ผลประกวดภาพถ่าย "สัตว์มีค่า ป่ามีคุณ" ปี 2553

รางวัลการประกวด
ระดับบุคคลทั่วไป

ประเภท ภาพสไลด์สีขนาด 35 มม. และภาพดิจิทัล ( สัตว์ป่า และ ป่าไม้ )
รางวัลที่ 1 ประเภทละ 1 รางวัล
หัวข้อ “สัตว์มีค่า”
: ถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

หัวข้อ “ ป่ามีคุณ”
: ถ้วยประทานสมเด็จพระเจ้าพี่ นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์

และทั้ง 2 ประเภท จะได้รับ
- เกียรติบัตรจากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และกลุ่มบริษัท ทรู
- เงินรางวัลจากกลุ่มบริษัท ทรู จำนวน 45,000 บาท
- สิทธิ์ท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติ หรือเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทั่วประเทศ พร้อมที่พัก เจ้าหน้าที่นำ
ทาง และค่าเข้าฟรี 2 ครั้ง ไม่เกิน 5 คน จำนวน 3 วัน 2 คืน

-------------------------------------------------------------------------------------------------

อันนี้คือภาพที่ได้รางวัลค่ะ ดแล้วอย่ากรี๊ดนะคะ ว่าไม่สวยมันได้รางวัลได้ไง
เพราะคนส่งก็ไม่นึกว่าจะได้เหมือนกัน คุณสามีบอกว่า "กรรมการเอาถั่วทำตา"

ชื่อภาพ โลมไล้ สถานที่ เขาค้อ จ. เพชรบูรณ์
วิธีการถ่าย มินอลต้า Dynax5D ช่องรับแสง f. 6.3 ความเร็วชัตเตอร์ 1/60 วินาที

บรรยายความประทับใจ

หลังจากที่สายฝนพร่ำมาทั้งคืน รุ่งอรุณก็เผยให้เห็นสายหมอกที่โลมไล้หมู่ไม้บนยอดเขาเบื้องหน้า ช่างดูนุ่มนวลงดงาม แต่หากในความงดงามนั้น กลับเป็นขั้นตอนอันสำคัญกับมวลสรรพชีวิต สายหมอกยังความชุ่มชื้น หมู่ไม้เก็บความชื้นเปลี่ยนเป็นสายน้ำและลำธาร หล่อเลี้ยงชีวิตนานา

นับเป็นโชคดีของชาวไทยที่ได้เกิดบนแผ่นดินสยามที่อุดมสมบูรณ์ในทรัพยากรธรรมชาติ อันมีความหลากหลายของธรรมชาติ ผืนป่า สัตว์ป่า และ พรรณไม้ เหนือสิ่งอื่นใดคือเกิดใต้ร่มพระบารมีขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระราชินี ที่ทรงพระปรีชาญาณตระหนักถึงความสำคัญของผืนป่า และ ทรงให้ความสำคัญในการอนุรักษ์ผืนป่า ทำให้มีการอนุรักษ์ผืนป่า ดูแลแก้ไขปัญหา ไม่ว่าจะเป็นแนวคิด “ปลูกป่า 3 อย่าง ได้ประโยชน์ 4 อย่าง” การสร้างฝ่ายแม้วและฝายชะลอน้ำ โครงการหญ้าแฝกอนุรักษ์ดิน โครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ และ โครงการในพระราชดำริอีกหลายโครงการ ทำให้พวกชาวไทยทุกหมู่เหล่าได้อยู่อาศัยร่วมกับผืนป่า มีป่าต้นน้ำลำธาร ที่หล่อเลี้ยงสรรพชีวิตจากบนเขาสูง จนถึงที่ราบลุ่ม และ ชายฝั่งทะเล ได้อยู่เย็นเป็นสุขทำกินบนแผ่นดินนี้ไปตราบชั่วลูกหลาน

ทุกครั้งที่มีโอกาสได้ไปเยือนผืนป่า ทำให้ความรู้สึกเมื่อครั้งยังเด็ก ที่เคยแหงนคอตั้งบ่ามองต้นไม้สูงใหญ่เสียดฟ้า แผ่กิ่งก้านสาขาราวร่มยักษ์ ก็หวนกลับมาในห้วงความคิดทุกครั้ง ความยิ่งใหญ่อลังการของป่าไม้ ความร่มเย็นสมบูรณ์ ซึ่งเรามักจะได้รับการปลูกฝัง ว่าผืนป่านี้เป็นแหล่งดึงดูดเมฆฝน ทำให้มีฝนตก และยังดูดซับน้ำเอาไว้จนกลายเป็นต้นกำเนิดสายน้ำ ทำให้แผ่นดินสมบูรณ์ ในขณะเดียวกันผืนป่านี้ก็ยังช่วยชะลอไม่ให้เกิดน้ำหลาก ทำให้น้ำไม่ท่วม และมีแผ่นดินถล่ม จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่ทำครั้งที่ได้ไปสัมผัสผืนป่า เรามักจะรู้สึกดีเสมอ

ในบางพื้นที่ ผืนป่าที่เคยได้เยือนก็ทำให้รู้ว่า ซุปเปอร์มาเก็ตกลางป่าไม่ใช่เรื่องเกินจริง หน้าฝนมีเห็ด มีหน่อไม้ หน้าแล้งมีผักหวาน มีไข่มดแดง มีปลาตามแอ่งน้ำ มีผักหนาม ผักกูด ให้ชาวบ้านได้เก็บกินไม่มีหมด “บีโกเนียแบบขนกำมะหยี ผมไม่ค่อยอยากเก็บมากินมันสวย เสียดาย” เสียงของลุงสม แห่งบ้านวังลุง เขาหลวงนครศรีธรรมราช ยังก้องในความทรงจำทุกครั้งที่เราได้พบต้นบีโกเนีย

หลายพื้นที่ ผืนป่าเป็นเหมือนร้านขายร้านใหญ่ ที่หมอยาชาวบ้านได้เก็บหาสมุนไพร ไว้บำบัดอาการเจ็บป่วยของผู้คน ยาสมุนไพรแผนโบราณที่ไม่มีเคมีปรุงแต่ง ไม่ทิ้งสารตกค้าง ไม่มีอาการข้างเคียง เพียงแต่รู้จักคุณของต้นไม้ใบหญ้า ภูเขาลูกนั้น ๆ ก็เป็นประหนึ่งเขาสรรพยาในเรื่องรามเกียรติ์

และบ่อยครั้งที่ได้รู้ว่าผืนป่าและธรรมชาติเป็นเสมือนห้องเรียนธรรมชาติ ที่เปิดสอน “ลูกโตน – ลูกเกย” หลานชายตัวน้อย ได้เรียนรู้ชีววิทยา จึงรู้ว่า “ไลเคน” เป็นผู้บุกเบิกสร้างหินให้เป็นดิน “ลูกยาง” และ ลูกไม้ที่หล่นลงมา นั่นเกิดจากแรงโน้มถ่วงของโลกใช่ไหม แล้วความชาญของธรรมชาติจึงได้สร้างสองปีกหมุนให้ลูกไม้ปลิดปลิวไป ได้แพร่กระจายหน่อเนื้อแห่งพงไพร และนี่เป็นเพียงเศษเสี้ยวของผืนป่า ที่ทุกคนพึงได้สัมผัส ได้เข้าใจ และ ตระหนักถึงคุณค่า และหวงแหนเอาไว้เพื่อเราทุกผู้คน
[/size]

	ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน? เมษายน 30, 2024, 04:55:38 PM
[ Home :: Help :: Search :: Calendar :: Login :: Register :: มองผ่านเลนส์ ปี 1- 5 ]
มองผ่านเลนส์ [ ปี 1- 5 ]