:: TRIP & TREK :: โลกกว้างของคนเดินทาง ::

เชิญตั้งคำถามของคุณได้ที่นี่ครับ

เวียดนามเปิดเดินรถ โฮจิมินห์-กรุงเทพฯ

      บริษัท Saigon Passenger Coach Co. (Sapaco) เตรียมเปิดเส้นทางให้บริการเดินรถจากนครโฮจิมินห์ เวียดนาม ไปยังกรุงเทพฯ ประเทศไทย โดยวิ่งผ่านกรุงพนมเปญ ในกัมพูชา ภายใต้ข้อตกลงกับคู่สัญญาจากไทย

     บริษัทได้วางแผนที่จะใช้รถบัสปรับอากาศ ที่จัดหาโดยบริษัทไซ่ง่อนบัส เข้ามาให้บริการบนเส้นทางเส้นใหม่ที่จะเริ่มต้นขึ้นในเดือน ก.พ. ที่จะถึงนี้ นายเลวันโต่ย (Le Van Toi) ผู้อำนวยการบริษัท Sapaco ผู้ให้บริการด้านขนส่งและท่องเที่ยว กล่าวกับหนังสือพิมพ์แถ่งเนียน โดยที่ไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับเส้นทางและอัตราค่าโดยสาร

     บริษัท Sapaco ได้เปิดให้บริการรถบัสจากนครโฮจิมินห์ไปยังกรุงพนมเปญ ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. ที่ผ่านมา โดยคิดค่าโดยสารเพิ่มขึ้นจากเดิมเป็น 2 ดอลลาร์สหรัฐ เพื่อให้สอดคล้องกับข้อตกลงกับฝ่ายกัมพูชา

      เมื่อปีที่แล้วเวียดนามได้เปิดเดินรถเส้นทางนครโฮจิมินห์-เวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว สัปดาห์ละ 2 เที่ยวไป-กลับ เนื่องจากต้องใช้เวลาในเดินทางถึง 2 คืน 3 วัน โดยผ่านทางหลวงเลข 9 จ.กว๋างจิ (Quang Tri) และแขวงสะหวันนะเขตของลาว.

ที่มา : ผู้จัดการ Online

โดยคุณ BlackCap [2006-01-10 00:57:19]

โดยคุณ ฮานาเล [2006-01-10 14:28:08] #13685 (1/6)

นั่งรถนานเนี่ย..มันไม่เท่าไหร่นา...ถ้ารถดีๆ .....แต่ขนส่งของเวียดนามนี่...กึยส์..หยองอ่ะ เบาะปรับเอนนอนไม่ได้ก็ไม่ใช่ปัญหา แต่ปัญหามันอยู่ที่ผู้โดยสารอ่ะ...เพราะเค้าสูบบุหรี่กันเกือบทั้งรถ ถึงจะเป็นประสบการณ์ที่น่าหนุก แต่ให้กลับไปอีกก็ต้องทำใจกันนานหน่อยอ่ะ

อีกอย่างนึง....เขาใช้รถของใครอ่ะเวลาวิ่งข้ามประเทศ บางทีเขาเปลี่ยนรถตรงชายแดนอ่ะ....คงไม่ได้ใช้คันเดียววิ่งเข้ามาในไทยหรอกมั้ง....ใครได้ไปแล้วก็มาบอกกันมั่งเด้อ

โดยคุณ ม่อน [2006-01-11 09:30:51] #13693 (2/6)

รู้สึกหยองๆยังไงไม่รู้ เวลาที่เสียไปกับนั่งรถไปกลับจะคุ้มกันไหมเนี่ย แล้วจะเหลือเวลาเที่ยวเท่าไรไม่รู้ แต่ถ้าไปนานๆก็น่าจะเหมาะ แต่พออ่านข้อความของฮานาเลแล้วสงสัยได้เมารถกันตลอดการเดินทาง

โดยคุณ ลับแล [2006-01-17 19:24:27] #14009 (3/6)

การที่เวียดนามจะเปิดเดินรถสาย โฮจิมินห์-กรุงเทพ นั้น ในความคิดของผมนะ ไม่เห็นด้วยและคงไม่คุ้มแน่นอน แต่ถ้าคิดจะลงทุนแบบจริงๆจังๆนะ ทางภาครัฐบาลไทยน่าจะร่อมมือ กันเปิดการเดินรถไฟสายยาว กรุงเทพ-โฮจิมินห์ ยังจะดูดีกว่า อนึ่ง การที่ใช้รถไฟวิ่งสายไกลนั้น ตามระยะทางที่วิ่งผ่านที่ต่างๆยังสามารถรับส่งผู้โดยสารตามจุดต่างๆรวมทั้งยังรับส่งสินค้าระหว่างทางได้ สองรถไฟมีพื้นที่ในการรองรับผู้โดยสารได้มากกว่า โดยแบ่งเป็นโบกี้แต่ละโบกี้นั้นประกอบด้วยโบกี้ผู้โดยสารในแต่ละชั้นซึ่งมีทั้งแบบธรรมดาไปจนถึงแบบเดอะลุกที่เป็นห้องvip มีโปกี้เสบียงไวรองรับผู้โดยสารเวลาหิว ทำให้เป็นระบบมาตฐานแบบเดียวกับรถไฟสายยุโรป ที่รับส่งผู้โดยสารระหว่างประเทศ พูดได้ว่าออกเดินรถเพียงครั้งเดียวสามารถรองรับสินค้าและผู้โดยสารได้ตลอดการเดินทางและในระหว่างทางก็สามารถรับส่งผู้โดยสารและสินค้าได้อีกด้วย เรียกว่าเป็นรถไฟสายโรแมนติดเลยทีเดียว ผมลองนึกเล่นๆดูนะ ถ้าพวกฝรั่งมังค่าต่างชาติต่างภาษาจะคิดเดินทางมายังแถบดินโดจีนโดยเริ่มต้นที่ประเทศไทยเป็นจุดศูนย์กลางคือเดินทางมาลงเครื่องบินที่กรุงเทพ แวะเที่ยวและพักผ่อนตามปหล่งท่องเที่ยวที่เมืองไทย จากนั้นเดินทางโดยรถไฟผ่านชายแดนด้านกัมพูชา แวะเที่ยวนครวัดนครธม เดินทางเข้าโฮจิมินห์ เที่ยวที่เวียดนามจากนั้นเดินทางขึ้นลาวแวะเที่ยวหลวงพระบางแล้วเดินทางเข้าเชียงรุ้ง สิบสองปันนา จากนั้นเดินทางเข้าด่านชายแดนไทยที่แม่สาย แวะเที่ยวที่ภาคเหนือของไทยอีกนิด แล้วค่อยขึ้นเครื่องเดินทางกลับประเทศ โอ๊ว!! ใช้เวลาเดินทางท่องเที่ยวในกลุ่มประเทศอินโดจีนแทบจะทุกที่ที่อยากไป ผมว่าการลงทุนแบบนี้จะดูเห็นผลมากกว่าการเปิดเดินรถอีกเยอะ ลงทุนคงต้องสูงแน่นอนแต่ไม่มากเพราะ เราจับมือกลับกลุ่มประเทศที่อยู่ในลุ่มน้ำอินโดจีนการลงทุนวางรางรถไฟก็ให้แต่ละประเทศนั้นวางของตัวเองเราแค่จัดขบวนรถออกบริการ ทำไมต้องไทยจัดเดินรถเหรอ เพราะประเทศไทยเป็นประเทศที่มีการวางระบบที่ดีกว่าและการบริการก็ดีกว่าแต่ๆๆๆๆๆๆ ขอให้เป็นในรูปแบบบริษัทเช่นเดียวกับการบินไทยนะ รับรองมีกำไลและเห็นผลมากกว่าเยอะ ผมคนหล่ะจะขอใช้บริการรถไฟสายลุ่มน้ำโขงในกลุ่มอินโดจีน ไหนๆๆก็วาดฝันมากและนะ ขอตั้งชื่อให้เลยละกันว่า "อินโดจีนเอ๊กเพรส"

โดยคุณ ลับแล [2006-01-17 19:25:51] #14010 (4/6)

แถมอีกนิดนะดูภายในดิ รถไฟไทยทำได้ก็ทำซะครับ เส้นทางสายอินโดจีน ที่นั่งอย่างกลับเครื่องบิน

โดยคุณ ม่อน [2006-01-18 09:37:35] #14027 (5/6)

ไอเดียของคุณลับแลดีนะครับ แต่คงจะฝันไปอ่ะครับที่จะได้หรูตามรูปน่ะ เอาแค่ปรับปรุงของที่มีอยู่นี่ให้ทุกโบกี้เหมือนสปริ้นเตอร์ก็ยากเต็มทีแล้ว และถ้าจะทำจริงให้และดีที่สุดเพื่อเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดคือทำเป็นรถไฟฟ้าทุกเส้นทาง ทุกภาค จะได้ไม่ต้องเสียเวลากับการเดินทางมาก ราคาก็ไมควรจะเกินที่ชาวบ้านจะจ่ายได้ ผมเดินทางจากเชียงใหม่ไปพิดโลกด้วยรถเร็วปาเข้าไป 8 ชั่วโมงกว่า สปริ้นเตอร์จากพิดโลกมาเชียงใหม่ 6 ชั่วโมง แล้วถ้าไปกรุงเทพฯจะเสียเวลาเท่าไร หูยแค่คิดก็เสียวแล้ว

แต่ก็ยังสนับสนุนไอเดียของคุณลับแลอยู่อ่ะ เราจะได้ใช้ประโยชน์ในการขนถ่ายคนภายในประเทศได้ด้วย แต่ก็คงได้แต่ฝัน

โดยคุณ ลับแล [2006-01-18 10:09:56] #14028 (6/6)

ครับๆๆผมก็คิดเช่นนั้น แต่ที่ลงไปอ่ะแบบแกมประชดนะครับ555...จริงๆแล้วแค่ทำแบบสปิ้นเตอร์ก็โอเคแล้วแต่....ขอนิดนึงนะรถไฟสปิ้นเตอร์บ้านเรานะเสียอยู่อย่างนึง คือผมนั่งจากกรุงเทพไปลงที่อุตรดิตถ์ เป็นรถสปิ้นเตอร์สายกรุงเทพ-เชียงใหม่ ภายในดูแล้วไม่สอาดเลย แถมน้ำแอร์ที่เบาะหน้าผมนั่งจู่ๆก็ไหลออกมาลงใส่ผู้โดยสารไม่ใช่น้อยเลยนะครับเล่นลงมาทีแบบเทเลยแหละ พนักงานต้องหาที่นั่งให้ใหม่และมันก็เป็นเวลากลางคืนด้วยนะครับ พนักงานเปิดไฟแล้วมาตรวจดูเล่นปาไปเป็นชม.กว่าจะหยุดไหล ทำให้โบกี้นั้นไม่ได้หลับไม่ได้นอนกันเลย...ขอทิ้งท้ายอีกนิดนะครับ สปิ้นเตอร์วิ่งระยะยาวเบาะนั่งน่าจะทำการปรับปรุงให้เอนนอนได้มากกว่าที่เป็นอยู่นี้นะครับ คือเอาให้เท่ารถทัวร์ธรรมดาก็พอไม่ต้องถึงกับvipเลยนะครับ แบบคือว่าคนเดินทางนั่งๆนอนๆมันลำบากนิดนึงนะครับ ปล.คุณม่อนอยู่ พิษณุโลคเหรอครับ ไว้มาเที่ยวที่อุตรดิตถ์มั่งนะครับ ไปขึ้นภูเมี่ยงดูนะครับ สวยๆๆๆๆๆดีนอกจากภูสอยดาวก็คงจะไม่พ้นภูเมี่ยงนี่หล่ะ