ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
มีนาคม 29, 2024, 08:40:09 PM
เรื่องเล่าคนเดินทาง [ ปี 1- 5 ]

+  TRIP & TREK โลกกว้างของคนเดินทาง
|-+  กระดานข่าวสีเขียว
| |-+  เรื่องเล่าคนเดินทาง (ผู้ดูแล: Joyful, กระโจมไฟ)
| | |-+  หมู่เกาะตะรุเตา.....กับวันมหัศจรรย์ของผม(6)
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: [1] ลงล่าง พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: หมู่เกาะตะรุเตา.....กับวันมหัศจรรย์ของผม(6)  (อ่าน 8078 ครั้ง)
kasab
มือใหม่หัดโพสต์
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 46



อีเมล์
หมู่เกาะตะรุเตา.....กับวันมหัศจรรย์ของผม(6)
« เมื่อ: พฤษภาคม 15, 2008, 10:47:41 AM »

หน้าหาดที่เกาะราวี

สำรวจได้ไม่นาน ผมก็ขึ้นมา รู้สึกว่าแสบบริเวณใบหน้าเวลาสวมหน้ากาก แต่แนวปะการังค่อนข้างดีครับ ปลาทะเลจำได้ชนิดเดียวคือ ปลาผีเสื้อหางเหลี่ยมหน้าแดง(Triangular Butterflyfish)



ผมมองหาร่มไม้ ล้มตัวนอนบนหาดทรายโดยใช้ชูชีพเป็นหมอนหนุน รู้สึกสบายจริงๆครับ ลมเย็นๆพัดมาพร้อมกับอากาศที่บริสุทธิ์ ผมพักสายตาก่อนที่จะเผลอหลับไปเล็กน้อย เรียกว่า ถึงจะมีเงินทองมากมาย แต่ถ้าไม่รู้จักการเดินทางก็ไม่มีวันที่จะได้เห็นภาพอันสวยงามแบบนี้ครับ

หรี่ตามองดู สมาชิกเริ่มขึ้นเรือแล้ว เราจึงออกเดินทางต่อ



เกาะยาง

เรามาถึงเกาะยางซึ่งไม่มีเรือนักท่องเที่ยวเลย(ดีจริง) เรือหางยาวของเรา ติดอยู่บริเวณซอกหิน ต้องใช้ความพยายามของพี่คนขับเรือเล็กน้อยจึงสามารถออกมาได้

ด้านล่างมีปะการังผักกาดหรือปะการังแผ่นตั้ง(Coral foliose) ค่อนข้างเยอะและสมบูรณ์จริงๆ นอกจากนี้ก็ยังมีปลาเต๊กเล้ง(Forktail alligator) ชนิดเดียวกับที่ผมเห็นที่หน้าเกาะอาดังเมื่อวานนี้ ปลาผีเสื้อหางเหลี่ยมหน้าแดง(Triangular Butterflyfish) ปลาการ์ตูนส้มขาว(False Clown Anemonefish) ปลาผีเสื้อคอขาว(Collared Butterflyfish) และปลาสลิดทะเลแถบ(Java Rabbitfish)



ผมขึ้นมาคุยกับพี่คนขับเรือ เล่าให้เขาฟังว่า ผมไปดำน้ำมาหลายที่ แต่ปะการังที่นี่ยังสมบูรณ์อยู่มาก ดูจะไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์คลื่นยักษ์สึนามิเลย

พี่คนขับเรือ จึงไขข้อข้องใจว่า ที่ผมเข้าใจนั้นถูกต้อง ที่นี่แทบไม่ได้รับผลกระทบเลย ทั้งๆที่อยู่ตรงข้ามกับเกาะสุมาตรา(พูดเสร็จแกก็ชี้ให้ผมดู) ซึ่งควรจะโดนก่อนที่อื่นๆ แต่กลับเป็นเกาะภูเก็ตที่อยู่ห่างออกไป แต่ได้รับผลกระทบมากกว่า

ชาวเลที่นี่ มีความเชื่อว่า เป็นเพราะบารมีของ “ตุคีรี” ซึ่งเป็นชาวเลคนแรกที่อาศัยอยู่บนเกาะหลีเป๊ะ ใช้มือปัดคลื่นยักษ์ไม่ให้ที่นี่ได้รับอันตราย คลื่นสึนามิ จึงเคลื่อนตัวต่อไปยังเกาะภูเก็ตแทน

หลังเหตุการณ์คลื่นยักษ์สึนามิ 1 วัน ชาวเลที่นี่ต่างนำเครื่องเซ่นไหว้ มาบูชา เพราะเชื่อว่าเป็นเพราะบารมีของท่านที่ช่วยเหลือให้เกาะพ้นภัย หากท่านยังมีชีวิตอยู่ ก็มีอายุหลายร้อยปีแล้ว

ผมถามว่า แล้วท่านมีลูกหลานไหม พี่คนขับเรือบอกว่า ผู้สืบเชื้อสายของท่าน คือ บุคคลที่ใช้นามสกุล(เอ่อ ขอโทษครับ ผมลืมไปแล้ว) แต่ว่า หลายๆท่านก็มีหน้าที่ทางราชการ หลายๆท่านก็เป็นเจ้าของรีสอร์ทบนเกาะหลีเป๊ะในปัจจุบันด้วย


ปะการัง(Sea Fan)

จุดดำน้ำนี้ อยู่ก่อนถึงเกาะอาดังครับ ขนาดแสงแดดเริ่มไม่มีแต่ยังมองเห็นปะการังด้านล่างได้อย่างชัดเจน

แต่บนเรือไม่มีใครลงแล้วครับ(รวมทั้งผมด้วย) อาจเพราะเหน็ดเหนื่อยกันละมั้ง(แต่ผมไม่อยากสวมหน้ากากแล้วครับ แสบหน้าน่ะ 555)



เกาะอาดัง

เป็นอีกครั้งที่ผมกลับมาที่นี่ครับ แต่คราวนี้ไม่ได้มานอนนะ แต่อยู่ในโปรแกรมดำน้ำ ผมเดินไปถ่ายรูปและชี้ให้พี่ๆดูเต๊นส์ของผม(บอกพี่ๆว่า หากใครอยากมานอนที่นี่ คืนนี้ มานอนเต๊นส์ของผมที่จ่ายเงินไปแล้วได้เลย)

ผมไม่อยากเดินไปไกล(เมื่อวานก็เดินไปเกือบสุดหาดแล้ว) เลยทดสอบนอนบนเปลญวนริมหาด(มันช่างสบายจริงๆ จอรจ์ 555)

“เหมียว เหมียว” เสียงของเจ้าแมวน้อย

ผมหันไปพบลูกแมวสีขาว ดูน่ารักและแสนขี้อ้อน จึงเข้าไปเล่นด้วยซะหน่อย

เจ้านี้ ไม่ยอมอยู่นิ่งครับ จะปีนป่ายตัวผมเอาให้ได้(ผมจะถ่ายรูปมันน่ะ) กว่าจะถ่ายได้ เสื้อผมโดนเล็บเจ้าเหมียวจนเป็นรูเลยล่ะ 555

ผมอุ้มเจ้าเหมียวไปให้พี่ๆ ดู แต่ตอนจะกลับขึ้นเรือ เจ้าเหมียวดันวิ่งตามผมลงมาด้วยจนถึงบริเวณที่มีน้ำทะเล ผมต้องรีบอุ้มขึ้นไปด้านบน(แต่ก็ยังลงมาอีก) คราวนี้ จึงรีบอุ้มไปให้ไกลกว่านั้น พร้อมบอกมันว่า อย่าลงมาด้านล่าง เดี๋ยวจะโดนน้ำทะเลซัดเอา

“แหม เนื้อหอม ขนาดแมวยังตามเลยนะ” นันแซวผม

“ไม่หรอกครับ กลัวมันโดนน้ำซัดน่ะ แล้วดันตามลงมาอีก” ผมตอบแบบขำๆ




หลังเกาะกระ

เกาะกระเป็นเกาะเล็กๆอยู่ใกล้ๆเกาะหลีเป๊ะ มองเห็นพื้นด้านล่างได้อย่างชัดเจน น้ำใสแจ๋ว ปะการังก็สมบูรณ์ดี แต่เช่นเดิมครับ ไม่มีใครอยากจะลงด้านล่างแล้ว



สิ้นสุดทริป Snorkeling ในวันนี้ ผมบอกพี่คนเรือว่า ตั้งแต่ผมดำน้ำมา ที่นี่พาไปดำน้ำได้มากจุดที่สุดและคุ้มค่าเม็ดเงินที่สุด(ผมนับรวมได้ 12 จุดครับ)

ผมไม่ได้พูดเกินความจริงเลย เพราะหลายๆที่ ในหนึ่งวัน 6- 7 จุด ก็ถือว่าเก่งแล้ว อาจเป็นเพราะว่าที่นี่ จุดดำน้ำอยู่ใกล้ๆกัน ทำให้สะดวกในการเดินทาง

อีกข้อ คือ ผมได้คนขับเรือที่แฟร์และใจดีด้วย(แม้ใบหน้าจะดูดุก็ตาม) เขาบอกผมว่า เมื่อลูกค้าเหมาเรือมาแล้วก็ต้องพาไปให้มากที่สุด(จนกว่าลูกค้าจะเบื่อ) ยิ่งแต่ละจุดพวกผมใช้เวลาไม่นาน(แต่ถ้าอยุ่ในจุดไหนนานๆ ผมก็จะไม่ได้ถึง 12 จุดหรอกครับ)

จึงทำให้พวกผมได้ไปหลายสถานที่(แต่เขาบอกว่า บางคนจะไม่พาไปแบบนี้ ถึงเวลา 4-5 โมงก็พากลับแล้ว)

กลับมาที่เอเชีย รีสอร์ท แสงสว่างใกล้จะหมดแล้ว ผมรีบกางเต๊นส์ก่อนดีกว่า ขณะกำลังกางอยู่ พี่วิลลี่เดินมาบอกว่า ไม่ต้องกางให้เสียเวลา ให้ผมนอนเต๊นส์ของรีสอร์ทที่ว่างๆอยู่ได้เลย จะได้ไม่เหนื่อย

ในตอนแรก ผมยังนิ่งๆ(เกรงใจอยู่ครับ) จนพี่วิลลี่พูดอีกครั้ง ผมถึงยอมและขอบคุณในความมีน้ำใจของแก

เต๊นส์มีว่างอยู่หลายที่ครับ ผมเลือกใกล้ห้องน้ำที่สุดนี่แหละ ว่าแล้วก็จัดของเข้าเต๊นส์ซะเลย

อาบน้ำเสร็จ หิวข้าวมากๆครับ เลยหาข้าวทานที่ร้านอาหารตรงรีสอร์ทนี่แหละ(ตอนแรกจะไปทานกับสองสาวครับ แต่เธอทานกับกรุ๊ปทัวร์ คนอื่นเยอะแยะเลย ไม่เอาดีกว่า)

อาหารยังไม่ทันมาเลยครับ จูนกับส้มก็มาแล้ว ผมเลยรีบทานแกงเขียวหวานทะเลไข่ห่อราดข้าวอย่างรวดเร็ว พี่ๆที่รีสอร์ทแซวผมว่า

“แหม พอสาวมาหาทำอะไรไม่ถูกเลยนะ”

“เดี๋ยวจะเดินไปหาดพัทยา หาโรตีทานน่ะครับพี่” ผมตอบแบบไหลๆ ไปเรื่อย

ระหว่างทางเดินไปหาดพัทยา ผมเห็นคุณลุงกับคุณป้ากำลังคุยเกี่ยวกับเรื่องกฎหมาย ท่าทางมีเรื่องเดือดร้อน ในฐานะที่ผมเป็นนักกฎหมายจึงสอบถามเพื่อช่วยเหลือ

“มีปัญหาเรื่องกฎหมายเหรอครับ” ผมถาม

“ใช่จ๊ะ”

ผมอาจไม่เก่งเหมือนคนอื่นๆ แต่ผมมั่นใจว่าความรู้ที่ผมมี สามารถช่วยเหลือพวกเขาได้ก็แล้วกัน

มาที่ร้านขาย Postcard เจ้าของร้านต่างแปลกใจที่ยังเจอผมอยู่ ผมเล่าให้พวกเขาฟัง สังเกตได้ว่าวันนี้ มีชาวต่างชาติเข้าร้านเป็นจำนวนมาก

“ผมกลับมาเรียกลูกค้าให้พี่ เห็นไหมครับคนเข้าร้านเยอะเลย 555”

แม้ผมจะเดินทางมาคนเดียว แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะชอบปลีกวิเวกหาที่อ่านหนังสือ เก็บตัวเงียบไม่คุยกับใครเลยนะครับ การได้พูดคุยกับผู้คน เป็นสิ่งที่ผมปรารถนาในการเดินทาง ทำให้การเดินทางของผมสมบูรณ์ยิ่งขึ้น

มาที่ร้านโรตีอีกครั้ง คราวนี้แค่สั่งน้ำแล้วกลับไปดื่มใกล้ๆที่พัก ไม่นั่งทานในร้านครับ

น้ำแตงโมปั่น สดชื่นอร่อยจริงๆ ผมมองเห็นลูกสาวร้านโรตี วันนี้เธอสวมเสื้อฟุตบอลทีม รีล มาดริด ชุดทีมเยือนครับ บวกกับความขยันขันแข็งของเธอ ยิ่งทำให้น่ารักเข้าไปใหญ่(พี่ยิบอกว่า เธอมาอยู่ที่นี่ตั้งแต่เล็กๆแล้ว)

กลับมาส่งสองสาว ณ ที่พัก คราวนี้เราเดินตัดผ่านมาทางโรงเรียนบ้านเกาะอาดัง ผมยังไม่อยากนอนจึงมานั่งคุยกับพี่ยิที่ร้านอาหาร จนเริ่มง่วงและแยกย้ายกันกลับที่พัก(พรุ่งนี้ พี่ยิต้องพาลูกค้าออกไปดำน้ำด้วยครับ)

พอเข้าเต๊นส์ปุ๊บ ฝนก็ตกทันที คราวนี้เลยออกไปไหนไม่ได้แล้วครับ ต้องนอนทันที ก่อนนอนก็ทยอยเก็บของให้เรียบร้อย พรุ่งนี้เช้าผมต้องกลับฝั่งปากบารา ไม่อยากให้ถึงพรุ่งนี้เช้าเลย



16 เมษายน 2551

ตื่นมาอาบน้ำ ฟอกสบู่แต่ละที แสบผิวหนังจริงๆ(ก็อยากเป็นชาวเล ไม่ทาครีมกันแดด สมน้ำหน้าแล้ว 555)

ผมเดินไปหาข้าวเช้าทาน ตั้งใจไว้ว่า ต้องเป็นร้าน “คนเล” ร้านอาหารของชาวบ้านที่เคยทาน คราวนี้ผมคุ้นเคยเส้นทางมากขึ้น สามารถเดินไป-กลับ ถูกต้อง(กว่าจะคุ้นเส้นทางก็วันสุดท้ายพอดี 555)

เช้านี้ผมกลับพร้อมกับพี่ๆ ที่ไป Snorkeling เมื่อวานนี้(กลับเรือเมล์เหมือนกันครับ เที่ยว 10 โมงเช้า)

ระหว่างรอ ผมได้รู้จักกับพี่เอและพี่ยศ โดยเฉพาะพี่เอ เธอเคยเรียนดำน้ำแบบ Scuba กับครูต้อ(ชื่อนี้ผมรู้จักครับ เจ้าไมค์กับพี่ป้อมเคยพูดถึงบ่อยๆ) แต่ด้วยที่ว่ายังมีความรู้สึกกลัวและยังควบคุมร่างกายขณะที่อยู่ใต้น้ำยังไม่ค่อยดี เธอก็เลยไม่ได้ไปดำต่อ นับจากนั้นอีกเลย(ผมชวนเธอมาดำน้ำด้วยกัน รับรองว่า พี่ๆในกลุ่มของผมจะช่วยดูแลเธอให้อย่างดี)

ในวันนี้พี่เอกับพี่ยศยังไม่กลับฝั่งครับ แต่จะออกไปดำน้ำแบบ Snorkeling ว่าแต่ในวันนี้เริ่มมีเมฆดำ อากาศดูไม่ค่อยเป็นใจเท่าไรนัก ก่อนจากกันผมอวยพรให้สนุกสนานและอากาศดี ไร้คลื่นลมในการดำน้ำ

“เจอกันงาน TDEX นะน้อง พี่น่าจะขึ้นไป” พี่ยิบอกผม

“ดีครับพี่ ขึ้นมาเมื่อไรโทรมานะครับ ผมไปอยู่แล้วน่ะ”



ผมมองดูเกาะหลีเป๊ะ ค่อยๆเล็กลงไป นึกในใจว่า ผมจะกลับมาที่นี่อีกให้ได้ ไม่ว่าที่นี่จะเปลี่ยนไปอย่างไร(คราวหน้า น่าจะทำถนนเสร็จแล้วครับ ชาวบ้านเขาบอกผมมา)

ขากลับค่อนข้างเร็วกว่าขามาครับ(หรือผมคิดไปเอง) 2 ชั่วโมงจากเกาะหลีเป๊ะก็ถึงเกาะตะรุเตา จากนั้นอีก 1 ชั่วโมงก็ถึงฝั่งที่ปากบารา

แดดร้อนเปรี๊ยงๆ มองเห็นนักท่องเที่ยวกำลังเตรียมตัวขึ้นเรือเพื่อไปเกาะ(สังเกตได้ว่า มีชาวต่างชาติหลายคน ตรงกับที่พี่ยิเคยบอกไว้เลยครับ)

ผมแบกกระเป๋าแวะทานอาหารกลางวันใกล้ๆท่าเรือ เนื้อทอดกระเทียมบวกไข่เจียวราดข้าว อร่อยจริงๆ

กว่ารถจะออกตั้ง 4 โมงเย็น ผมจึงไม่ต้องรีบนัก ยังมีเวลาไปนั่งเล่นที่ทำการอุทยานบนฝั่ง อีกเล็กน้อย จากนั้น หารถโดยสารไป อ. ละงู ครับ

ตอนแรกไม่ค่อยแน่น ตอนหลังแน่นสุดๆ(จนล้น) บนรถมีนักท่องเที่ยวที่จะไปเที่ยว จ. ตรัง ต่อ และยังมีชาวบ้านอีกหลายคนที่โดยสารไปลง อ. ละงู เหมือนผม(เลยได้มีโอกาสได้ฟังภาษาท้องถิ่นครับ)

ที่นี่คนเยอะครับ ชาวบ้านมาดูการแข่งขันฟุตบอลกัน เพราะอยู่ในช่วงการแข่งกีฬา “จาบังเกมส์” พอดิบพอดี

มาถึงที่บริษัทขนส่ง โลกกลมอีกครับ ผมเจอส้มกับจูน ที่นี่อีก(โดยไม่ได้นัดหมายอีกแล้ว) พวกเธอไปกับบริษัทขนส่งเช่นกัน(ของบริษัททรัพย์ไฟศาล ทัวร์ของพวกเธอ จองให้ไม่ทันน่ะ)

พวกเธอไปรอบก่อนผมเล็กน้อย แต่พวกเธอได้รถของบริษัทแท้ๆครับ แต่ของผมเป็นรถเสริมนะ(ข้อแตกต่าง ลองย้อนไปดูต้นๆเรื่องนะครับ)

ผมมองเห็นภาพที่พ่อแม่ มาส่งลูกเพื่อกลับเข้าไปทำงานในกรุงเทพ ช่างเป็นภาพที่น่าประทับใจจริงๆครับ

เตรียมซื้อของกินให้เรียบร้อย ก่อนที่รถของผมจะมาถึง บนรถเปิดตลกครับ แต่เป็นตลกท้องถิ่นนะ จำได้ว่ามีเอกชัย ศรีวิชัยด้วยครับ(แหลงใต้ครับ แหลงใต้)

ช่วงแวะทานข้าว ต้องระวังให้ดีครับ เพราะคนเยอะมาก ค่อนข้างมั่ว มืดก็มืด หากไม่จำรถให้ดีๆ อาจทำให้หารถไม่เจอก็เป็นได้

ผมรีบทานข้าวก่อนที่จะกลับไปที่รถแต่รถไม่ได้จอดที่เดิมครับ ขณะกำลังมองหารถ โชคดีว่า มีพี่คนหนึ่งที่นั่งอยู่ด้านหน้าผม มาเที่ยวกับแฟนและกลับมาจากเกาะหลีเป๊ะเหมือนกัน ช่วยพามาขึ้นรถ(ต้องขอขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วยครับ)



บทส่งท้าย

เป็นอันจบทริปการเดินทางที่แสนสุขของผมอีกครั้งหนึ่ง และแน่นอนว่ามีเรื่องราวมากมายที่เกิดขึ้นและผมนำมาถ่ายทอดให้ทุกท่านได้อ่านเหมือนเคย

ระยะทางที่ไกล ไม่ใช่ปัญหาในการเดินทางครับเพราะเดี๋ยวนี้การเดินทางค่อนข้างสะดวกกว่าสมัยก่อนมาก ปัญหาจึงอยู่ที่ทุกท่านมากกว่า ว่ามีความพร้อมหรือยังทั้งด้านเงิน ด้านวัน เวลาที่เหมาะสม เป็นต้น

ทุกท่านอาจจะคิดว่า ไอ้นี่มันบ้าหรือเปล่า ไปคนเดียวอีกแล้ว คงไม่มีเพื่อนละมั้ง ผมขอยืนยันว่า นี่เป็นเส้นทางที่ผมเลือกและผมมีความสุขกับมันมากและผมเชื่อว่าหลายๆคนก็คงรู้สึกเช่นเดียวกัน หากได้ทำในสิ่งที่รักที่ชอบ

หมู่เกาะตะรุเตา มีเสน่ห์มากๆ สวยงาม สมคำร่ำลือ อยากให้ผู้อ่านมาเที่ยวเยอะๆนะครับ และอย่าลืมช่วยกันรักษาความสะอาดด้วยนะ จะได้สวยงามไปจนถึงรุ่นลูก รุ่นหลาน

ขอขอบคุณทุกท่านที่ผมกล่าวถึงและไม่ได้กล่าวถึงที่ช่วยอำนวยความสะดวกและช่วยทำให้การเดินทางของผมมีความสุขและสมบูรณ์แบบ

ขอบคุณท่านผู้อ่านที่อ่านเรื่องยาวๆจนจบ หวังว่าคงได้ประโยชน์และสนุกสนานกับการเดินทางของผมนะครับ

พบกันใหม่ในการเดินทางครั้งต่อไปครับ




Phop Payapvipapong

7 May 2008

11.51 am



หมายเหตุ-การดำน้ำแบบ Scuba บนเกาะหลีเป๊ะ มีอยู่หลายร้านครับ หากสนใจตามรอยเส้นทางของผม ติดต่อได้ที่พี่ยิ 086-9461271 ครับ(รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอน)

-สำหรับการดำน้ำแบบ Snorkeling ที่เกาะหลีเป๊ะ หากใช้วิธีเหมาเรือ บริหารเวลาดีๆ วันหนึ่งก็สามารถดำได้หลายจุด แน่นอนว่าครบตามโปรแกรมของเกาะอาดังครับ

- สำหรับการดำน้ำแบบ Snorkeling ที่เกาะอาดัง จะมี 2 โปรแกรม สลับไปเรื่อยๆ หากมีเวลาน้อย ดำตามโปรแกรมที่สองก็พอครับ(จะครอบคลุมโปรแกรมที่หนึ่งเกือบทุกจุด แต่ทั้งนี้ต้องเลือกวันให้ถูกนะครับ)

-การดำน้ำแบบ Snorkeling จึงเลือกได้ตามสะดวกครับ ว่าเราพักอยู่ที่ไหน(อยู่ที่ไหนก็ติดต่อที่นั่น) เพราะคนขับเรือเป็นชาวบ้านบนเกาะ ชาวบ้านจะได้มีรายได้ด้วย ถ้าเป็นเกาะอาดัง อุทยานเพียงแค่จัดคิวเรือให้เท่านั้นครับ

-ที่พักสามารถกางเต๊นส์นอนได้ที่เกาะอาดัง(อุทยานแห่งชาติ) และที่เกาะหลีเป๊ะ(จ่ายเงินค่าใช้สถานที่ให้กับทางรีสอร์ทเหมือนที่ผมทำ) หากจะไปนอนที่เกาะราวี ต้องเตรียมอาหารและเครื่องดื่มไปด้วย(ปัจจุบันน่าจะยังไม่มีร้านอาหารนะครับ เท่าที่เห็นน่าจะมีแค่หน่วยพิทักษ์อุทยาน)

- เรือมีทั้งเรือเมล์และ Speed boat เลือกซื้อเอาตามใจชอบครับ

- หากต้องการไปเกาะไข่ ต้องเหมาเรือจากฝั่งปากบาราไปเองครับ (ถ้าไปเรือเมล์ จะไม่แวะให้ ผมเองก็ไม่ได้แวะ 555 ถ้าไปกับทัวร์เขาจัดอยู่ในโปรแกรมอยู่แล้วครับ)

-การเดินทางไป อ. ละงู จ. สตูล สามารถติดต่อซื้อตั๋วได้ที่สถานีขนส่งสายใต้ทุกวัน มีให้เลือกหลายบริษัท เช่น บริษัททรัพย์ไพศาล บริษัทขนส่ง เป็นต้น (บอกด้วยนะครับ ว่าจะไปปากบารา กันไว้ก่อนจะได้ไม่ผิดพลาด ถ้าไปลงที่ อ. เมือง จะค่อนข้างไกล ถ้าย้อนกลับมา) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 14-15 ชั่วโมง

-หากใครสะดวกไปเครื่องบิน คงต้องมาลงที่ จ. ตรัง ครับ แล้วต่อรถโดยสารไป(คงต้องลองหาดูนะ) จากจุดนี้ ไป อ. ละงู จ. สตูล ก็ไม่ไกลแล้วครับ

-ถ้าไปช่วงต้นฤดูกาลท่องเที่ยวหรือปลายฤดูกาลท่องเที่ยว เช็คสภาพอากาศที่กรมอุตุนิยมวิทยาก่อนออกเดินทางนะครับ คลื่นสูง ตูมๆ อาจจะไม่สนุก นอกจากต้องให้อาหารปลาแล้ว อาจต้องติดเกาะก็ได้นะครับ(เหมือนที่เกาะสุรินทร์ เมื่อวันแรงงานที่ผ่านมา คลื่นสูง 3 เมตรแน่ะ)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 15, 2008, 10:49:21 AM โดย kasab » บันทึกการเข้า

Vouloir, C ' est Pouvoir

http://www.kasab71.blogspot.com/
http://www.oknation.net/blog/kasab71/

Life is Journey!!!! It's great experience!!!!!

http://kasab71.multiply.com/
kasab
มือใหม่หัดโพสต์
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 46



อีเมล์
Re: หมู่เกาะตะรุเตา.....กับวันมหัศจรรย์ของผม(6)
« ตอบ #1 เมื่อ: พฤษภาคม 15, 2008, 10:51:27 AM »

1 ปลาเต๊กเล้ง Forktail alligator                ขอขอบคุณ        http://www.waterworxbali.com

2 ปลาผีเสื้อหางเหลี่ยมหน้าแดง    Triangular Butterflyfish       ขอขอบคุณ       http://www.richard-seaman.com/

3  ปลาผีเสื้อคอขาว    Collared Butterflyfish          ขอขอบคุณ        http://www.reef-guardian.com/


4 ปลาสลิดทะเลแถบ   Java Rabbitfish         ขอขอบคุณ           http://www.scuba-equipment-usa.com/


* tylosaurus-crocodilus_resize.jpg (23.87 KB, 372x300 - ดู 817 ครั้ง.)

* EasternTriangularButterflyfish_resize.jpg (39.74 KB, 365x300 - ดู 766 ครั้ง.)

* Chaetodon_collare_resize.jpg (30.31 KB, 399x300 - ดู 771 ครั้ง.)

* Siganus_javus_resize.jpg (74.56 KB, 400x300 - ดู 774 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า

Vouloir, C ' est Pouvoir

http://www.kasab71.blogspot.com/
http://www.oknation.net/blog/kasab71/

Life is Journey!!!! It's great experience!!!!!

http://kasab71.multiply.com/
kasab
มือใหม่หัดโพสต์
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 46



อีเมล์
Re: หมู่เกาะตะรุเตา.....กับวันมหัศจรรย์ของผม(6)
« ตอบ #2 เมื่อ: พฤษภาคม 15, 2008, 10:53:45 AM »

1-3   ยามเย็นที่เกาะอาดัง 

4 ดอกไม้ บนเกาะ


* DSC02613_resize.jpg (36.71 KB, 225x300 - ดู 762 ครั้ง.)

* DSC02614_resize.JPG (50.03 KB, 400x300 - ดู 756 ครั้ง.)

* DSC02624_resize.JPG (51.62 KB, 400x300 - ดู 752 ครั้ง.)

* DSC02626_resize.jpg (29.57 KB, 225x300 - ดู 736 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า

Vouloir, C ' est Pouvoir

http://www.kasab71.blogspot.com/
http://www.oknation.net/blog/kasab71/

Life is Journey!!!! It's great experience!!!!!

http://kasab71.multiply.com/
kasab
มือใหม่หัดโพสต์
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 46



อีเมล์
Re: หมู่เกาะตะรุเตา.....กับวันมหัศจรรย์ของผม(6)
« ตอบ #3 เมื่อ: พฤษภาคม 15, 2008, 10:56:47 AM »

1 ลูกแมว แสนเชื่อง บนเกาะอาดัง

2 ชาวต่างชาติบนเกาะหลีเป๊ะ

3 ออกเดินทาง กลับท่าเรือปากบารา

4 ถึงท่าเรือแล้ว   ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามครับ  พบกันใหม่ทริปหน้า


* DSC02632_resize.jpg (22.97 KB, 225x300 - ดู 1397 ครั้ง.)

* DSC02634_resize.jpg (34.7 KB, 225x300 - ดู 732 ครั้ง.)

* DSC02636_resize.JPG (47.86 KB, 400x300 - ดู 737 ครั้ง.)

* DSC02640_resize.JPG (51.58 KB, 400x300 - ดู 967 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า

Vouloir, C ' est Pouvoir

http://www.kasab71.blogspot.com/
http://www.oknation.net/blog/kasab71/

Life is Journey!!!! It's great experience!!!!!

http://kasab71.multiply.com/
i-am-ton
สมาชิกกิตติมศักดิ์
นักโพสต์มือวางอันดับ 1
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1089


.... A picture is worth a thousand words ....


เว็บไซต์
Re: หมู่เกาะตะรุเตา.....กับวันมหัศจรรย์ของผม(6)
« ตอบ #4 เมื่อ: พฤษภาคม 15, 2008, 07:00:11 PM »

งึ่มๆๆ ตามไปดูที่ multiply ดีก่า
บันทึกการเข้า

kasab
มือใหม่หัดโพสต์
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 46



อีเมล์
Re: หมู่เกาะตะรุเตา.....กับวันมหัศจรรย์ของผม(6)
« ตอบ #5 เมื่อ: พฤษภาคม 16, 2008, 01:33:31 PM »

งึ่มๆๆ ตามไปดูที่ multiply ดีก่า


ยินดีครับผม ยิงฟันยิ้ม
บันทึกการเข้า

Vouloir, C ' est Pouvoir

http://www.kasab71.blogspot.com/
http://www.oknation.net/blog/kasab71/

Life is Journey!!!! It's great experience!!!!!

http://kasab71.multiply.com/
หน้า: [1] ขึ้นบน พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
 
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.032 วินาที กับ 20 คำสั่ง