ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
เมษายน 25, 2024, 04:26:17 PM
ผีเสื้อและดอกไม้ [ ปี 1- 5 ]

+  TRIP & TREK โลกกว้างของคนเดินทาง
|-+  กระดานข่าวสีเขียว
| |-+  ผีเสื้อ และ ดอกไม้ (ผู้ดูแล: นายซาไกทัดดอกฝิ่น)
| | |-+  คู่ป่า..งาม
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: [1] ลงล่าง พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: คู่ป่า..งาม  (อ่าน 3702 ครั้ง)
คู่ป่า..งาม
« เมื่อ: กันยายน 13, 2009, 07:56:11 PM »

พบเจ้าเขียวลายพรางนี้หน้าน้ำตกเจ็ดคตเหนือ
ท่าทางสง่างาม  บนโขดหิน  มีเม็ดน้ำตกกระเซ็นเป็นฉากหลัง
 เห็นแล้ว ประทับใจในความงาม...
........  อีกด้านหนึ่งของความรู้สึก
  นึกถึงอีกัวน่าในกรง...กับการพรัดพรากถิ่นเกิด  ข้ามทวีปมา.....


* CRW_79355.jpg (101.66 KB, 800x536 - ดู 451 ครั้ง.)

* CRW_79377.jpg (92.44 KB, 800x537 - ดู 457 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า

ยังจำได้ดี  และคิดถึง..อยู่ทุกวัน...
Re: คู่ป่า..งาม
« ตอบ #1 เมื่อ: กันยายน 13, 2009, 10:53:44 PM »

ได้ชื่อมาแล้วครับ
.......
ตะกอง หรือ ลั้ง หรือ กิ้งก่ายักษ์ (Chinese Water Dragon, Indochinese Water Dragon) เป็นสัตว์เลื้อยคลานประเภทกิ้งก่าที่มีขนาดใหญ่ที่สุดที่พบได้ในประเทศไทย มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Physignathus cocincinus มีรูปร่างทั่วไปคล้ายอีกัวน่าที่พบในอเมริกากลางและอเมริกาใต้ ขนาดเมื่อโตเต็มที่ยาวประมาณ 90-120 เซนติเมตร (ปลายจมูกถึงโคนหาง 35-50 เซนติเมตร และหางยาว 55-70 เซนติเมตร) โดยตัวเมียจะมีขนาดเล็กกว่าตัวผู้ราว 10-30 เซนติเมตร และจะมีหัวป้อมกว่า สีของลำตัวเข้มกว่า หางมีแถบสีดำเป็นปล้อง ๆ สีลำตัวปกติของตะกองจะมีสีเขียวเข้มและสามารถที่จะเปลี่ยนสีของให้เข้มขึ้นหรืออ่อนลงตามสภาพแวดล้อมได้ ในขณะที่เป็นวัยอ่อนบางตัวใต้คางและส่วนหัวจะมีสีม่วงหรือสีฟ้าแลดูสวยงาม และเมื่อโตขึ้นมาตัวผู้ส่วนหัวด้านบนจะโหนกนูนขึ้นเห็นชัดเจน ส่วนตัวผู้เมียจะมีความนูนน้อยกว่า

ตะกอง มีการกระจายพันธุ์ทั่วไปในป่าดิบในตอนใต้ของประเทศจีน, ประเทศลาว, เวียดนาม, กัมพูชา และภาคตะวันออกและอีสานของประเทศไทย ชอบที่จะอาศัยหากินอยู่ในพื้นที่ซึ่งมีแหล่งน้ำที่อุดมสมบูรณ์และมีสภาพป่าที่ค่อนข้างทึบ เช่น บริเวณริมห้วยที่มีน้ำไหล มีพฤติกรรมชอบนอนผึ่งแดดตามคาคบไม้ริมห้วยลำธาร เมื่อตกใจจะวิ่ง 2 ขาได้โดยหุบขาหน้าไว้แนบชิดลำตัว และโดยปกติเมื่อมีภัยจะกระโจนลงน้ำ และสามารถดำน้ำได้เป็นเวลานาน อาหารได้แก่ แมลงชนิดต่าง ๆ, กบ, เขียด, ปลาขนาดเล็ก, สัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนมขนาดเล็ก และผลไม้บางชนิด และยังสามารถดำน้ำจับปลาได้อีกด้วย ในที่สถานที่เลี้ยงพบว่ามีอายุถึง 30 ปี ตะกองจะมีฤดูกาลผสมพันธุ์และวางไข่ในระหว่าง เดือนเมษายนถึงเดือนพฤษภาคม และในหนึ่งครั้งตะกองตัวเมียจะวางไข่ประมาณ 10 ฟอง ตะกองจะวางไข่ บริเวณพื้นดินที่มีลักษณะเป็นดินทรายและจะขุดหลุมลึกลงไปประมาณ 12-17 เซนติเมตร และกว้างประมาณ 12-15 เซนติเมตร

ตะกอง ยังเป็นที่นิยมเลี้ยงเป็นสัตว์เลี้ยงของผู้นิยมเลี้ยงสัตว์เลื้อยคลาน แต่ว่าเมื่อเทียบกับอีกัวน่าแล้ว ตะกองเลี้ยงได้ยากกว่าพอสมควรเนื่องจากกินแมลงเป็นอาหารและยังมีนิสัยที่ดุไม่เชื่องเหมือนอีกัวน่า อีกทั้งยังต้องปรับสภาพของที่เลี้ยงให้มีน้ำและมีความชุ่มชื้นพอสมควร

สถานภาพของตะกองในปัจจุบัน พบน้อยลงมากเนื่องจากถูกจับเป็นสัตว์เลี้ยง จับเพื่อทำเป็นอาหาร และแหล่งที่อยู่อาศัยถูกทำลาย ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พุทธศักราช 2535 ได้จัดให้ตะกองเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง

ที่มาจากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี


* Physignathus_cocincinus_28male29.jpg (40.58 KB, 500x375 - ดู 421 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า

ยังจำได้ดี  และคิดถึง..อยู่ทุกวัน...
หน้า: [1] ขึ้นบน พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
 
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.024 วินาที กับ 20 คำสั่ง