ดอยสูงเท่าใด ไม่เกินหัวเข่า คติคำสอนของชาวกะเหรี่ยงที่เราเคยได้ยินจากเนื้อเพลงเมื่อหลายปีก่อน เมื่อใดที่มีโอกาสก้าวย่างไปบนดอยสูง เมื่อความเหนื่อยล้าเกาะกินแข้งขาและแรงใจ คติคำสอนนี้ก็มักจะก้องมาในห้วงความคิดเสมอ ไม่ว่าดอยสูงมากน้อยเพียงใด ขึ้นชื่อว่า "ดอย" เดินขึ้นก็ต้องเหนื่อยเป็นธรรมดา แต่ไม่ว่าอย่างไร เมื่อสองเท้าพาเราก้าวสูงขึ้นไปเรื่อย ๆ ในที่สุดก็ไม่มีดอยใดสูงเกินหัวเข่าของเราอีกต่อไป
บนเส้นทางสู่ยอดเขาคินาบาลู แม้ไม่สูงชันยาวไกลไปกว่าภูเขาหลายลูกในเมืองไทย แต่เพราะการเดินบนที่สูงเหนือระดับน้ำทะเลกว่าสี่พันเมตร ในสภาพความกดอากาศต่ำและออกซิเจนเบาบาง แม้ย่างเพียงไม่กี่ก้าวกับน้ำหนักกระเป๋ากล้องที่คุ้นชินก็ทำให้เหนื่อยได้แทบขาดใจ ในบางครั้งสภาพอากาศก็ไม่อำนวยฝนที่พรำสายในระหว่างเดินทางก็ทำให้การเดินทางยากลำบากขึ้นกว่าเดิม
แต่ในย่างก้าวที่เหน็ดเหนื่อยนั้น กลับพาเราเข้าไปพบพานกับความสวยงามอัศจรรย์ของพันธุ์ไม้ในป่าฝน และ พันธุ์ไม้บนที่สูงที่แปลกตามากมาย ยิ่งบนยอดเขาหินแกรนิตสูงชันนั้น ก็พาให้พวกเราไปยืนอยู่ ณ จุดสูงสุดสมญา หลังคาเอเชียอาคเนย์ ได้ดื่มดำกับทิวทัศน์กว้างไกล 360 องศา ที่งดงามหาที่ใดมาเปรียบ ณ ที่แห่งนี้จึงไม่ มีอะไรมาบรรยายได้ดีเกินกว่า ที่ ๆ พาให้นรกและสรวงสวรรค์มาพบกัน
กระทู้ที่เกี่ยวข้อง
Mt. Kinabalu : where Heaven & Hell met ตอน สวัสดีคินาบาลู - Poring hotspring
http://www.tripandtrek.com/tntboard/index.php?topic=2221.0
Mt. Kinabalu : where Heaven & Hell met ตอน Laban Rata ฉันมาแล้ว
http://www.tripandtrek.com/tntboard/index.php?topic=2223.0
Mt. Kinabalu : where Heaven & Hell met ตอน พิชิตคินาบาลู
http://www.tripandtrek.com/tntboard/index.php?topic=2225.0
Mt. Kinabalu : where Heaven & Hell met ตอน ลาก่อนคินาบาลู
http://www.tripandtrek.com/tntboard/index.php?topic=2226.0
Mt. Kinabalu : where Heaven & Hell met ตอน ตามหาหม้อข้าวหม้อแกงลิงแห่งเมอซิเลา
http://www.tripandtrek.com/tntboard/index.php?topic=2229.0
Mt. Kinabalu : where Heaven & Hell met ตอน ลิงจมูกยาว Proboscis ฝรั่งแก่บนเกาะบอเนียว
http://www.tripandtrek.com/tntboard/index.php?topic=2230.0
ทริปหัวใจเดินทาง # 46
Mt. Kinabalu : where Heaven & Hell met ตอน Laban Rata ฉันมาแล้ว
หกโมงครึ่งวันใหม่ทุกคนก็ทะยอยมาที่ร้านอาหาร น้อง ๆ ที่ร้านกระตือรือล้นทักทาย สวัสดีครับ-ค่ะ กันตั้งแต่เช้า จิบกาแฟร้อน ๆ กินมื้อเช้าแบบ American breakfast กันง่าย ๆ วันนี้ส้มหล่นคนเดียวได้กินใส้กรอกไปตั้ง 6 ชิ้น เพราะเพื่อน ๆ คนอื่นไม่กินใส้กรอกเนื้อนั่นเอง ระหว่างมื้อเช้ารอบ ๆ ร้านอาหารบรรยากาศดีมีสายหมอกลอยอ้อยอิ่ง มีนกหลายตัวบินมาเกาะใกล้ ๆ ให้ได้ดูกันเพลิน ๆ ถึงจะมีเลนส์ความยาวแค่ 250mm เช้านี้ก็เก็บภาพนกมาได้หลายตัว
เจ็ดโมงเช้ารถที่นัดไว้มารับไปส่งที่ Kinabalu National Park Headquarter (1,564 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล) ที่นี่เป็นจุดลงทะเบียนก่อนเดินทางขึ้นสู่ยอดเขา และพบกับไกด์ที่จะนำทางพวกเราขึ้นสู่ยอดเขาในวันนี้ ระหว่างนั้นก็เตรียมกระเป๋า และขอรับข้าวกล่องกลางวันอันประกอบด้วยแซนวิช ไข่ต้ม และ แอปเปิ้ล และ กล้วยลูกเล็ก ๆ อีกสองลูก เจ้าหน้าที่แจ้งว่าไกด์ของพวกเรายังเดินทางมาไม่ถึง ต้องรอพบไกด์ก่อนถึงเพราะไกด์จะต้องเป็นคนติดต่อรถ และ จัดการเรื่องลูกหาบที่จะแบกน้ำหนักของเราขึ้นเขาอีกที
ผ่านไปพักใหญ่ ๆ เจ้าหน้าที่แจ้งว่าไกด์ของเรามาไม่ได้ จึงจัดไกด์อีกท่านมาให้วันนี้พวกเราจึงได้ไกด์ชื่อ Mr. Fabianus (เฟเบี้ยน) ส่วนลูกหาบที่จะมารับภาระน้ำหนักกว่ายี่สิบโลก็คือน้องมิกกี้ เราแจ้งเส้นทางว่าต้องการเดินขึ้นทาง Timpohon gate และเดินลงทางด้าน Mesilau ซึ่งจะยาวกว่าขาขึ้นราวสองกิโลเมตร คุณเฟเบี้ยนแจ้งว่าหากในกลุ่มเรามีใครได้รับบาดเจ็บ หรือว่าเหนื่อยเกินกว่าจะลงทางเมอซิเลา หรือออกจากที่พักที่ Laban rata ได้ช้ากว่าเก้าโมงเช้าก็จำเป็นจะต้องกลับทางทิมโพฮอนเหมือนเดิม ซึ่งเราก็หวังว่าทุกคนจะยังมีแรงเหลือมากพอจะลงทางเมอซิเลา เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยพวกเราก็ออกเดินทางจาก Kinabalu National Park Headquarter ด้วยรถตู้ซึ่งใช้เวลาราว ๆ สิบห้านาทีสู่ Timpohon gate (1,866 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล) ซึ่งเป็นจุดที่จะเริ่มต้นเดินเท้าขึ้นสู่ที่พัก Laban rata จุดพักสุดท้ายก่อนจะขึ้นพิชิตยอดเขาสูงสุดของภูเขาคินาบาลู
เมื่อถึงที่ Timpohon gate คุณเฟเบี้ยนอธิบายเส้นทางให้กับพวกเรา วันนี้เราจะต้องเดินเท้ากันประมาณ 5.8 กิโลเมตร ซึ่งระหว่างทางจะมีจุดพักเป็นระยะ ๆ และวันนี้พวกเราเริ่มต้นกันค่อนข้างสาย(08.50 น.) ฉะนั้นเราจะแวะพักทานมื้อกลางวันกันที่ Mempening shelter ที่กม. 3.5 แทนที่จะเป็นที่ Layang Layang Hut ที่กม. 4 ที่เหมาะสมกว่า เพราะมีศาลานั่งพักมากกว่า ก่อนเดินทางเราได้ยินเสมอว่าไกด์ที่คินาบาลูมักจะคอยเร่งให้เดินเร็ว ๆ เพื่อไปให้ถึงที่พัก เราจึงบอกคุณเฟเบี้ยนว่า
We are fat & old lady, well take more time to reach Laban rata เราบอกคุณเฟเบี้ยนด้วยสีหน้าจริงจัง
คุณเฟเบี้ยนปรายตามองพวกเราแว้บนึง ก่อนจะตอบกลับมาว่าไม่เป็นไรใช้เวลากันได้ตามสบาย คงนึกในใจว่าเค้าไม่ได้คาดหวังอะไรไปมากกว่าพวกเราจะไปให้ถึงที่พักให้ได้เท่านั้น