนนอน ตอนไปพักที่โรงแรมแถวบางแสน ก็ตื่นเต้นดี ...

ไม่รู้ทำไม ปีที่แล้วไปนอนที่สามร้อยยอด 2 คืน ที่แหลมศาลา 1 คืน กะ เขาแดงอีกคืน ... นอนหลับไม่สนิททั้ง 2 คืน ตื่นบ่อยมาก เหมือนมีใครมามองน่ะ ไปพักผ่อนแท้ๆ กลายเป็นไปอดนอนแทน จะว่าเรากลัวความเงียบ มันก็ยังไงอยู่ เพราะไปโน่นไปนี่ออกจะบ่อย ไม่เห็นมีอะไร

ตอนกลับมากรุงเทพแล้ว เล่าให้พื่อนที่ประจวบฟัง ได้ความว่า แถวนั้นสมัยก่อนโน้น เป็นที่พวกโจรสลัดมาอยู่กัน ก็มีทั้งฆ่ากันเอง โดนจับ อะไรทำนองนั้น สรุปว่า ถ้าเราจะรู้สึกว่ามีใครมามองเนี่ย มันก็ไม่แปลก

ก็เล่าสู่กันฟังนะ
โดยคุณ J [2006-09-30 01:04:01] #19862 (8/17)

ถึงจะนอนไม่ค่อยหลับ แต่ตอนเช้าก็ยังเดินไปเที่ยวถ้ำพระยานคร สวยนะ มีโอกาสก็ว่าจะไปอีก

ตาแรกว่าจะไปตั้งแต่ตอนเย็นละ ยุงเยอะมาก ไปไม่ไหว ใครจะไปก็อย่าลืมพกพวกกันยุงไปด้วยนะ ยุงดุมั่กๆ
โดยคุณ หมูสเลนเดอร์ [2006-09-30 09:26:54] #19863 (9/17)
@ ...........เสียงเพรียก....แห่งรัตติกาล......

@ ในดึกดื่นคืนหนาว ณ ราวป่า
แผ่วเสียงโหยละห้อยหาในคราฝัน
เสียงแผ่นผาลั่นเลื่อนสะเทือนครัน
เมฆครึ้มอึมครึมครั่นครืนทันใด

@ แว่วเสียงหวู่***่แหลมยะเยือกเย็น
เสียง***่รับไม่ว่างเว้นอยู่หวั่นไหว
ยอดไม้เอนลู่ลมทุกทิศไป
สรรพสัตว์หลีกลี้ไกลไร้สำเนียง

@ เงียบงันราวป่าช้าคราสงัด
เงาตะคุ่มรายล้อมรัดหากไร้เสียง
ค่อยคืบเขยิบคลานอย่างพร้อมเพรียง
สดับเสียงลมหวีดหวิวทุกริ้วเร้น

@ เมฆบังจันทร์สลัวรางที่กลางฟ้า
จันทร์ก็ดับลับสายตาคราที่เห็น
อวลกลิ่นหอมเอียนตลบจากภพเย็น
มืดมน.......อนธกาลเร้น......ในรัตติกาล @
โดยคุณ หมูสเลนเดอร์ [2006-09-30 09:50:31] #19864 (10/17)
มีหลายเรื่องราวที่พบเจอ.................
และยังไม่สามารถหาเหตุผล.....มาพิสูจน์เพื่อหักล้างได้จนเวลานี้

......ในวัยเด็ก....ที่พบพาน.....เราไม่กลัว....แค่แปลกใจ.....
แต่เมื่อมานึกย้อน.....ยามเป็นผู้ใหญ่.....ยังหาเหตุผลมาตอบไม่ได้
......ทำไมถึงเป็น ทำไมถึงเห็นแบบนั้น.......
......และกลับสงสัย.....ทำไมตอนนั้นเราไม่กลัวหนอ......

...จนวันนี้...หลายครั้งที่พบเหตุการณ์แปลกประหลาด....น่าพิศวง.....
ต่างสถานที่......ต่างเรื่องราว......แม้จะพิสูจน์ไม่ได้......
แต่บางสถานที่ก็มี.....สถิติ.....ที่ไต่ถามรู้ได้โดยบังเอิญ......

.....มีบางคราที่เกิดจากจินตนาการของเราเอง....จงพิสูจน์ให้แน่ใจ

......เชื่อ......คือคำตอบ ณ เวลานี้........
คงเหมือนกาลเวลาที่เหลื่อมซ้อน.....เหมือนคลื่นวิทยุที่ลอยล่อง....
......เมื่อพลังงานสัมพันธ์กันพอดี.....ก็เป็นโอกาสที่ได้พบพานกัน

บุญกรรม...วาสนา....คงโคจรมาให้ต้องแผ่บุญ.....
......และอุปถัมภ์จุนเจือกันต่อไป.........
โดยคุณ Ducky [2006-10-03 07:35:14] #19875 (11/17)
ตอนเป็นเด็กๆ แม่บอกเสมอว่าผีไม่มีหรอก มีแต่วิญญาณที่ล่องลอยถ้าสื่อถึงกันเราก็จะมองเห็นหรือรู้สึกได้ ส่วนมากผู้ใหญ่เค้าชอบหลอกเด็กให้เด็กกลัว เป็ดเลยไม่กลัวผีแต่ก็ไม่อยากเจอคะ
โดยคุณ Joyful [2006-10-03 07:57:20] #19877 (12/17)
ตอนเด็ก ๆ พ่อกับแม่ก็บอกว่าผีไม่มีค่ะ เห็นไหมคนตายแต่เราไม่เห็นจะมีผีเขาเลย แม่โตป่านนี้ก็ไม่เคยเจอผี ...

ที่บ้านสอนแบบวิทยาศาสตร์มั่ก ๆ แต่ลูกก็กลัวผีสุด ๆ
โดยคุณ J [2006-10-03 23:49:13] #19893 (13/17)
คนเราบางทีก็แปลกนะ บ่นกลัวผี แต่ชอบดูหนังผี ชอบฟังเรื่องผี

มีเรื่องแปลกอันนึง อันนี้ไม่ใช่เรื่องผี ตอนประมาณซัก 3 ขวบได้ ถึงจะเป็นเรื่องตัวเอง แต่ก็ยังจำอะไรไม่ได้อ่ะนะ เรื่องต่อไปนี้ แม่เล่าให้ฟังทั้งนั้นแหละ

แม่เค้าเล่าว่า เป็นไข้เลือดออก ซึ่งสมัยโน้น หมอเค้าก็ยังไม่ค่อยรู้อะไร เป็นไข้เลือดออก ก็ให้เลือด อะไรประมาณนั้น ทีนี้ อาการก็แย่ลงเรื่อยๆ แม่ก็พาไปนอนโรงบาลที่บ้านโป่ง ซึ่งสมัยนั้น เค้าว่าเป็นโรงบาลที่ดีที่สุดแล้วล่ะ แต่มันต้องข้ามจังหวัด เพราะบ้านอยู่กาญจน์ รถก็ไม่มี ต้องเช่ารถไป

หลังจากไปนอนที่บ้านโป่ง อาการก็ทรุดลงไปอีก เด็กตัวเล็กๆ ไอออกมาเป็นเลือด แม่ก็หมดหวังละ คิดว่าคงไม่รอดแล้ว งั้นถ้าจะตาย ก็ไปตายแถวบ้านแล้วกัน ก็เลยพากลับเมืองกาญจน์ ไปนอนที่โรงบาลประจำจังหวัด ซึ่งตะก่อนนี้ มีฉายาว่าโรงฆ่าสัตว์ (สมัยนี้ไม่ใช่แล้วนะ เดี๋ยวนี้ เค้าพัดตะนาแล้ว)

พอมาถึงโรงบาล ก็พอดีมีเตียงว่างเตียงนึงพอดี ก็เข้าไปเลย ผ่านไปซักพักนึง มีพยาบาลคนนึงซึ่งรู้จักกับแม่ ก็มาดูที่เตียง ก็ดูชื่อคนไข้ (ก็ชื่อเรานี่แหละนะ) ซึ่งเด็กๆ เนี่ย เค้าเขียนแต่ชื่อนะ ไม่เขียนนามสกุล พอเค้าเห็นชื่อคนไข้ เค้าเก๊าะตกใจใหญ่เลย ถามแม่ว่า นี่ลูกพี่เหรอ แม่ก็ว่าใช่ เค้ารีบบอกเลย ...ย้ายๆ ย้ายเตียงเดี๋ยวนี้เลย... แล้วก็รีบหาเตียงให้ จัดการให้เสร็จสรรพ แม่ก็งงๆ นะ แต่ก็เดินตามเค้าไป (ตามประสาคนเข้าโรงบาลนะ เค้าให้ทำอะไรก็ทำ)

พอเสร็จเรียบร้อย แม่ก็ไปถามพยาบาลคนนั้น ว่ามีอะไรเหรอ

พยาบาลก็บอกว่า พี่รู้หรือเปล่า เด็กคนก่อนที่นอนที่เตียงนั้นก่อนที่ลูกพี่จะมานอนน่ะ .. เป็นเด็กผู้หญิง อายุ 3 ขวบ เป็นไข้เลือดออกเหมือนกัน เพิ่งจะเสียไปก่อนที่ลูกพี่จะเข้ามานอน .. และอีกอย่าง เด็กคนนั้นน่ะ ชื่อเค้าเหมือนกับลูกพี่เลย

(ครือว่า ชื่อจริงเราเนี่ย เป็นชื่อที่หาคนสะกดเหมือนกันค่อนข้างยากนะ ยังไม่เคยเจอคนสะกดชื่อเหมือนเราเลยอ่ะ)

หลังจากนั้นเราก็พักรักษาตัวที่โรงฆ่าสัตว์นี่ต่อไป จากสภาพเด็กที่แม่หมดหวังแล้ว เราก็รอดมาเขียนเรื่องให้อ่านกันได้นี่แหละนะ แม่เค้าเชื่อว่า เด็กชื่อนี้ อายุ 3 ขวบ ป่วยเป็นไข้เลือดออก ยมบาลได้พาตัวไปแล้ว เราก็เลยรอดตายน่ะ

ก็ไม่รู้ว่า ตอนแรกที่อาการเพียบน่ะ เพราะดันข้อมูลส่วนตัวเหมือนกันมากไปหน่อย หรือว่า ยมบาลพาไปผิดคน ??
โดยคุณ Ducky [2006-10-04 07:40:04] #19894 (14/17)
หน้าจะพาไปผิดคนนะ พี่ว่า
ไม่หรอก พี่ว่ายังไม่ถึงเวลามากกว่า
โดยคุณ ฅนหลังเขา [2006-10-04 21:00:46] #19917 (15/17)

เอารูปผีมาลงบ้าง....

อันนี้ผีพม่า....
โดยคุณ หมูสเลนเดอร์ [2006-10-05 02:41:36] #19920 (16/17)
กัว.....กัว....กัวผีพม่า....
โดยคุณ Ducky [2006-10-05 07:33:03] #19922 (17/17)
อุ๊ย โตะใจหมดเลย