:: TRIP & TREK :: โลกกว้างของคนเดินทาง ::

เชิญตั้งคำถามของคุณได้ที่นี่ครับ

ปลิงดูดเลือด ฝังหลอดลม พบตัวยาวเป็นคืบ เที่ยวป่าดื่มน้ำห้วย

สุดสยองปลิงดูดเลือด นักเดินป่าโชคร้ายดื่มน้ำในลำห้วย กลับบ้านไอเป็นเลือด

แพทย์เชียงใหม่ตรวจพบปลิงเกาะในหลอดลมนานหลายเดือน เผยดูดเลือดจนตัวโต ระบุเป็นรายแรกของประเทศไทย อีกรายเด็กหญิงวัย 3 ขวบ เห็บหมาอยู่ในหูจนตัวโต

เรื่องราวคนไข้รายหนึ่งของโรงพยาบาลนครพิงค์ที่โชคร้ายดื่มน้ำในลำห้วยขณะเดินป่า ทำให้ปลิงเข้าไปอยู่ในหลอดลมและเกาะกินเลือดจนทำให้คนไข้เกือบเสียชีวิต โดยเหตุการณ์ดังกล่าวถูกเปิดเผยเมื่อวันที่ 28 มกราคม 2548 น.พ.ฉัตรไชย คูณรังสีสมบูรณ์ หัวหน้าแผนกหู คอ จมูก โรงพยาบาลนครพิงค์ จ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้เมื่อประมาณปลายปี 2547 แพทย์ที่แผนกได้ตรวจคนไข้รายหนึ่งที่มีอาการไอเป็นเลือดตลอดเวลา ซึ่งแพทย์ได้ตรวจอาการโดยใช้กล้องส่องลงไปในหลอดลม พบว่ามีปลิงตัวใหญ่เกาะดูดเลือดอยู่ โดยคาดว่าปลิงคงจะเกาะอยู่เป็นเวลานานแล้ว เพราะตัวโตจนคับหลอดลม ทำให้คนไข้หายใจไม่ค่อยสะดวกและไอจามออกมาเป็นเลือด

หัวหน้าแผนกหู คอ จมูก โรงพยาบาลนครพิงค์ จ.เชียงใหม่ กล่าวต่อว่า หลังจากทราบอาการของคนไข้ว่าเกิดจากสาเหตุใด แพทย์จึงได้รักษาด้วยการทำให้ปลิงสลบ โดยให้คนไข้ดมยาสลบ เพราะเมื่อคนสลบปลิงก็จะสลบตามไปด้วย จากนั้นจึงได้ใช้ท่อสอดเข้าไปเพื่อพ่นยาชาไปที่ตัวปลิง เพื่อให้คลายตัว จากนั้นจึงใช้คีมดึงออกมาได้สำเร็จ

น.พ.ฉัตรไชย กล่าวต่อว่า จากการสอบประวัติคนไข้ ทราบว่า หลังจากเริ่มไอเป็นเลือดได้ไปรักษาตามคลินิกทั่วไป โดยแพทย์เข้าใจว่าอาจเป็นวัณโรคจึงได้เอกซเรย์ดูที่ปอด แต่ก็พบว่าปอดปกติ แต่เมื่ออาการหนักขึ้น คนไข้รายนี้จึงได้มารักษาที่โรงพยาบาลนครพิงค์ แพทย์ได้เอกซเรย์ดูที่หลอดลมและหลอดอาหาร ปรากฏว่ามีเงาขนาดใหญ่อยู่ในหลอดลม จึงใช้กล้องขนาดเล็กสอดเข้าไปดูและพบว่าเป็นปลิงเกาะอยู่

"คนไข้รายนี้มีประวัติเป็นนักเดินป่าชาว อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ โดยชอบเดินเข้าป่าพร้อมด้วยนำอาหารเช่นข้าวเหนียว แต่ไม่ได้พกน้ำดื่มติดตัวไปด้วย เพราะหนักและไม่สะดวกกับการเดินทาง เมื่อกระหายน้ำได้ตักน้ำจากลำห้วยดื่มกิน จึงสันนิษฐานว่าน้ำที่ดื่มเข้าไปจะมีตัวอ่อนของปลิงติดเข้าไปด้วย จนทำให้ไปติดอยู่ในหลอดลมและปลิงดูดกินเลือดจนเจริญเติบโต" น.พ.ฉัตรไชย กล่าว

น.พ.ฉัตรไชย กล่าวอีกว่า คนไข้รายนี้นับเป็นรายแรกในประเทศไทยที่พบปลิงเกาะดูดเลือดในหลอดลม เพราะที่ผ่านมาพบเพียงในหลอดอาหาร ซึ่งเป็นเรื่องปกติเมื่อกินอาหารเข้าไป แต่ที่พบในหลอดลมสันนิษฐานว่าเมื่อตัวอ่อนปลิงอยู่ในกระเพาะ และได้เจอกับน้ำในกระเพาะที่เป็นกรดจึงทำให้ไต่กลับขึ้นมา และหลุดเข้าไปในหลอดลม

หัวหน้าแผนกหู คอ จมูก โรงพยาบาลนครพิงค์ จ.เชียงใหม่ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้เมื่อวันที่ 27 มกราคมที่ผ่านมา ได้มีเด็กหญิงวัย 3 ขวบ เข้ามารักษาโดยมีอาการปวดหูและร้องไห้ตลอดเวลา จึงใช้กล้องส่องดู พบว่ามีเห็บขนาดใหญ่อยู่ในหู จึงให้ยาสลบเด็กและพ่นยาชาที่ตัวเห็บก่อนใช้คีมดึงตัวเห็บออกมา

ด้าน น.พ.ชัชวาลย์ ศิรินิรันดร์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครพิงค์ กล่าวว่า นอกจากกรณีของปลิงแล้ว ตัวเห็บจากสัตว์เลี้ยงยังเป็นอันตรายด้วยเช่นกัน จึงอยากขอเตือนนักเดินป่าหรือชาวบ้านว่าให้ดื่มน้ำสะอาด หากจำเป็นต้องดื่มน้ำจากลำห้วยก็ควรต้มให้สุกก่อน เพราะหากไม่ต้มให้สุกเพื่อฆ่าเชื้อโรคแล้วก็จะทำให้ตัวอ่อนของปลิงหรือตัวอื่นๆ เข้าไปเจริญเติบโตในร่างกายได้ ส่วนผู้ที่เลี้ยงสุนัขก็ไม่ควรจะเลี้ยงไว้ในบ้านและไม่ควรพาไปนอนด้วย เพราะเห็บหรือแมลงอื่นๆ อาจเข้าไปในรูหูได้

โดยคุณ คมชัดลึก [2005-01-29 12:14:20]

โดยคุณ นิธาดา [2006-08-17 14:16:52] #18774 (1/1)

อยากทราบว่าถ้าปลิงเข้าไปทางทวารหนักปลิงจะยังมีชีวิตอยู่หรือไม่