กลับหน้าแรก | กระดานข่าวสีเขียว - สีคราม
ค้นหาคำถาม
:: TRIP & TREK :: โลกกว้างของคนเดินทาง :: :: ทริปเดินทาง ::: พาใจไปเที่ยว :: :: TRIP & TREK :: โลกกว้างของคนเดินทาง ::
เชิญตั้งคำถามของคุณได้ที่นี่ครับ
เปิดใจผู้เฒ่า70พระสหายในหลวง‘วาเด็ง ปูเต๊ะ’
สำเนามาให้อ่านกันค่ะ......ขอพระองค์ทรงพระเจริญ

เปิดใจผู้เฒ่า70พระสหายในหลวง‘วาเด็ง ปูเต๊ะ’
ที่มา -- คม ชัด ลึก

“เป็นไปได้อย่างไรที่คนสามจังหวัดจะอยู่กันอย่างแคบๆ ประเทศเปรียบเหมือนรั้วบ้าน อยู่ที่กว้างๆ กับอยู่ที่แคบๆ อย่างไหนดีกว่ากัน”


ย้อนเวลากลับไปเมื่อ 15 ปีที่แล้วขณะที่ “วาเด็ง ปูเต๊ะ” ผู้เฒ่าวัย 70 ปีแห่งบ้านบาเลาะ ต.ปะเสยะวอ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี กำลังขะมักเขม้นอยู่กับการดูแลต้นทุเรียนและลองกองในสวน ช่วงเวลาใกล้ค่ำได้เห็นคนกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามา หนึ่งในจำนวนนั้นได้กวักมือเรียกให้เข้าไปหา แต่ตัวผู้เฒ่าเองกลับรู้สึกกล้าๆ กลัวๆ ไม่กล้าเข้าใกล้


ผู้เฒ่าเห็นทหารกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามาและกล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินมาทอดพระเนตรความเป็นไปได้ในการสร้างอาคารกั้นน้ำที่คลองน้ำจืดบ้านทุ่งเค็จ ต.แป้น อ.สายบุรี


“ตอนนั้นเป๊าะทราบแล้วว่าเป็นในหลวง แต่จะเข้าไปใกล้ๆ ก็ไม่กล้า เพราะว่านุ่งโสร่งตัวเดียว ไม่ได้สวมเสื้อ พอเข้าไปใกล้ๆ ในหลวงก็บอกว่า จะมาขุดคลองชลประทานให้ พอได้ยินอย่างนั้น เป๊าะก็ดีใจมาก คุยกันเยอะ ท่านถามว่าถ้าขุดคลองสายทุ่งเค็จนี้จะไปสิ้นสุดลงที่ตรงไหน เป๊าะบอกท่านว่า คลองเส้นนี้มีที่ดินติดเขต ต.แป้น ทางเหนือขึ้นไปสุดที่ อ.ศรีสาคร ในหลวงถามต่อว่า ถ้าไปออกทะเลจะมีกี่เกาะ เป๊าะก็ตอบท่านไปว่ามี 4 เกาะ ท่านก็ชมว่า เก่งสามารถจำทุกที่ที่ผ่านไปได้ แล้วท่านก็เปิดดูแผนที่ที่นำมาด้วย แล้วบอกว่า เป๊าะรู้จริง ไม่โกหก ทุกสิ่งที่เป๊าะบอกมีอยู่ในแผนที่ของพระองค์แล้ว” เป๊าะเด็งในวัย 90 ปีทบทวนความทรงจำด้วยแววตาสดชื่น


“ในหลวงคุยกับเป๊าะเป็นภาษามลายู ท่านพูดมลายูสำเนียงไทรบุรี คุยกันก็เข้าใจเลย พอเจอกันบ่อยๆ คุยกัน มีความเห็นตรงกัน ท่านก็เลยรับเป๊าะเป็นพระสหาย เป๊าะบอกว่า ทุกสิ่งทุกอย่างที่บอกท่านไป ทั้งหมดเป็นความจริง พูดโกหกไม่ได้จะเป็นบาป” เป๊าะเด็ง กล่าว


หลังจากได้กราบบังคมทูลเส้นทางขุดคลองในโครงการพระราชดำริแล้ว ในครั้งนั้นผู้เฒ่าแห่งบ้านเบาะเลาะ ยังได้ถวายที่ดินเพื่อดำเนินโครงการพระราชดำริอีกด้วย และหลังขุดคลองชลประทานดังกล่าวเสร็จแล้ว ทุกครั้งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ มาทรงงานและประทับแปรพระราชฐานที่พระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์ จ.นราธิวาส เป๊าะเด็งก็จะไปเข้าเฝ้าฯ แทบทุกครั้ง หรือบางครั้งถ้าหากคิดถึงพระองค์มากๆ เป๊าะเด็งก็จะไปขอเข้าเฝ้าฯ ถึงพระราชวังสวนจิตรลดา


“เวลาถึงหน้าทุเรียน ลองกอง จำปาดะ ก็จะนึกถึงในหลวงตลอด ถ้าท่านมาที่นี่ ก็เอาไปถวายที่นี่ บางปีท่านไม่ได้มา เป๊าะก็ส่งผลไม้ไปถวายท่านทางไปรษณีย์ ส่งอีเอ็มเอสไปเลย เวลาไปส่ง เป๊าะเขียนหนังสือไม่เป็น ก็บอกเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ว่า จะส่งของไปให้ในหลวงที่สวนจิตรฯ เขาก็จัดการให้” เป๊าะเด็ง เล่าด้วยภาษามลายูผ่านล่าม


เป๊าะเด็ง บอกว่า ผลไม้ที่ส่งไปถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถนั้น ถึงพระหัตถ์เสมอ เพราะทุกครั้งที่มีโอกาสได้เข้าเฝ้าฯ ทั้งสองพระองค์มักจะมีรับสั่งว่า “ขอบใจ ผลไม้ที่ส่งไปให้ ได้รับแล้ว”


เมื่อเร็วๆ นี้ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จโดยรถยนต์พระที่นั่งมาเยี่ยมเยียนราษฎรที่บ้านละเวง เป๊าะเด็งก็ได้ไปเข้าเฝ้าฯ


“บอกท่านว่า จะเอาเงาะ ลองกองมาให้ ท่านก็บอกว่า ไม่เอา ปีนี้ผลไม้ราคาไม่ดี ไม่มีคนเข้ามาซื้อ ลำบาก ให้เป๊าะเก็บไว้ให้ลูกหลานกินเถอะ เมื่อวันก่อนในหลวงก็ฝากอินทผลัมมาให้ เป๊าะเองเวลามีผลไม้ดีๆ จะคิดถึงท่านมากๆ ลูกๆ ของท่านทุกคนเวลามา เป๊าะก็ได้ไปหา ทุกคนพูดภาษามลายูได้”


เป๊าะเด็ง เล่าว่า เสียค่าส่งผลไม้ไปถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ครั้งละ 1,000 กว่าบาท เป๊าะเด็งอยากให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถได้เสวยผลไม้ที่ส่งไปถวายเช่นเดียวกับที่ดินที่ถวายไป เป๊าะเด็งก็ไม่เคยคิดเสียดายแม้แต่น้อย และหากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระราชประสงค์จะใช้ประโยชน์ที่บริเวณไหนที่เป็นของเป๊าะเด็งแล้ว เป๊าะเด็งพร้อมที่จะทูลเกล้าฯ ถวายให้ทั้งหมด


“เมื่อในหลวงมาที่ อ.แม่ลานครั้งล่าสุด พอเจอเป๊าะก็เข้าไปกอดเลยไม่ได้พูดอะไรกับท่าน ท่านรู้นิสัยเป๊าะดีว่าไม่ค่อยพูดอะไร ท่านก็เรียกเป๊าะ"


“คิดถึงท่านที่สุดเลย” เป๊าะเด็ง บอกผ่านล่ามเมื่อถูกถามว่ารู้สึกอย่างไรหากไม่ได้เจอพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวนานๆ


เป๊าะเด็ง ยังกล่าวถึงปัญหาความไม่สงบที่เกิดขึ้นในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า “ไม่รู้ว่าโคลนมาจากไหน” เพราะที่ผ่านมาไทยพุทธและมุสลิมอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ชาวบ้านด้วยกันเองไม่เคยมีความขัดแย้งแบ่งแยก แต่ปัญหานี้ทำให้ชาวบ้านเดือดร้อน ออกไปทำมาหากินไม่ได้ ไม่กล้าออกไปทำงาน ทุกครั้งที่มีเหตุการณ์ รู้สึกไม่สบายใจเลย เพราะศาสนาไม่เคยทำให้เกิดความแตกต่างหรือทำให้เกิดการแตกแยกกัน


แม้จะมีปัญหาความไม่สงบเกิดขึ้นอยู่ทั่วไปในพื้นที่ต่างๆ แต่สำหรับความรู้สึกของชาวไทยมุสลิมอย่างเป๊าะเด็ง ยังเหมือนเดิมทุกอย่าง ไม่เคยมีความรู้สึกแบ่งฝักฝ่ายและความสัมพันธ์ระหว่างชาวบ้านทั้งไทยพุทธและมุสลิม ในหมู่บ้านโดยเฉพาะกับคนรุ่นเก่าๆ ยังเหมือนเดิม


“คนที่ไม่หวังดี มีน้อย ถ้าเป็นผู้ไม่หวังดีจริงๆ เขาจะเข้าไปอยู่ในป่า แต่อยู่หลายๆ วันจะอยู่ได้ยังไง เป๊าะสงสัยจะเป็นคนอื่น คนก่อการร้ายเดี๋ยวนี้ไม่ได้อยู่ในป่าเหมือนก่อน แต่มักจะอยู่ในตลาด ไม่รู้ว่าเป็นแผนการของใคร ปัญหานี้ชาวบ้านหนักใจแต่ในหลวงคงหนักใจยิ่งกว่าพวกเราอีก เพราะประชาชนของพระองค์เดือดร้อน”


เมื่อถามว่าคิดอย่างไรกับปัญหาที่รัฐอ้างว่าความไม่สงบที่เกิดขึ้นเพราะมีกลุ่มคนที่ต้องการแบ่งแยกดินแดน และมีการเรียกร้องเอารัฐปัตตานีกลับคืน เป๊าะเด็ง กล่าวว่า การนำรัฐปัตตานีคืนจะเป็นไปได้อย่างไรที่คนสามจังหวัดจะอยู่กันอย่างแคบๆ ประเทศเปรียบเหมือนรั้วบ้าน อยู่ที่กว้างๆ กับอยู่ที่แคบๆ อย่างไหนดีกว่ากัน ต้องถามชาวบ้านว่าต้องการแบบไหนดี


“สิ่งที่พูดออกมาเป็นความจริงทั้งนั้น เมื่อก่อนเราจะไปไหนมาไหนไม่ต้องเป็นห่วง แต่ทุกวันนี้จะออกไปไหนก็ไม่สบายใจ เป๊าะก็กลัว ชาวบ้านแถวนี้ก็กลัวไม่กล้าออกไปไหน กลัวเขาซุ่มอยู่ในป่า” เป๊าะเด็ง กล่าว


เมื่อถามว่าเขาที่ว่านี้เป็นใคร คำตอบสั้นๆ ที่ได้รับจากผู้เฒ่าใจดีคนนี้คือ “ไม่รู้เหมือนกัน ถ้ารู้ก็จะไปบอกในหลวง"

http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K3859330/K3859330.html
โดยคุณ ฮานาเล [2005-11-14 17:36:45] Bookmark and Share

โดยคุณ ฮานาเล [2005-11-14 17:39:08] #12369 (1/7)

โดยคุณ ม่อน [2005-11-14 18:34:44] #12373 (2/7)
***ตัวน้อยน่าเอ็นดูจัง
โดยคุณ BlackCap [2005-11-14 23:10:49] #12384 (3/7)

โดยคุณ ช.ช้าง..น้องโตนแฟนคลับ [2005-11-15 02:03:45] #12385 (4/7)
ผมซาบซึ้งจนพูดไม่ถูกครับ..........
โดยคุณ นายซาไกทัดดอกฝิ่น [2005-11-15 11:49:38] #12391 (5/7)
ในหลวง
สิ่งยึดเหนี่ยวสูงสุด ของเรา
บุญที่ได้อยู่ใต้ร่มพระบารมี
โดยคุณ debby [2005-11-15 16:02:15] #12405 (6/7)
ขอพระองค์จงทรงพระเจริญครับ
โดยคุณ Ducky [2005-11-18 17:13:24] #12498 (7/7)
รักในหลวง เทิดทูนเหนือเกล้าเลยคะ