กลับหน้าแรก | กระดานข่าวสีเขียว - สีคราม
ค้นหาคำถาม
:: TRIP & TREK :: โลกกว้างของคนเดินทาง :: :: ทริปเดินทาง ::: พาใจไปเที่ยว :: :: TRIP & TREK :: โลกกว้างของคนเดินทาง ::
เชิญตั้งคำถามของคุณได้ที่นี่ครับ
นครบางจำ..ของพี่กลางดงดอย

ก่อนอื่นขอประทานโทษพี่กลางดงดอยนะคะ ที่บังอาจเอาเรื่องพี่มาขึันอีกรอบ พอดีนางฟ้าเพิ่งไปที่นี่มาค่ะ บรรยากาศดีคล้ายๆกัน ก็เลยไม่อยากเขียนใหม่ แต่อยากเอารูปมาฝากกันค่ะ ลองดูนะคะ ...
เสียงรถไฟขบวนรถด่วนกรุงเทพฯ - นครศรีธรรมราช วิ่งฝ่าความมืดเข้าไปยังจุดหมายข้างหน้า พวกเราเหล่านักเดินทางหน้าเก่าๆได้เดินทางมุ่งหน้าสู่เส้นทางใหม่ เส้นทางอันแสนยาวไกล ?นครบางจำ?.สู่สายน้ำแห่งการล่องแก่งคลองยัน? ระยะทาง 650 กิโลเมตรจากสถานีรถไฟหัวลำโพง ถึงสถานีบ้านนาสาร ในจังหวัดสุราษฏร์ธานี ใช้เวลานานถึง 14 ชั่วโมง เพราะฉะนั้นรถไฟตู้นอนจึงเป็นสิ่งอำนวยความสะดวกในการเดินทางอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
เกือบ10โมงเช้า รถไฟจึงเข้าสู่ชานชาลาสถานีรถไฟบ้านนาสาร วันนี้พวกเราจะแวะไปพักผ่อนที่บ้านเพื่อน และจะแวะไปเที่ยวชมสวนผลไม้ก่อนที่จะไปสมทบกับเพื่อนอีก2คนที่สถานีรถไฟพุนพินในวันรุ่งขึ้น ตลอดวันจึงหมดไปกับการเดินเที่ยว และชิมผลไม้ในสวน โชคดีที่พวกเรามาถูกฤดูกาลออกผลผลิตของต้นไม้เหล่านี้ ทั้งเงาะ ทุเรียน มังคุด จึงมีให้ชิมกันตลอดทางที่เดินเที่ยวชมสวน คืนนี้พวกเรานอนหลับแต่หัวค่ำเพื่อจะเก็บแรงไว้เดินทางต่อในเช้าวันรุ่งขึ้น การเดินทางสู่นครบางจำ
เช้าวันรุ่งขึ้นหลังอาหารเช้า จึงเดินทางไปสมทบกับเพื่อนร่วมทางอีก 2คน ที่สถานีรถไฟพุนพิน เมื่อถึงจุดนัดพบ เพื่อนทั้งสองรออยู่ก่อนแล้วพร้อมกับคุณสามารถ สุขบรรจง ผู้ประสานงานศูนย์บริการท่องเที่ยวนครบางจำ ? อุทยานแห่งชาติแก่งกรุง เมื่อรวมกลุ่มกันได้จึงเดินทางด้วยรถกระบะ 4 W สู่นครบางจำ
นครบางจำ หมู่บ้านเล็กๆในเขตกิ่งอำเภอวิภาวดี จ.สุราษฏร์ธานี ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งของภาคใต้ โดยได้รับความสมบูรณ์จากผืนป่าของอุทยานแห่งชาติแก่งกรุง เขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าคลองนาคา เขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าคลองแสง คลองยัน และพื้นที่ชุ่มน้ำชั้นหนึ่ง รวมพื้นที่ป่าอนุรักษ์ผืนเดียวกันซึ่งเป็นต้นน้ำคลองยันกว่า 6 แสนไร่ ความสมบูรณ์ของผืนป่าทำให้แม่น้ำคลองยัน ซึ่งเป็นต้นกำเนิดแม่น้ำตาปี มีน้ำใสไหลตลอดทั้งปี ประกอบกับความสวยงามของแก่ง และโขดหินที่ธรรมชาติสร้างมา รวมทั้งสายน้ำ ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่ลุ่มน้ำคลองยันตอนบน เริ่มหันมาทำการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ โดยได้ระดมทุนซื้อเรือยางสำหรับการล่องแก่งโดยเฉพาะ และจัดบ้านของตนให้เป็นที่พักอาศัยในรูปแบบโฮมสเตย์
การเดินทางสู่นครบางจำเส้นทางค่อนข้างลำบาก เนื่องจากภูมิประเทศเป็นภูเขาสูง ถนนขรุขระเป็นหลุมเป็นบ่อ และบางช่วงเป็นดินเหนียว ซึ่งต้องใช้รถขับเคลื่อนสี่ล้อ โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝน การเดินทางนั้นจะยิ่งลำบากมากยิ่งขึ้น ตลอดทางที่ผ่านสองข้างทางจะได้เห็นวิถีชีวิตเกษตรกรชาวใต้ ซึ่งมีรายได้หลักมาจากการทำยางพารา สวนกาแฟ สวนปาล์ม และสวนผลไม้
เมื่อเดินทางมาถึงนครบางจำ พวกเราได้รับการต้อนรับอย่างดีจากชาวบ้านซึ่งเป็นชาวบ้านบางจำ คุณสามารถแยกนักท่องเที่ยวออกเป็น 2 กลุ่มเพื่อไปอาศัยกับชาวบ้านในรูปแบบโฮมสเตย์คืนนี้ เนื่องจากมีนักท่องเที่ยวคนอื่นๆที่สนใจมาท่องเที่ยวด้วย พวกเราทั้ง 6 คนได้ที่นอนคืนนี้เป็นบ้านของพี่ประจวบ ซึ่งบ้านของพี่ประจวบนั้นต้องนั่งรถเข้าไปในหมู่บ้านอีก
ไม่เลวทีเดียวสำหรับที่พักคืนนี้ บ้านไม้ทรงใต้ถุนสูง ตั้งอยู่ในหุบเขา มีสวนผลไม้ และกาแฟล้อมรอบ อากาศตอนเย็นกำลังเย็นสบาย นั่งสนทนากับเจ้าของบ้านสักพัก แล้วจึงไปช่วยภรรยาเจ้าของบ้านจัดแจงทำอาหารเย็น ซึ่งเป็นอาหารพื้นบ้านหาวัตถุดิบได้ภายในหมู่บ้าน
หลังอาหารเย็นจึงมารวมกลุ่มสนทนากบเจ้าของบ้านต่อ มีอดีตผู้ใหญ่ฟุ้งมาร่วมสนทนาด้วย ผู้ใหญ่ฟุ้งได้เล่าถึงการต่อสู้ของชาวบ้านนครบางจำในอดีตเพื่อดำรงอยู่ของชุมชนในปัจจุบัน โดยชาวบ้านในลุ่มน้ำคลองยันตอนล่าง ได้ต่อสู้เพื่อพิทักษ์ป่าผืนนี้ไว้ โดยเมื่อ10กว่าปีก่อน รัฐบาลได้อนุมัติโครงการก่อสร้างเขื่อนแก่งกรุง ชาวบ้านรวมตัวกันคัดค้านเพราะต้องเสียพื้นที่ป่าเป็นจำนวนมาก ชาวบ้านต้องอพยพออกจากพื้นที่และมีบทเรียนเรื่องน้ำเน่าเสีย และทรัพยากรที่สูญเสียไปจากการก่อสร้างเขื่อนเชี่ยวหลาน ทำให้การต่อสู้ยืดเยื้อนานกว่า 3เดือน แต่ในที่สุดชาวบ้านก็เป็นฝ่ายชนะ เมื่อรัฐบาลมีมติยกเลิกโครงการและประกาศพื้นที่ดังกล่าวเป็นเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกรุง เมื่อปี 2535
การท่องเที่ยวแม้ทำรายได้ให้กับประเทศเป็นจำนวนมาก แต่ก็ต้องแลกกับสภาพแวดล้อมที่เสื่อมโทรม ซึ่งไม่มีใครฟื้นฟูให้เหมือนเดิมได้และในหลายพื้นที่มีการเปลี่ยนแปลงชุมชนและวิถีชีวิตเพื่อรองรับธุรกิจท่องเที่ยว แต่ที่นครบางจำการท่องเที่ยวเป็นไปตามศักยภาพของชุมชน โดยจะดำรงความเป็นชุมชนของตัวเองไว้ แม้ว่าจะมีการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์เข้ามาในวิถีชีวิตก็ตาม อดีตผู้ใหญ่ฟุ้งพูดทิ้งท้ายก่อนจะลาจากไปในคืนนี้
ยิ่งดึกอากาศยิ่งเย็นขึ้นเรื่อยๆ บ้านพี่ประจวบเป็นบ้านไม้ยกใต้ถุนสูง มีช่องหน้าต่างที่เปิดให้ลมเข้าได้ จึงรู้สึกเย็นเป็นพิเศษ 4ทุ่มเศษ พระจันทร์ดวงกลมโตจึงโผล่พ้นมาทักทายพวกเราจากยอดเขา แสงจันทร์ทอแสงนวลกระจ่างไปทั่วบริเวณบ้าน คืนนั้นเราซุกผ้าห่มนอนอย่างมีความสุข แม้จะรำคาญจากเสียงกรนของเพื่อนข้างเคียง การรับรู้แนวคิดของอดีตผู้นำชุมชน และของคนในชุมชนทำให้อดคิดไม่ได้ว่า ชุมชนนครบางจำแห่งนี้คงจะดำรงอยู่ได้อีกนาน
รุ่งเช้าทุกคนตื่นขึ้นมาด้วยความสดชื่น วันนี้เราจะไปล่องแก่งกัน หลังอาหารเช้า ซึ่งเป็นอาหารพื้นเมืองรสจัดจ้าน ตบท้ายด้วยเงาะที่กินเท่าไหร่ก็ไม่หมด ร่ำลาเจ้าของบ้านแล้วจึงเดินทางออกไปรวมกลุ่มกับนักท่องเที่ยวอีกกลุ่มหนึ่งเพื่อเดินทางสู่จุดเริ่มต้นของการล่องแก่ง
เมื่อทุกอย่างพร้อมทั้งอุปกรณ์ เรือยาง ชูชีพ หมวกกันน็อค จึงออกเดินทางออกจากหมู่บ้าน เดินเท้าประมาณ 30 นาทีทางสบายๆก็ถึงจุดเริ่มต้น แก่งแรกที่เห็นทันทีที่ลงเรือ ตลอดสายน้ำมีแก่งต่างๆมากมาย ตลอดแก่งกระแสน้ำจะเป็นผันผวน บางช่วงเป็นสันน้ำ บางตอนเป็นโขดหิน พวกเราทั้ง 6 รวมทั้งคนชับ(หมายถึงคนชำนาญ)รวมเป็น 7 ชีวิตต่างช่วยกันคนละไม้คนละมือเพื่อจะให้พ้นแก่งเหล่านี้ จึงไม่ปรากฏว่าเรือยางของพวกเราจะพลิกคว่ำเลยสักครั้ง คงต้องยกความดีความชอบให้คนท้าย กับพี่ผู้ชายในทีมที่คอยดูร่องน้ำให้ ตลอดสองข้างทางจะเป็นป่าอันอุดมสมบูรณ์ ป่าฝั่งซ้ายเป็นเขตของอุทยานแห่งชาติแก่งกรุง ส่วนป่าฝั่งขวาเป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าคลองยัน เมื่อเรือผ่านดงผัก***ดซึ่งเป็นเฟิร์นชนิดหนึ่ง จึงหยุดเรือและเฮโลลงไปเก็บผัก***ดเพื่อเป็นอาหารเย็นนี้อย่างสนุกสนาน
คืนนี้พวกเราได้ที่พักกลางป่าซึ่งเรียกว่าหาดปากชุน อยู่ใกล้กับแก่งปากชุน เป็นหาดทรายและลานหินจำนวนมาก ชาวบ้านที่ล่องเรือหางยาวมาก่อนหน้านี้พร้อมสัมภาระ ได้กางเต๊นท์และจัดเตรียมอาหารรอไว้อยู่แล้ว เป็นอีกทริปหนึ่งที่สบายเหลือเกิน ตกเย็นบนท้องฟ้วพวกเราทุกคนต่างตื่นตาตื่นใจกับฝูงนกเงือกฝูงใหญ่ที่บินผ่านมาอวดโฉมแถวที่พัก ฝูงนกเงือกเป็นดัชนีชี้วัดว่าป่าแถบนี้ยังอุดมสมบูรณ์อยู่
เสร็จจากอาหารเย็นที่มีผัดผัก***ดที่พวกเราเก็บมาระหว่างทางเป็นอาหารจานโปรด จึงมานั่งล้อมวงสนทนากันต่อ ท้องฟ้าคืนนี้ไร้เมฆฝน ฟ้าใสดาวกระจ่างทอแสงระยิบระยับอยู่ทั่วฟ้า 4ทุ่มเศษพระจันทร์ดวงกลมโตสุกสว่างก็โผล่พ้นมาจากทิวเขา พวกเราจึงอำลากันไปนอน
การล่องแก่งวันสุดท้ายนี้ พวกเราต้องผ่านแก่งต่างๆอีกหลายแก่ง และแก่งสุดท้ายที่ผ่านคือแก่งกรุงที่มีระยะทางของแก่งยาวที่สุดคือ 400 เมตร webmasterของthaitrip4u.comได้ลงจากเรือยางเพื่อไปตั้งกล้องถ่ายรูปการล่องแก่งไว้เพื่อเป็นที่ระลึก พ้นจากแก่งกรุงไปในไม่ช้าก็ถึงจุดสิ้นสุดของการล่องแก่ง ซึ่งเป็นสวนผลไม้ของชาวบ้าน เดินผ่านสวนผลไม้เพื่อขึ้นรถสู่ที่ทำการอุทยานแห่งชาติแก่งกรุง อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วจึงอำลาเพื่อนๆน้องๆอีกกลุ่มซึ่งจะไปต่อที่เขื่อนเชี่ยวหลาน ส่วนพวกเราต้องรีบไปให้ทันรถไฟเที่ยวที่จองตั๋วไว้ ขอขอบคุณคุณสามารถที่ส่งพวกเราขึ้นรถไฟทัน
กลางดงดอย?เรื่อง
ขอขอบคุณชาวบ้านนครบางจำทุกคน คุณสามารถ พี่ประจวบเจ้าของบ้านพัก และเพื่อนๆพี่ๆน้องๆร่วมทริปทุกคน
ติดต่อขอทราบรายละเอียดได้ที่ คุณสามารถ สุขบรรจง ผู้ประสานงานศูนย์บริการท่องเที่ยวนครบางจำ-อุทยานแห่งชาติแก่งกรุง โทร 01-3975411 , 077-299398 , 09-8742927 E-mail : bangjum@hotmail.com<BR>; ขอโทษทีไม่มีรูปประกอบ..แบบว่ากลัวกล้องเปียกอะ




โดยคุณ นางฟ้าตะลอนตะลุย Mail to นางฟ้าตะลอนตะลุย [2003-07-03 23:16:51] Bookmark and Share

โดยคุณ นางฟ้าตะลอนตะลุย [2003-07-03 23:20:24] #1409 (1/13)

รูปทะเลหมอกที่ผาไทรน้อยค่ะ
โดยคุณ นางฟ้าตะลอนตะลุย [2003-07-03 23:22:46] #1410 (2/13)

ภาพฝูงนกเงือกกรามช้าง(ถ่ายบริเวณปากบางจำ)
โดยคุณ นางฟ้า [2003-07-03 23:24:34] #1411 (3/13)

น้ำตกโตนบางจำ บริเวณท้ายหมู่บ้าน
โดยคุณ นางฟ้าตะลอนตะลุย [2003-07-03 23:27:36] #1412 (4/13)

สนุกกับแก่งบนสายน้ำคลองยัน
โดยคุณ นางฟ้าตะลอนตะลุย [2003-07-03 23:31:27] #1413 (5/13)

พ่อครัว(หนุ่มนครบางจำ)กำลังเด็ดผัก***ด ที่แค้มป์ริมคลองยัน สำหรับเป็นอาหารมื้อเย็น
โดยคุณ นางฟ้าตะลอนตะลุย [2003-07-03 23:36:18] #1414 (6/13)

กิจกรรมยามว่าง...ก่อนอาหารมื้อเย็นที่แค้มป์กลางป่า หาดปากชุน
โดยคุณ นางฟ้าตะลอนตะลุย [2003-07-03 23:45:20] #1415 (7/13)

น้ำใสแจ๋วเชียวค่ะ...
.........คงพอเห็นภาพความประทับใจนะคะ
โดยคุณ Joyful [2003-07-04 00:09:17] #1416 (8/13)
สวยมาก ๆ เลยค่ะ ไว้มีโอกาสต้องไปบ้างแล้ว อยากเห็นฝูกนกเงือกเยอะ ๆ แบบนี้ คุณนางฟ้า ไปมาเมื่อไหร่คะเนี่ย อากาศเป็นยังไงบ้างคะ
โดยคุณ ช.ช้าง [2003-07-04 01:57:24] #1417 (9/13)
น่าไปจริงๆๆสิบอกให้
โดยคุณ Mr. M-77 [2003-07-04 08:42:24] #1420 (10/13)
ว้าว..... น่าไปน่าไป.....
โดยคุณ กลางดงดอย [2003-07-04 17:34:15] #1424 (11/13)
ขอบคุณๆๆน้องนางฟ้าตะลอนลุย ที่ส่งรูปเข้ามาแจมทำให้เรื่องของพี่กลางดงดอยสมบูรณ์ขึ้น ว่าแต่คุณเวบมาสเตอร์ทั้งสองไม่คิดจะรวมเรื่องกะรูปของนางฟ้ามาเป็นหัวเรื่องใหม่เหรอ อิอิ คิดเลยเถิดใหญ่แล้ว
ใครไม่เคยไปเที่ยวอยากให้ไปกันอ่ะ เพราะความสนุกและบรรยากาศเหมือนในรูปที่น้องนางฟ้าโพสท์มาให้ดูเลย
ว่าแต่รูปหมู่นะดูเหมือนจะมีน้องสามารถ กับพี่เอนกอยู่ด้วยใช่ไหมเนี่ยน้องนางฟ้า
โดยคุณ Joyful [2003-07-05 17:00:52] #1428 (12/13)
อยากทำค่ะ ขออนุญาตคุณกลางดงดอย และ คุณนางฟ้า สำหรับเรื่องและภาพที่จะนำมาทำเป็นเรื่องเล่าไว้ตรงนี้เลยแล้วกันค่ะ ได้รับอนุญาตแล้วจะรีบนำขึ้นให้เร็วที่สุดค่ะ
โดยคุณ กลางดงดอย [2003-07-06 01:15:12] #1430 (13/13)
พี่กลางดงดอยอนุญาต1คน รอคำตอบจากน้องนางฟ้าอีกคนนะคุณเวบมาสเตอร์ที่1