ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
มีนาคม 29, 2024, 05:45:36 AM
หน้าแรก ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
ผีเสื้อและดอกไม้ [ ปี 1- 5 ]

+  TRIP & TREK โลกกว้างของคนเดินทาง
|-+  กระดานข่าวสีเขียว
| |-+  กวีแรมทาง (ผู้ดูแล: Trekkathon, นายซาไกทัดดอกฝิ่น, bamboo)
| | |-+  สอ.สอ..ชาติชั่ว
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: [1] ลงล่าง พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: สอ.สอ..ชาติชั่ว  (อ่าน 4992 ครั้ง)
สอ.สอ..ชาติชั่ว
« เมื่อ: พฤศจิกายน 14, 2009, 05:30:20 PM »

........

กู.ประชาหน้าดำ ทำงานเหงื่อหยดรดหลัง..ด้วยหน้าที่

เป็นลูกจ้าง นายแรงสั่ง แบกขนหาม  ห้ามเลี่ยงหลบ

ป่วยไข้ จะขาดต้องลาบอก ตามสิทธิ์ที่จำกัด

วิสาสะ โดดงาน หลบหน้าที่มีหวัง.....ถูกไล่ออก

....

วันนี้ ไอ้สอสอ  หน้าไม่อาย  ทิ้งหน้าที่

หลบหลีกหนี  ประชุมสภา  ทำหน้าด้าน

ไปซบอก  ไปซบไข่   ไอ้โจรบ้า

ไอ้ขี้ข้า    สอสอเสือก  เกลือก..อาจม

.....

ก่อนเลือกตั้ง  มึงตั้งหน้า   ขอหน้าที่

ผมคนดี  เลือกผมเถิด   ท่านทั้งหลาย

 ยกมือกวัก  ยกมือไหว้  ได้แม้หมา

ยอมหน้าชา  ขอเพียงกู  เป็นผู้แทน

...

พอสอบได้     เป็นสอสอ       ล้วนลำพอง

อวดจองหอง    เดินเชิดหน้า  ลืมหน้าที่

กอบโกย     โกงกิน      ทุกถิ่นที่

หน้าที่นี้ คือของจริง    ที่....กูทำ

....

มึงรับใช้     นายมึง    กูไม่ว่า

แต่มึงท้า    มึงดูถูก    คนไทยเห็น

นายมึงชั่ว  นายมึงหมิ่น  แผ่นดินไทย

มึงเป็นใคร   มาจากไหน  อย่า....ลืมตีน

............................

หน้าที่มึง    คือ.หน้าที่    ช่วยประชา

คนที่กา    เขาเลือกมึง    หวังให้แทน

ประกาศสิทธิ์   พิทักษ์สุข    ราษฎร

พวกมึงวอน  ลืมหน้าที่   ที่...พึงทำ

................

สถาล่ม    ซ้ำซาก        มันบ่งบอก

สภาถอก     สอสอปลิ้น    ใช้ลิ้นช่วย

ไม่ได้ทำ    ไม่ได้สน     หน้าที่ตัว

สอสอชั่ว  จึงสุมหัว      หนี....ประชุม

..............................

กูหนีงาน        เจ้านาย         ต้องไล่ออก

มึงกลับกรอก    ไม่ประชุม      ต้องรุมไล่

กระชากปลด     ตำแหน่ง  สายสะพาย

แตะก้นไล่  ไปเขมร   ไอ้.............เดนคน


* layy1.JPG (33.54 KB, 600x381 - ดู 424 ครั้ง.)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 14, 2009, 05:33:46 PM โดย นายซาไกทัดดอกฝิ่น » บันทึกการเข้า

ยังจำได้ดี  และคิดถึง..อยู่ทุกวัน...
Re: สอ.สอ..ชาติชั่ว
« ตอบ #1 เมื่อ: พฤศจิกายน 14, 2009, 07:48:41 PM »

1.สมัยประชุมสามัญทั่วไป วันที่ 22 มกราคม 2552 ตรวจสอบองค์ประชุมด้วยวิธีการขานชื่อ ปรากฏว่ามีสมาชิกอยู่ในที่ประชุม 219 คน ไม่ถึงกึ่งหนึ่งที่ 227 คน ทำให้ประธานต้องสั่งปิดประชุมเวลา 18.35 น.

2.สมัยประชุมสามัญทั่วไป วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2552 ระหว่างการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ผู้สูงอายุ นายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย เสนอให้นับองค์ประชุมด้วยวิธีการขานชื่อ ปรากฏว่า นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้สั่งปิดประชุมเวลา 22.47 น. ก่อนที่จะมีการนับองค์ประชุม หลังจากเห็นว่าสมาชิกอยู่ในห้องบางตา

3.สมัยประชุมสามัญทั่วไป วันที่ 4 มีนาคม 2552 ก่อนลงมติรับหลักการร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองการดำเนินงานของสถาบันความร่วมมือเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจ ประธานสั่งตรวจสอบองค์ประชุม ปรากฏว่ามีสมาชิกแสดงตน 220 คน ไม่ครบองค์ประชุมกึ่งหนึ่งที่ 232 คน ประธานจึงสั่งปิดประชุมเวลา 20.10 น.

4.สมัยประชุมสามัญทั่วไป วันที่ 8 เมษายน 2552 มีการตรวจสอบองค์ประชุม ก่อนลงมติเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบ กรณีวุฒิสภาแก้ไขเพิ่มเติมร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร ปรากฏว่ามีสมาชิกแสดงตน 137 คน ไม่ครบกึ่งหนึ่งที่ 234 คน ทำให้ประธานสั่งปิดประชุมเวลา 17.15 น.

5.สมัยประชุมสามัญนิติบัญญัติ วันที่ 21 ตุลาคม 2552 ระหว่างการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ ในวาระสอง ประธานในที่ประชุมได้ตรวจสอบองค์ประชุมก่อนลงมติในมาตรา 4 ปรากฏว่ามีสมาชิกแสดงตน 234 คน เกินกึ่งหนึ่งมาเพียง 4 เสียง ทำให้นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย เสนอให้นับองค์ประชุมด้วยวิธีการขานชื่อ เนื่องจากมีชื่อตนเองปรากฏทั้งที่ไม่ได้เสียบบัตร จึงมีการโต้เถียงกันระหว่างฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน ทำให้นายชัยสั่งปิดประชุมเวลา 20.30 น. ก่อนที่จะมีการนับองค์ประชุม

6.สมัยประชุมสามัญนิติบัญญัติ วันที่ 28 ตุลาคม 2552 ระหว่างการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการปฏิบัติต่ออากาศยานที่กระทำผิดกฎหมาย ในวาระสอง ก่อนที่จะลงมติในมาตรา 32 โดยนายสามารถ แก้วมีชัย รองประธานสภา คนที่ 1 ประธานในที่ประชุม สั่งตรวจสอบองค์ประชุมด้วยวิธีการเสียบบัตร ปรากฏว่ามีสมาชิกอยู่ไม่ครบองค์ประชุม โดยที่นายสามารถไม่ได้ขานผลการนับคะแนน แต่ได้สั่งเลื่อนการลงมติและปิดประชุมทันทีเวลาประมาณ 22.00 น.

7.สมัยประชุมสามัญนิติบัญญัติ วันที่ 4 พฤศจิกายน 2552 ช่วงก่อนลงมติรับหลักการร่าง พ.ร.บ.เวนคืนอสังหาริมทรัพย์เพื่อ สร้างทางพิเศษสายรามอินทรา-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร ในท้องที่เขตบางเขน สายไหม และเขตคลองสามวา กทม. ตรวจสอบองค์ประชุมพบว่ามีสมาชิกอยู่ในห้องประชุมบางตา เหลืออยู่เพียง 234 คนรวม พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานสภาที่แสดงตนอยู่ในห้องประชุมด้วยเป็น 235 คน ถือว่าไม่ครบกึ่งหนึ่งขององค์ประชุม ที่ต้องมีเสียงกึ่งหนึ่งคือ 238 เสียงจากสมาชิกที่ปฏิบัติหน้าที่ได้จำนวน 475 คน ทำให้ พ.อ.อภิวันท์ต้องขอเลื่อนการลงมติและชิงปิดประชุมในเวลา 19.20 น.

ขณะที่การประชุมร่วมกันของรัฐสภา ในสัปดาห์ถัดมา ก็ล่มไป 2 ครั้งติดกัน

โดยวันที่ 9 พฤศจิกายน พิจารณาบันทึกการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา รัฐบาลต้องการให้ประชุมลับ แต่ ส.ส.ฝ่ายค้าน ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลบางส่วน ส.ว. ไม่ยอม วิป 3 ฝ่ายจึงไปหารือกันและสรุปว่าให้รัฐบาลถอน แต่ปรากฏว่าก่อนการลงมติอนุมัติ มีสมาชิกแสดงตน 298 คน ไม่ครบองค์ประชุมที่กึ่งหนึ่งจำนวน 312 คน จากสมาชิกรัฐสภา 624 คน ทำให้นายชัยประกาศว่า ให้นับองค์ประชุมใหม่ในวันที่ 10 พฤศจิกายน และปิดประชุมทันทีเวลา 17.00 น.

ล่าสุดวันที่ 10 พฤศจิกายน มีการประท้วงระหว่าง ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล และ ส.ส.ฝ่ายค้าน ตลอดการประชุม ซึ่งท้ายที่สุดสภาก็ล่มอีกครั้ง หลังจากที่ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลเสนอญัตติให้เลื่อนวาระเรื่องที่เสนอขึ้นมาใหม่ พิจารณาก่อน แต่ปรากฏว่าฝ่ายค้านไม่ยอม ทำให้ต้องมีการลงมติ ปรากฏว่าในการแสดงตน นายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา ในฐานะรองประธานรัฐสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุม ไม่ได้แจ้งผลการนับองค์ประชุม ทำให้ ส.ส.ฝ่ายค้านลุกขึ้นประท้วง เพราะเห็นว่ามีตัวเลขขึ้นที่หน้าจอประมวลผลที่ 309 เสียง ไม่ครบองค์ประชุมกึ่งหนึ่งที่ 312 คน ทำให้นายประสพสุข พักประชุม 10 นาที ท่ามกลางการทักท้วงอย่างรุนแรงของฝ่ายค้าน ต่อมาเมื่อเปิดประชุม นายชัยได้ขึ้นคุมเกม ปรากฏว่านับองค์ประชุมได้ที่ 333 เสียง แต่นายชัยก็สั่งปิดประชุมเวลา 15.45 น. และนัดประชุมอีกครั้งวันที่ 12 พฤศจิกายน โดยระบุว่า เพื่อให้เกิดบรรยากาศที่ดีต่อการประชุมครั้งต่อไป ทั้งที่การประชุมร่วมกันของรัฐสภา ในสัปดาห์นี้ กำหนดว่าจะประชุมถึง 22.00 น. ของทุกวัน

เหตุผลส่วนหนึ่งที่การประชุมสภาผู้แทนราษฎรล่มซ้ำซาก เนื่องจาก ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล มีเสียงรวมกันแล้ว 274 เสียง ซึ่งในนั้นมีรัฐมนตรีที่เป็น ส.ส.อยู่ด้วย 20 คน ซึ่งจำนวนองค์ประชุมสภาผู้แทนราษฎรอยู่ที่ 237 คน คนที่โดดประชุมส่วนใหญ่มีทั้ง ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ และ ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล แต่ที่สำคัญคือ บรรดารัฐมนตรีที่มีสถานะเป็น ส.ส. ก็ขาดประชุมหลายคน

ขณะที่การประชุมร่วมรัฐสภา ที่ล่มสองวันติดกัน ก็เป็นผลพวงมาจาก ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลขาดประชุมเยอะ จนทำให้ไม่สามารถดึง ส.ว.มาเติมเต็มให้ครบองค์ประชุมที่ 312 คน
บันทึกการเข้า

ยังจำได้ดี  และคิดถึง..อยู่ทุกวัน...
Re: สอ.สอ..ชาติชั่ว
« ตอบ #2 เมื่อ: พฤศจิกายน 14, 2009, 07:51:40 PM »

เหตุสภาล่มซ้ำ-50ส.ส.ลาไปพบ"ทักษิณ"
 
14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552 08:18:00
 
 
 
ประชุมร่วมรัฐสภาล่มซ้ำอีก ต้องนัดประชุมร่วมอีกครั้งสัปดาห์หน้า " 50 ส.ส.เพื่อไทย" ลากิจไปพบ "ทักษิณ" ที่เขมร "สุนัย" ท้าปชป.ถอดถอน “

การประชุมร่วมกันของรัฐสภา เพื่อพิจารณากรอบการเจรจาระหว่างประเทศเป็นวันที่ 4 ในเวลา 09.30 น. วานนี้ (13 พ.ย.) แต่ปรากฏว่าเมื่อถึงเวลา 10.00 น. สมาชิกยังเดินทางมาไม่ครบองค์ประชุมทำให้นายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา ต้องเลื่อนการประชุมออกไปเป็นเวลา 11.00 น.

       โดยตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา รัฐสภาได้นัดประชุมร่วมกันของรัฐสภา และประชุมสภาผู้แทนราษฎรทุกวัน จนทำให้สมาชิกส่วนใหญ่เหนื่อยล้าจากการประชุม ประกอบกับ ส.ส.ของพรรคเพื่อไทย จำนวนมาก เดินทางไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ประเทศกัมพูชา จนทำให้มีสมาชิกเข้าร่วมประชุมค่อนข้างบางตา อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมได้ให้ความเห็นชอบกรอบการเจรจาระหว่างประเทศจำนวน 5 ฉบับ โดยในช่วงเช้าองค์ประชุมมีจำนวน 333 คน

       ในช่วงบ่าย ที่ประชุมได้พิจารณากรอบเจรจา 5 ฉบับ 6 เรื่อง ซึ่งสมาชิกได้มีการอภิปรายอย่างกว้างขวาง จนกระทั่งเวลา 16.40 น. หลังจากที่ประชุมได้ให้ความเห็นชอบกรอบการเจรจากู้เงินจากต่างประเทศภายใต้แผนการบริหารหนี้สินสาธารณะประจำปีงบประมาณ 2553 ด้วยองค์ประชุม 312 เสียงถือว่ากึ่งหนึ่งพอดี โดยมีคะแนนเสียง เห็นชอบ 277 เสียงต่อ 8 งดออกเสียง 12 ไม่ลงคะแนน 15 เสียง ทำให้ฝ่ายรัฐบาลส่งเสียงเฮลั่นทั้งสภาฯ ขณะที่นายชัย ถึงกับกล่าวด้วยความโล่งอกว่า โชคดีที่องค์ประชุมครบพอดี ขอร้องสมาชิกอย่าลุกหนีไปไหน

       จากนั้นที่ประชุมได้เริ่มลงมติในกรอบการเจรจาข้อตกลงจัดตั้งและกรอบวงเงินทุนจัดตั้งในส่วนที่ประเทศไทยต้องชำระต่อทันที ปรากฏว่า ผลการลงคะแนนมีสมาชิกเหลืออยู่ในห้องประชุมเพียง 309 คน ซึ่งไม่ถึงกึ่งหนึ่ง ทำให้นายบุญยอด สุขถิ่นไทย ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ประท้วงให้ประธานที่ประชุมอีก 2 คนลงคะแนนเพิ่มด้วย แต่นายชัย แย้งว่าแม้ตนและนายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา จะลงคะแนนให้ เสียงก็ยังไม่ถึงกึ่งหนึ่งอยู่ดี แต่ไม่ทราบว่าใครลาก ส.ส.หายไป 3 คน

       ผู้สื่อข่าวรายงานว่าถึงช่วงนี้นายวรินทร์ เทียมจรัส ส.ว.สรรหาได้เสนอให้มีการนับองค์ประชุมด้วยการขานชื่อเป็นรายบุคคล โดยให้เหตุผลว่าประชาชนจะได้รู้ว่ามีสมาชิกบางคนไม่ยอมมาปฏิบัติหน้าที่ ขณะที่ ส.ส.ฝ่ายค้าน แสดงความไม่เห็นด้วย เนื่องจากถือว่าเป็นการลงมติไปแล้ว ในที่สุดนายชัย จึงต้องยอมประกาศผลการลงคะแนนว่ามีผู้อยู่ในที่ประชุมเพียง 309 คน  ซึ่งไม่เกินกึ่งหนึ่ง ทำให้นายชัยต้องเลื่อนการประชุมออกไปเป็นคราวหน้า และสั่งปิดการประชุมทันทีเมื่อเวลา 16.45 น.

       ภายหลังองค์ประชุมล่ม นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ประธานวิปรัฐบาล ได้สั่งให้มีการตรวจสอบรายชื่อของพรรคร่วมรัฐบาลที่หายไป 3 คน ในเวลาไม่ถึง 5 นาที โดยระบุว่า บุคคลทั้ง 3 นี้จะต้องรับผิดชอบ ขณะที่นายธนิตพล ไชยนันทน์ ส.ส.ตาก พรรคประชาธิปัตย์ และเลขานุการวิปรัฐบาล กล่าวว่า มี ส.ส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 70 คน ไปประชุมสภาที่ประเทศกัมพูชา

 50 ส.ส.เพื่อไทยลากิจไปพบ"ทักษิณ"

       ว่าที่ ร.ต.พงศ์พันธ์ สุนทรชัย ส.ส.หนองคาย พรรคเพื่อไทย เปิดเผย ว่า  ส.ส.อีสานพรรคเพื่อไทยประมาณ 40-50 คน ได้เดินทางออกจากพรรคเพื่อไทย โดยรถตู้ เพื่อไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ปรึกษาส่วนตัวสมเด็จฮุน เซน และที่ปรึกษาเศรษฐกิจรัฐบาลกัมพูชา เพื่อตั้งใจไปคารวะและให้กำลังใจ พ.ต.ท.ทักษิณ  นอกจากการพบปะเยี่ยมเยียน และรับประทานอาหารเย็นร่วมกัน โดยมีสมเด็จฮุน เซน เป็นเจ้าภาพในการเลี้ยงอาหารเย็น

       นายสุนัย จุลพงศธร ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงความไม่เหมาะสมที่ ส.ส.พรรคเพื่อไทย เดินทางไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ในวันที่มีการประชุมสภา ว่า  การพบ พ.ต.ท.ทักษิณ นั้นไม่ได้เจอทุกวัน ทุกเดือน คนรักกันชอบกันจะไปหากัน ถ้าไม่ถูกต้องก็ขออภัย ถ้าจะถอดถอนกันก็สามารถทำได้     

       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ส.ส.พรรคเพื่อไทย ที่เดินทางไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ไปด้วยรถตู้ 8 คัน รถบัสใหญ่ 1 คัน  เดินทางไปยัง อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ก่อนข้ามชายแดนไปยัง เสียมราฐ ประเทศกัมพูชา นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์จากประเทศกัมพูชาว่า มีส.ส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 50 คน ลากิจ ไม่ได้เข้าร่วมประชุมรัฐสภา แต่ก็เป็นการใช้ตามสิทธิอย่างถูกต้อง จึงต้องถามว่าผิดรัฐธรรมนูญข้อไหน

"พท."ปัดเป็นต้นเหตุสภาล่มซ้ำซาก

       นายพีรพันธุ์ พาลุสุข ส.ส.ยโสธร พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงเหตุสภาล่มซ้ำซาก ว่า เรื่องดังกล่าวไม่ได้เป็นความผิดของพรรคเพื่อไทย ตามที่พรรคประชาธิปัตย์พยายามกล่าวหาว่ามีสาเหตุมาจาก ส.ส.พรรคเพื่อไทย ไปเยี่ยมเยือน พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ประเทศกัมพูชา เพราะส.ส.เพื่อไทยเดินทางไปบางส่วนเท่านั้น เรื่องนี้แสดงเห็นถึงความล้มเหลวในการคุมเสียงของรัฐบาล และความไม่มีประสิทธิภาพในการบริหารจัดการงานในสภาของประธานรัฐสภา

       "การที่สภาล่มหลายครั้ง ถือว่าสภาแห่งนี้อยู่ต่อไปไม่ได้แล้ว รัฐบาลไม่สามารถคุมเสียงข้างมากของตัวเองได้ ผนวกกับ ส.ว.หลายคนเขาก็ไม่เอาด้วยกับรัฐบาล ดังนั้นทางที่ดีที่สุดขอเรียกร้องให้นายกฯ ยุบสภา จะดีกว่าที่จะดื้อต่อไป" นายพีรพันธุ์ กล่าว

ปชป.ขู่ถอดถอนส.ส.ไปพบ"ทักษิณ"

       นายวัชระ เพชรทอง ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า  กรณีที่ ส.ส.พรรคเพื่อไทย จำนวนมากเดินทางไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่กัมพูชา ทั้งที่เป็นวันประชุมร่วมกันของรัฐสภา ถือเป็นการหนีประชุมออกนอกราชอาณาจักร ไม่เคารพการทำหน้าที่ส.ส. ซึ่งอาจเข้าข่ายประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ เพราะส.ส.ทุกคนรู้ล่วงหน้าอยู่แล้วว่ามีประชุม มีหนังสือเชิญประชุมชัดเจน

       นายอรรถพร พลบุตร ส.ส.เพชรบุรี พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ขณะนี้กำลังศึกษากันอยู่ว่าขัดกฎหมายและขัดรัฐธรรมนูญ สามารถนำไปสู่การถอดถอนได้หรือไม่ เพราะสถานการณ์ที่เกิดขึ้นตอนนี้ไม่สมควรที่จะไปกัมพูชา   


 
 
บันทึกการเข้า

ยังจำได้ดี  และคิดถึง..อยู่ทุกวัน...
Re: สอ.สอ..ชาติชั่ว
« ตอบ #3 เมื่อ: พฤศจิกายน 14, 2009, 08:21:22 PM »

ใจเย็นนะพี่นะ
มันกำลังสร้างความฉิบหายให้พวกมันเอง
พท = พังทักษิณ
บันทึกการเข้า

..ผู้อยู่นานเห็นมาก  ผู้ออกเดินทางเห็นมากกว่า..
Re: สอ.สอ..ชาติชั่ว
« ตอบ #4 เมื่อ: พฤศจิกายน 16, 2009, 11:42:56 PM »

@  ด้วยสันเดิมที่ดอนดานและด้านได้
ยอมไม่อายดีกว่าอดจึงลดศักดิ์
ละสิ้นศรีล่วงแผ่นดินที่เคยภักดิ์
อนาถนักคนจัญไร “ไอ้สิ้นคิด”

@  พอเห็นเงินหูหางชันสั่นระรัว
มิรู้ผิดมิรู้ชั่วมัวจริต
เสียชาติเกิดยอมถวายขายชีวิต
ถือ “ฮวยเซ็ง” เป็นมิ่งมิตรจิตสอพลอ

@  ไปยกย่องยกใหญ่ไอ้ทุรชน
ฤๅจะปล้อนปลิ้นดิ้นรนเป็นสอสอ
โกงบ้านกินไทยยังไม่พอ
ดั้นด้นไปชูคอกับพ่อมัน

@  ทุด....ไอ้คนไร้แผ่นดิน ไอ้สิ้นชาติ
อเน็จอนาถรู้ถึงไหนอายถึงนั่น
โจรกระจอกหน้าเสี้ยมเหลี่ยมร้อยพัน
วันนี้หนทางตีบตันต้องกลั้นใจ

@  ยอมสิ้นเหลี่ยมเสียลายละอายนัก
เพราะตีค่าเงินที่รักว่ายิ่งใหญ่
จึงต้องยอมเป็นขี้ข้าละทิ้ง “ไท”
สุดแต่จะ เขี่ยขวา – ซ้าย ดันให้เดิน

@  ยอมเป็นเบี้ยช่วงใช้ใต้ฝ่าเท้า
ให้เขมรเหลี่ยมพราวหลอกสรรเสริญ
ประหนึ่งหยักร่องสมองไม่เจริญ
ฤๅจะถึงคราวเถลิงลงบรรลัย

@  ยังสอสอ “เพื่อใคร” ร่วมขายชาติ
ยกระบาดคาดขบวนเป็นพรวนใหญ่
เสนอหน้าสนองนายให้ได้ใจ
โบกมือส่งกวัดไกวให้ได้จำ

@  หนึ่งฝ่ามือชูสูงไว้ให้นายเห็น
ได้ห้าแสนคงพอเล่นเป็นขำขำ
แต่นายครับ..ผมขอเสนอข้อแนะนำ
ขอห้าล้านค่อยสมคำ “ริยำคน”

@  สู้ตากหน้ามาหานายถึงไกลถิ่น
มิระคายคำติฉินยินฉ้อฉล
ไม่หวั่นไหวใครด่าสิ้นว่าเดนคน
ก็ดอกผล...ผมรักนาย...เพราะได้ตังค์

@  ด้วยคุณค่าของเงินตรามหาศาล
เงินเดนคุกของคนพาลยังคงขลัง
นายจะลอยอยู่บนฟ้า คาราคาซัง
หรือเต้นตามฮวยเซ็งมั่งก็ช่างนาย

@  ขอให้นายจงเจริญเพลินจริต
คิดชั่วอยู่เป็นนิตย์ตามจิตใฝ่
และล่องลอยเร่ร่อนอยู่เรื่อยไป
ไร้ซึ่งมิตรจริงใจในปฐพี

@  ขอเพียงนายอย่าลืมเราเหล่าสอสอ
ที่เคยนั่งสอพลอต่อราศรี
คนอย่างนายใครรุมล้อมย่อมราคี
แต่โชคดีมีพวกผมชื่นชม(เงิน)นาย
.............
ปล.  คิดถึง(เงิน)นายจังครับ  อุตส่าห์โดดสภามาหานาย
แต่รับประกันว่าเลือกตั้งสมัยหน้าผมก็ยังได้(เงินนาย)
ตราบเท่าที่ยังมีคนโง่เหมือน “ฟาย”   ไม่เชื่อนายก็คอยดู
  เจ๋ง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 16, 2009, 11:48:02 PM โดย slenderpiggy » บันทึกการเข้า
หน้า: [1] ขึ้นบน พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
 
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.027 วินาที กับ 20 คำสั่ง