ใครกันที่สร้างเรื่องเท็จ นิติภูมิ นวรัตน์

[นายซาไกทัดดอกฝิ่น]

ไทยรัฐ หนังสือพิมพ์ฉบับวันปีใหม่ 1 มกราคม นิติภูมิ นวรัตน์ นักเขียนประจำหน้า 2 เขียนบทความชื่อ “หนวดเต่า เขากระต่าย สังคมไทยมีแต่การสร้างเรื่องเท็จมาใส่กัน” เห็นแล้วก็ลองอ่านดูเผื่อจะเกิดสติปัญญา       
       
        แล้วสติปัญญาก็เกิดขึ้นจริงๆ โดยได้ข้อสรุปว่า คนที่มันจงใจสร้างเรื่องเท็จให้เกิดขึ้นในสังคมไทยของเราคนหนึ่งนั้นไม่ใช่ใครอื่น หากคือ นายนิติภูมิ นวรัตน์ นี่เอง
       
        แรกทีเดียวก็ไม่อยากให้ความสำคัญหรอก แต่เห็นว่า ไทยรัฐเป็นหนังสือพิมพ์ที่มียอดขายมาก ชาวบ้านอ่านแล้วอาจจะหลงเชื่อไม่เข้าใจ หรือเกิดความสับสน จึงต้องพูดถึงสักเล็กน้อย ดังนี้
       
        นายนิติภูมิ นวรัตน์ เขียนเอาไว้ว่า
       
       1.เต่าไม่มีหนวด 2. กระต่ายไม่มีเขา 3. หนวดเต่า เขากระต่ายจึงไม่มีอยู่จริง 4. รัฏฐาภิปาลโนบาย คือ วิธีการปกครองบ้านเมือง 5. วิเทโศบาย คือวิธีดำเนินการที่รัฐบาลใช้ปฏิบัติต่อต่างประเทศ 6. หากผู้นำฝ่ายบริหารซึ่งเป็นผู้ใช้รัฏฐาภิปาลโนบายด้อยความสามารถ แถมมีการกระทำที่ข่มเหงคะเนงร้ายประชาชน ชาติบ้านเมืองก็ยากที่จะเดินหน้าไปได้อย่างสุขสงบ
       
        แล้ว นิติภูมิ ก็ตั้งคำถามว่า นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ มีโทษสมบัติอย่างที่ว่ามาหรือเปล่า?  คำถามของเขาก็คืออยากจะบอกประชาชนทั้งหลายทั้งปวงว่า ผู้บริหารบ้านเมือง คือ นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ขาดคุณสมบัติ ขาดความเหมาะสม
       
        เท็จจริงเรื่องนี้จะเป็นประการใดต้องให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกษิต ภิรมย์ หรือโฆษกของท่าน ตอบเองครับ ไม่ใช่หน้าที่ผม
       
        ส่วนที่ผมเห็นว่า นิติภูมิ นวรัตน์ จงใจให้ข้อมูลที่เป็นเท็จ หรือถ้าหากจะบอกว่าไม่จงใจ แต่เขียนด้วยความเชื่ออย่างนั้นจริงๆ ก็แสดงให้เห็นว่า เขาโง่อย่างบัดซบ ไม่สมควรที่จะเขียนหนังสือให้ชาวบ้านอ่าน ให้ชาวบ้านโง่เง่าเต่าตุ่นตามไปด้วย
       
        นิติภูมิ เขียนไว้ในข้อ 21 แถมเน้นด้วยตัวพิมพ์ให้ดูโดดเด่นกว่าข้ออื่นๆ ว่า
       
       21.ส่วนนายกรัฐมนตรีที่มีความสามารถ ซึ่งแม้แต่นานาอารยประเทศก็ยอมรับ กลับถูกสกัดให้ออกนอกประเทศด้วย “ข้อหาส่วนใหญ่” ที่เป็นหนวดเต่า เขากระต่าย ซึ่งพวกเจ้าถ้อยหมอความบางกลุ่มสร้างขึ้นเพื่อให้เป็นความชอบธรรมในการทำลายคนฉลาดปราดเปรื่อง และเพื่อปูทางสว่างโล่งให้คนของตนได้ขึ้นมาปกครองประเทศเท่านั้น
       
        นี่แหละครับที่ผมเห็นว่า นิติภูมิ จงใจเขียนเรื่องเท็จ หรือถ้าหากไม่จงใจก็เขียนด้วยความโง่อย่างบัดซบ
       
        เพราะอะไร?
       
        นายกรัฐมนตรีที่ นิติภูมิ เขียนถึง แม้จะไม่ระบุชื่อ อ่านแล้วก็เข้าใจได้ทันทีว่า คือ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีที่ถูกคณะทหารยึดอำนาจเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 ขณะนี้กำลังหนีคุกเพราะศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษาจำคุก 2 ปี และยังมีคดีอื่นๆ ค้างศาลอยู่ขณะนี้หลายคดี
       
        ทักษิณ เป็นนายกรัฐมนตรีที่มีความสามารถไหม ก็อาจจะมีความสามารถ ไม่เช่นนั้นสร้างเนื้อสร้างตัวสร้างธุรกิจมาไม่ได้ขนาดนี้ และเมื่อมาเป็นนักการเมืองก็ก้าวขึ้นมาถึงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
       
        แต่ความสามารถที่ว่านี้เป็นความสามารถที่ยังประโยชน์ให้เกิดขึ้นกับประเทศชาติและประชาชนหรือไม่ นี่เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
       
        ทักษิณเป็นนายกรัฐมนตรีที่มีความสามารถในการแทรกแซงองค์กรอิสระ ป.ป.ช. กกต.มีความสามารถในการแสวงหาผลประโยชน์ ก่อนเป็นนายกรัฐมนตรีสำแดงบัญชีทรัพย์สินมีเงินไม่กี่หมื่นล้านบาท แต่ตอนกระเด็นจากอำนาจมีเงินเป็นแสนๆ ล้าน มันมาจากไหน ทำมาหากินอะไรมันถึงได้ร่ำรวยขนาดนี้?
       
        นิติภูมิ ลืมไปแล้วหรือว่า กกต.(คณะกรรมการการเลือกตั้ง) ถูกศาลสถิตยุติธรรมตัดสินจำคุก และคดีที่ถูกตัดสินจำคุกนั้นเพราะรับใช้ทักษิณ
       
        นิติภูมิจำไม่ได้หรือว่ามีคนโทรศัพท์มาแสดงความยินดีที่ลงเลือกตั้งแล้วได้คะแนนมากมาย เขาพูดกับนิติภูมิว่า “ดีใจด้วยโว้ยไอ้หมู เอ็งเก่งว่ะ แต่เสียใจนะ นายเขาไม่ให้รับรองผลว่ะ”
       
        คุ้นๆ ไหมเล่า นิติภูมิ มันแทรกแซง มันสั่งการองค์กรอิสระมาได้ตั้งนานแล้วนี่เป็นเรื่องที่นิติภูมิ เจอเข้ากับตัวเองแท้ๆ ยังไม่จำใส่กะโหลกหรอกหรือ?  ไม่รู้สึกเจ็บปวดเลยหรือ?
       
        เรื่องที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาตัดสินจำคุกทักษิณ 2 ปี เพราะทักษิณเป็นนายกรัฐมนตรี กฎหมาย ป.ป.ช.เขาเขียนบังคับเอาไว้ไม่ให้กระทำในเรื่องที่มีผลประโยชน์ทับซ้อน ทักษิณก็ทำเพราะถือว่าตัวมีอำนาจ หรือไม่ก็คิดอย่างที่ นิติภูมิ หรือบรรดาลูกหาบทักษิณคิดหรือเชื่อว่าเป็นความผิดเล็กๆ น้อยๆ แค่ให้เมียซื้อที่ดินของกองทุนฟื้นฟูที่ถนนรัชดาฯ
       
        กฎหมายเขาห้ามก็เพราะเขารู้ว่า หากไม่ห้าม ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ นักการเมืองที่มีอิทธิพลใช้วิธีการเดียวกับทักษิณก็จะเป็นการเอารัดเอาเปรียบคนอื่น เป็นการคอร์รัปชันทางหนึ่ง
       
        นี่ไม่ใช่ข้อหาหนวดเต่า เขากระต่าย หรือใช้พวกเจ้าถ้อยหมอความบางกลุ่มมาสร้างเรื่อง แต่เป็นการพิจารณาของคณะกรรมการคณะหนึ่ง (คตส.) พิจารณาแล้วก็ส่งให้อัยการพิจารณาอีกทีว่าจะฟ้องหรือไม่ฟ้อง ถ้าเห็นว่าสมควรฟ้อง ก็ต้องฟ้องศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งองค์คณะมาจากผู้พิพากษาศาลฎีกา มีองค์คณะ 9 คน
       
        นิติภูมิ ไม่เชื่อในระบบศาลไทย ไม่เชื่อหนึ่งในอำนาจอธิปไตยของไทยอย่างที่ทักษิณ ฮุนเซน และบรรดาลูกหาบทักษิณมันโฆษณาป่าวร้องหรืออย่างไร?   
       
        เอาหมาที่ไหนไปตรวจสอบก็จะได้ความจริงเหมือนกันหมดว่า ที่ดินรัชดาฯ ราคาที่กองทุนซื้อไว้ 2 พันกว่าล้านบาท ที่ตรงนั้นห้ามสร้างตึกสูง แต่มาเปลี่ยนว่าสร้างตึกสูงกี่ชั้นก็ได้เมื่อเมียทักษิณซื้อไว้แล้ว ทักษิณให้วันที่ 31 ธันวาคม วันสิ้นปีเป็นวันทำงาน เพราะเกรงว่าจะโอนที่ตรงนั้นไม่ทัน ขึ้นพ.ศ.ใหม่จะต้องเสียภาษีเพิ่ม ที่ตรงนั้นเมียทักษิณซื้อไม่ถึง 800 ล้านบาท
       
        เรื่องอย่างนี้เขารู้กันทั้งบ้านทั้งเมือง นิติภูมิไปมุดหัวอยู่ที่ไหน?
       
        ยังมีอีก ออกหวย 2 ตัว 3 ตัวโดยที่ไม่เอาเงินเข้าคลัง นั่นไม่เท่ากับตั้งตัวเป็นเจ้ามือหวยเถื่อนเสียเองหรือ แถมยังหน้าด้านใช้เจ้าหน้าที่กองสลากตัวใหญ่ไปจนกระทั่งตัวน้อย พม่าขอกู้ 3 พันล้านบาท มันให้กู้ 4 พันล้านแต่ให้ซื้อของครอบครัวมัน
       
        อย่างนี้เขาไม่เรียกว่าฉลาดปราดเปรื่องหรอกนิติภูมิ เขาเรียกฉลาดแกมโกง ซ้ำยังโกงเยอะเสียด้วย
       
        ตั้งแต่ทักษิณหนีคุกทางการไทยเขาก็ไม่ได้ไล่ล่า อยู่อังกฤษได้ก็อยู่ไป แต่ทักษิณดิ้นรนกระเสือกกระสนเองไม่ใช่หรือ อยากกลับเข้ามามีอำนาจ ไม่อยากติดคุก ไม่อยากถูกดำเนินคดี และเกรงว่าทรัพย์สินส่วนหนึ่งที่แสวงหาได้ระหว่างที่อยู่ในอำนาจจะถูกยึด จึงได้ป่วนบ้านป่วนเมือง จนบางครั้งเป็นการเผาบ้านเผาเมืองอย่างเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาแล้วในเดือนเมษายนที่ผ่านมา
       
        นิติภูมิไปมุดหัวอยู่ที่ไหนจึงไม่รู้เรื่องเหล่านี้ หรือรู้แต่แกล้งโง่ หรือโง่อย่างบัดซบจริงๆ

[Asusing]