ปราสาทนครหลวง

[Asusing]

.

[Asusing]

ปราสาทนครหลวง ตั้งอยู่ ต.นครหลวง อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา

[Asusing]

ในปี พ.ศ. 2174 หลังจากที่พระเจ้าปราสาททองทรงครองราชย์ได้ 2 ปี  พระองค์ได้โปรดเกล้าฯให้ช่างไปถ่ายแบบปราสาทที่ประเทศกัมพูชา เพื่อสร้างขึ้นเป็นที่ประทับแรมระหว่างทางยามเสด็จไปนมัสการพระพุทธบาทที่สระบุรีตามโบราณราชประเพณี  สันนิษฐานว่าปราสาทนครหลวงสร้างไม่แล้วเสร็จในรัชกาลนั้น
คงปล่อยทิ้งร้างหลังกรุงแตกเรื่อยมา  จนในสมัยรัตนโกสินทร์ ตาปะขาวปิ่น ได้สร้างต่อเป็นวัดขึ้นในปี พ.ศ. 2352 (ตรงกับรัชกาลที่ 1 ) ชาวบ้านเรียกว่าวัดนครหรือวัดนครหลวง  วัดนี้กลายเป็นวัดใหญ่เมื่อรัชกาลที่ 5 ทรงเชิญชวนให้พระบรมวงศานุวงค์และชาวบ้านร่วมกันบูรณะ ได้สร้างมณฑปที่มุมหักศอกและระหว่างกึ่งกลางระเบียงคดเชื่อมต่อกันด้วยวิหารคดแทนของเดิมที่พังทลายลง

[Asusing]

ปราสาทนครหลวง ก่อด้วยอิฐทั้งหลังตั้งอยู่บนเนินดิน มีระเบียงล้อมรอบเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัสซ้อนลดหลั่นกันสามชั้น แต่ละชั้นมีประตูเข้าสู่ชั้นสูงสุดนับสิบประตู
ระเบียงคดแต่ละชั้นสร้างปรางค์ประจำทิศทั้งสี่มุม และที่กึ่งกลางก็มีปรางค์ด้วย

[Asusing]

 

[Asusing]

...

[Asusing]

 ...มณฑปอยู่ชั้นบนสุด

[Asusing]

พระพิฆเนศร์หน้ามณฑป

[Asusing]

ภายในมณฑปมีพระพุทบาทสี่รอย มีลักษณะเป็นพระพุทธบาทซ้อนกัน ลึกลงไปในเนื้อหิน  รอยที่ใหญ่ที่สุดกว้างประมาณ 2.50 เมตร ยาว 5.50 เมตร

[Asusing]

มณฑปอีกมุมหนึ่ง

[Asusing]

 

[Asusing]

.....

[Asusing]

ตำหหนักนครหลวง หรือศาลพระจันทร์ลอย  ตั้งอยู่ด้านหน้าปราสาทนครหลวง เป็นสถาปัตยกรรมแบบอาคารจตุรมุข ปฏิสังขรณ์ใหม่ในรัชกาลที่ 5
พระครูวิหารกิจจานุการได้นำพระจันทร์ลอยจากวัดเทพจันทร์ลอย มาประดิษฐานไว้  พระจันทร์ลอยมีลักษณะเป็นแผ่นหินแกรนิตทรงกลมคล้ายดวงจันทร์
ขนาดใหญ่  เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 2 เมตร หนา 6 นิ้ว บนแผ่นหินมีรูปแกะสลักที่ค่อนข้างดูยาก ด้านหนึ่งสลักเป็นรูปเจดีย์สององค์และพระพุทธรูปสามองค์ ส่วนอีกด้านหนึ่งสลักเป็นรูปปลาคล้ายสัญลักษณ์ราศีมีน มีผู้สัณนิษฐานว่าแผ่นหินดังกล่าวอาจเป็นธรรมจักรที่ยังสร้างไม่เสร็จก็เป็นได้

[Asusing]

พระจันทร์ลอย

[Asusing]

อีกมุมของตำหนัก