ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
เมษายน 24, 2024, 01:12:46 PM

หัวใจเดินทาง [ ปี 1- 5 ]

+  TRIP & TREK โลกกว้างของคนเดินทาง
|-+  กระดานข่าวสีเขียว
| |-+  หัวใจเดินทาง
| | |-+  ข้อความถึงคุณ _ABC ครับ
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้ « หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: [1] ลงล่าง พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: ข้อความถึงคุณ _ABC ครับ  (อ่าน 3093 ครั้ง)
นายซาไกทัดดอกฝิ่น
สมาชิกตลอดชาติ
นักโพสต์มือวางอันดับ 1
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2148


ข้า..แผ่นดินไทย


อีเมล์
ข้อความถึงคุณ _ABC ครับ
« เมื่อ: กันยายน 21, 2009, 09:07:35 PM »

เบอร์ อานู 0813772819
 คุยรายละเอียดเบื้องต้นให้แล้วครับ
บันทึกการเข้า

ยังจำได้ดี  และคิดถึง..อยู่ทุกวัน...
นายซาไกทัดดอกฝิ่น
สมาชิกตลอดชาติ
นักโพสต์มือวางอันดับ 1
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2148


ข้า..แผ่นดินไทย


อีเมล์
Re: ข้อความถึงคุณ _ABC ครับ
« ตอบ #1 เมื่อ: กันยายน 21, 2009, 09:15:43 PM »

สัมภาษณ์: อานู กีต้าร์ซ้าย

papergun บันทึก "เผยแพร่ครั้งแรกทางเว็บวิถีนักเพลง
เมื่อ 20 พฤศจิกายน 2549 โดย ปืนกระดาษ

การเดินทาง ณ ห้วงปัจจุบันนั้นแสนสะดวกสบายและรวดเร็วกว่าในอดีตกาลเหลือเกิน อีกทั้งยังมียานพาหนะให้เลือกอีกมากมาย ในเมืองกรุงยิ่งแล้วใหญ่สุดไฮเทคตามยุคไอทีอยู่ตลอด มีทั้งรถไฟฟ้าบนดินก็ไม่เพียงพอยังต้องขุดต้องเจาะให้รถแล่นอยู่ใต้ดินได้ น่าทึ่งจริงๆ หรือแม้แต่หวยที่ในอดีตเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายและหลายฝ่ายต่างมองว่าเป็นสิ่งที่มอมเมาประชาชน แล้วผลออกมาเป็นอย่างไรล่ะ "หวยบนดิน" เรียกกันได้เต็มปากเต็มคำหนำซ้ำยังมีรางวัลล่อใจอย่าง "แจ๊คพ็อต" ให้ชนชั้นล่างหรือที่หลายฝ่ายเรียกว่า "รากหญ้า" หันมาเล่นอย่างเสรีอีกด้วย ในอีกไม่ช้าก็จะมี "หวยออนไลท์" เพิ่มขึ้นมาอีกทางเลือก แต่ทำไม "รัฐถะ" ที่มากความสามารถไม่พลิกให้สิ่งที่สร้างสรรค์จรรโลงโลกอย่าง "เพลงใต้ดิน" ให้เดินอยู่บนดินได้แบบนั้นบ้าง.........


     

เป็นอีกครั้งที่ได้เปิดรังต้อนรับการมาเยือนของศิลปินใต้ดินอีกท่านหนึ่ง ซึ่งได้เดินทางมาจากจังหวัดสระบุรีเลยทีเดียว ไม่ใช่ใครอื่นไกลที่ไหนเขาก็เป็นสมาชิกของเว็บไซต์วิถีนักเพลงของเราเหมือนกัน(ปัจจุบันปิดเป็นการถาวรแล้ว) เคยฝากชื่อและอัลบั้มในเว็บไซต์นานแล้วด้วย วันนี้มีโอกาสเราจึงต้องมาพูดคุยกันหน่อย.... 

ปืนกระดาษ - สวัสดีครับ "อานู" และทุกคนด้วย มากันเยอะเลยทีเดียวนะ ?
อานู- สวัสดีครับ ! อ๋อ.....พอดีพวกเรามีธุระที่กรุงเทพฯ ก็เลยมาด้วยกัน เมื่อมาแล้วผมก็อยากจะคุยกับ "ปืนกระดาษ" ตัวจริงสักครั้ง ได้ยินเสียงมาก็นานแต่ไม่เคยเจอตัวเป็นๆ เลย (หัวเราะ)   

อานู- พวกเราอยากจะมาเยี่ยมและทำความรู้จักให้เป็นแบบทางการสักที และนี่ก็ "พี่พรรธ์" รุ่นพี่ที่ทำงานบริษัทปูนซีเมนต์ด้วยกัน อีกคนก็ไม่ใช่อื่นไกล "คุณนฤมล" เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์และประสานเสียงในอัลบั้มของผมด้วย นี่แหละครับนายทุนตัวจริงของผม (หัวเราะ) 

ปืนกระดาษ - อ้าว...แนะนำคนอื่นแล้วตัวเองล่ะจะไม่แนะนำหรือยังไง ?
อานู- (ยิ้ม) ครับคงจะตื่นเต้นมากไปหน่อยลืมแนะนำตัวเองไปเลย ขอโทษที เอาเป็นว่าขอแนะนำตัวเองอย่างเป็นทางการว่าด้วยระเบียบตามบัตรประชาชนเลยแล้วกัน ชื่อจริงก็..."นายนคร หนูเมียน" ภูมิลำเนาอยู่ที่อำเภอเขาชัยสน จังหวัดพัทลุง ส่วน "อานู" เป็นชื่อที่ใช้ในวงการเพลง ครอบครัวผมมีพี่น้องอยู่ 4 คน พี่สาวคนโตรับราชการอยู่ที่จังหวัดระยอง พี่สาวคนรองก็ทำสวนอยู่ที่พัทลุง ผมเป็นคนที่สามและมีน้องชายอีกคนทำสวนและรับเหมาก่อสร้างอยู่ที่พัทลุงเช่นเดียวกัน ในส่วนของการศึกษาก็................ 

ปืนกระดาษ - เดี๋ยวก่อนๆ ดื่มน้ำหายใจก่อนก็ได้ ค่อยๆ คุยไม่ต้องรีบร้อน หรือว่ามีธุระที่อื่นอีก ?
อานู- ไม่หรอกครับ เอาล่ะหายใจเรียบร้อยแล้วเล่าต่อเลยนะ..........การศึกษาตั้งแต่ โรงเรียนเขาชัยสน, วิทยาลัยเทคนิคพัทลุง, สถาบันเทคโนโลยีราชมงคล วิทยาเขตภาคใต้ สงขลา และสถาบันราชภัฎเพชรบุรีวิทยาลงกรณ์ อำเภอคลองหลวง ปทุมธานี 

   

ปืนกระดาษ - การเริ่มต้นในเรื่องของดนตรีล่ะ ?
อานู- จริงๆ แล้วผมชอบดนตรีมาตั้งแต่เด็กนะ ทั้งฟังและหัดร้องอยู่ตลอด แต่เริ่มมาเล่นดนตรีก็ตอนกำลังเรียนมัธยม อายุก็ประมาณ 15 ปี แรกๆ ก็ยืมกีต้าร์จากเพื่อนข้างบ้านมาหัดเล่นหัดจับคอร์ดด้วยตัวเอง แต่จากที่ผมเป็นคนถนัดมือซ้ายการฝึกของผมจึงไม่เหมือนชาวบ้านเขา จะกลับสายก็ไม่ได้อีกเช่นกันเจ้าของกีต้าร์เขาก็ต้องเล่น ดังนั้นการเริ่มหัดของผมจึงหัดแบบไม่กลับสายมันก็ยากอยู่เหมือนกัน แต่ด้วยความที่อยากเล่นเป็นผมก็พยายามฝึกให้คล่อง จนไปเรียนระดับ ปวช. ก็ยังต้องยืมกีต้าร์เพื่อนเขาเล่นเพราะยังไม่มีเงินพอที่จะซื้อ ช่วงนั้นก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง 

ปืนกระดาษ - คงลำบากน่าดูทีเดียวนะ ?
อานู- ก็พอดูครับ เพราะว่าเราไม่มีกีต้าร์เป็นของตัวเองต้องคอยหยิบยืมจากเพื่อนมาหัดเล่น จะดีหน่อยก็ตอนที่ไปเรียนระดับ ปวส. ที่เทคโนโลยีราชมงคล สงขลา เพราะเช่าบ้านอยู่รวมกับเพื่อนหลายคนจึงมีกีต้าร์ให้เล่นมากหน่อย บางครั้งก็อาศัยคนที่เล่นเก่งๆ ช่วยสอน และในช่วงนี้แหละครับที่ผมเริ่มชอบฟังเพลงเพื่อชีวิต มีเวลาว่างก็จะแกะเพลงเหล่านี้มาร่วมเล่นกันกับเพื่อนหรือไม่ก็เฮฮาสนุกสนานกันตามวงเหล้า บางครั้งมีอารมณ์โรแมนติกหน่อยก็ไปนั่งเล่นกีต้าร์แถวๆ ชายทะเล จนเรียนจบ ปวส. ฝีมือก็อาจจะดีขึ้นมาในอีกระดับหนึ่ง อันนี้ผมคิดเองนะ ไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างนั้นหรือเปล่าแต่ความรู้สึกมันบอก (หัวเราะ) 

ปืนกระดาษ - อย่าบอกนะ ว่าหลังจากจบ ปวส. แล้วผันตัวเองมาเป็นนักดนตรี ?
อานู- โอ้..... ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับ ผมรู้ตัวเองดีฝีมือยังไม่ถึงขั้นที่จะเป็นมืออาชีพได้ขนาดนั้น ฝีมืออย่างผมมันต้องเล่นเป็นวง...........แต่ขอเป็นวงเหล้านะ (ถนัดนัก) ความจริงหลังจากที่จบ ปวส. ผมก็มาทำงานที่กรุงเทพฯ พร้อมกับการเรียนต่อระดับปริญญาตรี แต่การงานไม่มั่นคงหรืออาจเป็นเพราะตัวผมเองไม่มั่นใจ (ก็ไม่รู้เหมือนกันนะ) ย้ายสถานที่ทำงานไปเรื่อยจนมาปี 2536 ผมก็ได้ทำงานที่บริษัท ปูนซีเมนต์นครหลวง แต่ไม่ใช่ที่กรุงเทพฯ หรอกนะ โน่นแน่ะจังหวัดสระบุรี..!!! เมื่อได้ทำงานที่นี่การเป็นอยู่ผมก็เริ่มดีขึ้นและหลังจากเงินโบนัสประจำปีออกผมก็มีเงินพอที่จะซื้อความฝันที่ผมมีมานานแสนนานนั่นก็คือ กีต้าร์สักตัวด้วยเงินที่หามาด้วยหยาดเหงื่อของตัวเอง ผมจำได้แม่นยำเลย ตอนนั้นเงินออกปุ๊บผมก็ไปซื้อกีต้าร์มาปั๊บเหมือนกัน เพราะว่าได้เล็งดูมานานแล้ว 

     

ปืนกระดาษ - แล้วยังคงเล่นแบบเดิมอยู่มั้ย ?
อานู- ผมก็ยังเล่นแบบไม่กลับสายอยู่เหมือนเดิม เพราะว่าเราฝึกเราหัดมาแบบนี้เราถนัดแบบนี้แล้ว หากว่าจะเปลี่ยนก็เหมือนกับว่าเราเริ่มต้นใหม่ทั้งหมด แต่ความรู้สึกอย่างอื่นเข้ามาแทนที่มากกว่า ผมอยากเล่นกับเครื่องเสียงตอนนั้นคิดว่ามันน่าจะดังดีหรือไม่ก็อาจจะเพราะกว่าแบบเดิมๆ ก็เลยไปหาซื้อคอนเทคติดกีต้าร์ในตลาดและเชื่อมเหล็กทำขาไมค์เอง แล้วลองเล่นดู ก็ไม่เลว ใช้ได้ทีเดียว บางครั้งในช่วงเทศกาลอย่างปีใหม่ สงกรานต์ ก็นัดกับเพื่อนที่ทำงานยกเครื่องเสียงกันมาร่วมกันเล่นดนตรีสร้างสีสันเพิ่มความบันเทิงตามประสาคนที่ชอบดนตรีด้วยกัน ก็สนุกและมีความสุขดีครับ (แต่ไม่รู้ว่าคนข้างบ้านจะด่าหรือเปล่านะ...หัวเราะ)

ปืนกระดาษ - พัฒนาฝีมือตัวเองยังไง ?
อานู- น่าจะเป็นการหาประสบการณ์และความรู้ใหม่ที่เรายังไม่มีมากกว่า จำได้ว่าในช่วงประมาณปี 2538 เพลงเพื่อชีวิตสไตล์เพลงใต้ออกมาและกำลังเป็นที่นิยมอย่าง มาลีฮวนน่า ฌามา ผมก็ลองเล่นลองแกะมันก็น่าฟังดีครับ บางคืนผมก็ชวนเพื่อนไปนั่งฟังเพลงโฟล์คตามร้านเพื่อชีวิตต่างๆ เพื่อศึกษาการเล่นดนตรีของนักดนตรี คือผมอยากจะรู้ให้ลึกว่าเขาคิดยังไงแล้วมีวิธีการนำเสนอยังไง พูดง่ายๆ อยากหาประสบการณ์ด้วยเวทีจริงๆ และก็พอดีว่าในช่วงนั้นเพื่อนก็ตั้งชมรมดนตรีผมก็เข้าร่วมเป็นสมาชิกชมรมกับเขาด้วย ส่วนมากก็จะเล่นรวมกับเพื่อนๆ หรือไม่ก็เล่นดนตรีตอนที่บริษัทมีงานนิทรรศการ ก็ดีครับมีประสบการณ์ในทางที่ผมต้องการเพิ่มเติม 

ปืนกระดาษ - มีความคิดที่จะเปลี่ยนสไตล์การเล่นกีต้าร์ ในช่วงไหน ?
อานู- เปลี่ยนมาเล่นแบบกลับสายหรือ...!!! ก็น่าจะเป็นตอนที่ผมไปเรียนดนตรีเพิ่มเติมพร้อมกับเพื่อนอีกคนที่ไปเรียนกลองเพิ่มเช่นกัน อาจารย์ที่สอนแนะนำว่าเมื่อถนัดมือซ้ายและอยากเล่นมือซ้ายก็ควรจะกลับสายใหม่ เพื่อให้ได้ความสมดุลและความถนัดตามสรีระร่างกายเรา ในเมื่อเราเล่นถนัดจับมือถือได้เหมาะเจาะและแข็งแรงการเล่นกีต้าร์ก็น่าจะเล่นได้ดีกว่าและเสียงที่ออกมาก็น่าจะใสก้องกังวาลเพราะกว่า ความคิดในตอนนั้นก็ไม่เห็นด้วยหรืออย่างไรไม่รู้นะ ผมรู้แต่เพียงว่าหากกลับไปเล่นแบบกลับสายก็เท่ากับว่า เป็นการเริ่มต้นใหม่ทั้งหมดผมก็เลยไม่ได้ลอง ผมเรียนแบบเดิมอยู่ประมาณเดือนกว่าก็ต้องหยุดเพราะมีเรื่องงานมาเกี่ยวข้องจึงไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่ ก็ยังคงฝึกและซ้อมอยู่อย่างสม่ำเสมอแต่ความรู้สึกมันบอกว่าไม่ค่อยพัฒนาเลย นึกถึงคำของอาจารย์ที่เคยพูดเอาไว้ ทำอย่างไรดีล่ะ ก็คิดมากเหมือนกัน 

   

ปืนกระดาษ - หัดเล่นกีต้าร์แบบใหม่หรือ ?
อานู- ครับ !! ประมาณปี 2544 หลังจากที่คิดทบทวนแล้วทบทวนอีกหลายครั้งหลายตลบถึงความแตกต่างทั้งความรู้สึกและความเป็นไปได้ ในที่สุดผมก็ตัดสินใจเลือกที่จะลองหัดเล่นแบบกลับสาย พร้อมกับไปเลือกซื้อกีต้าร์ตัวใหม่แถวๆ คลองหลอด ตอนแรกอยากได้แบบคอเว้า แต่มาคิดได้ว่าเรานำไปเล่นแบบกลับสายแล้วจะดูเหมือนกับกีต้าร์หงายท้อง ก็เลยคิดว่าไม่เอาดีกว่าไม่สวยไม่น่าดู ท้ายที่สุดก็ได้กีต้าร์หลังเต่าแบบคอไม่เว้ามาเริ่มต้นฝึกในรูปแบบใหม่ ฝึกไปเรื่อยๆ ก็มีความรู้สึกจริงดังที่อาจารย์เคยบอกไว้ ฝึกจนคล่องและเล่นมาจนถึงปัจจุบัน แบบเดิมผมก็ยังเล่นได้อยู่นะแต่อาจจะแข็งสักนิดเพราะว่าไม่ได้เล่นนานแล้ว ลองฟังดูมั้ย

".....เจ็ดคดและโป่งก้อนเส้า
ฉันเข้าไปในความสวยงาม
ธรรมชาติสร้างน้ำสร้างป่า
สร้างคุณค่าให้กับพื้นดิน....."
(เพลงเจ็ดคด-โป่งก้อนเส้า ประพันธ์โดย อานู)

ปืนกระดาษ - (ปรบมือ) ....ก็ยังเล่นได้ดีอยู่นี่ครับ
ปืนกระดาษ - หลังเปลี่ยนแปลงการเล่นกีต้าร์ความรู้สึกเป็นอย่างไรบ้าง ?
อานู- ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ความรู้สึกโดยส่วนตัวคิดว่าคงจะพัฒนาไปทางที่ดี ยิ่งตอนหลังได้มาซ้อมเป็นวงก็มีความมั่นใจมากยิ่งขึ้น ตอนที่เล่นกันเป็นวงได้นั้นสืบเนื่องมาจากรุ่นพี่ในที่ทำงานเดียวกันเขาเพิ่งย้ายมาจากมหาสารคาม พี่เขาเป็นมือกีต้าร์โซโล่พวกเราเล่นด้วยกันซ้อมด้วยกันได้อย่างลงตัวคิดว่าดีทีเดียว เพื่อนในกลุ่มหลายคนก็สงสัยผมอยู่เหมือนกันว่าทำไมตอนนี้หันมากลับสายเล่นไปฝึกเอาตอนไหน เพราะว่าเมื่อปีก่อนผมยังเล่นแบบเดิมอยู่เลย เรารวมตัวกันซ้อมวงอยู่นานบางครั้งก็มีงานพวกเราก็ไป แต่บางครั้งก็ไปเพียงสองคนกับเพื่อนที่เป็นมือกลอง

ปืนกระดาษ - ทำไมไม่เล่นตามร้านอาหาร ?
อานู- ผมไปเล่นแบบประจำไม่ได้หรอกครับ ต้องทำงานเป็นกะหากไปแบบนั้นก็โดนไล่ออกจากงานกันพอดี แล้วจะให้ผมกินอะไร (หัวเราะ) แต่มีอยู่ช่วงหนึ่งที่ผมทำงานกลางวันตลอดไม่ต้องเข้ากะ จึงลองตระเวนไปขอออดิชั่นตามร้านต่างๆ บางร้านก็ต้องนั่งคอยคำตอบ บางร้านก็ต้องรออยู่จนดึกกว่าที่จะได้ลองเล่นให้เขาฟัง หลายร้านก็ปฏิเสธ เขาอาจจะมองว่าประสบการณ์เรายังไม่เพียงพอหรือไม่ก็การเล่นดนตรีของผมยังไม่ดีไม่ตรงตามความต้องการก็อาจเป็นไปได้ อันนี้ผมไม่ซีเรียสเท่าไหร่สบายอยู่แล้ว แต่ผมก็รู้จุดอ่อนของตัวเองนะว่าอยู่ตรงไหน 

     

ปืนกระดาษ - แล้วทำยังไงต่อไป ?
อานู- อย่างที่บอกในเมื่อเรารู้ถึงจุดอ่อนของตัวเราเองแล้วต้องทำอย่างไรล่ะ ใช่ !! เราก็ต้องกลับมาแก้ไขในตรงจุดที่เรายังไม่ดี ไม่ว่าจะเป็นท่าทาง น้ำเสียงและสไตล์การพูด และจุดบอดอีกอย่างในตอนนั้นก็อาจเป็นเพราะว่ากีต้าร์ตัวนั้นเสียงไม่ค่อยจะดีเท่าที่ควรคงเป็นเพราะการที่ต้องกลับสายทำให้ตำแหน่งเสียงอาจจะเพี้ยนไปบ้าง ดังนั้นผมจึงพยายามเก็บเงินเพื่อที่จะหาซื้อกีต้าร์ตัวที่ถูกใจเอาไว้เล่นสักตัว 

อานู- จนผมเก็บตังค์ได้ครบก็ไปซื้อกีต้าร์ตัวที่เคยไปดูมาก่อนหน้า เป็นกีต้าร์ของคนที่ถนัดซ้ายโดยเฉพาะถูกใจผมมาก ส่วนตัวเก่าเพื่อนก็ขอซื้อไป เมื่อได้กีต้าร์ตามที่ต้องการแล้วก็แวะไปที่ร้านเดิมที่ผมเคยไปมาแล้ว ครั้งนี้โชคดีหน่อยที่ทางร้านกำลังขาดนักดนตรีช่วงหัวค่ำพอดี หลังจากที่ลองเล่นให้เจ้าของร้านดูแล้วเขาก็บอกให้มาทำงานในวันพรุ่งนี้ได้เลย ผมขับมอเตอร์ไซค์มาเล่นดนตรีที่ร้านนั้นระยะทางก็ประมาณสัก 15 กม. เห็นจะได้ก็ไกลพอสมควร ผมทำงานอยู่ที่นั่นได้ประมาณ 3 เดือนเศษก็ต้องหยุดเพราะว่าทางบริษัทจัดให้ทำงานเป็นกะแบบเดิมอีก ก็เสียดายอยู่เหมือนกันแต่ทำไงได้ล่ะ มันต้องเลี้ยงปากเลี้ยงท้องให้อยู่รอดนี่ใช่มั้ย 

ปืนกระดาษ - ความคิดในการทำเพลงมีขึ้นตอนไหน ?
อานู- ผมก็คิดมานานแล้วนะ แต่ว่าช่วงก่อนหน้านี้นั้นผมไม่มั่นใจกับว่าไม่มีทุนไม่มีความรู้ในด้านนี้เท่าไหร่ แต่หลังจากที่ได้ศึกษามาพอสมควรก็ทำให้มีกำลังใจและมั่นใจในความคิดที่เราจะทำ "คิดจะทำอะไรก็ตามในเมื่อมั่นใจว่าทำได้ก็ให้เริ่มทำเลย" คนเราอาจจะให้เก่งให้ถนัดในทุกเรื่องนั้นคงจะเป็นไปได้ยาก หากแต่ทำในสิ่งที่รักและชอบความสำเร็จก็คงจะไม่ยากนัก อีกอย่างผมก็เขียนเพลง แต่งเพลงเก็บเอาไว้ก็พอสมควรเพียงแค่เลือกสิ่งที่คิดว่าดีที่สุดออกมาก็เท่านั้น 

ปืนกระดาษ - เลยทำให้ต้องมีอัลบั้ม ?
อานู- การที่จะไปเป็นมืออาชีพที่ทุกคนยอมรับนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายๆ หากคิดจะทำอะไรนั้นต้องทำออกมาให้ดีที่สุด แม้ว่าฝีมือผมเป็นมืออาชีพได้แต่ก็ไม่ดีพอ จึงตัดสินใจไปเรียนร้องเพลงกับครูหญิง "ทิพวรรณ ปิ่นภิบาล" และปลายปี 2548 เป็นช่วงแรกที่ลองทำดนตรีในห้องอัดแถวสระบุรี แต่กว่าเพลงแรกจะเสร็จก็ปาเข้าไปอาทิตย์กว่า เมื่อผ่านไปสามเดือนรู้มั้ยว่าได้กี่เพลง (ส่ายหน้าตอบ) เพลงที่สามเพิ่งเสร็จ การทำงานล่าช้าเกินไปไม่ไหวหรอก ผมดูโปรแกรมทีเขาทำคิดว่าไม่น่าจะยากอยากลองทำศึกษาดูบ้าง บังเอิญวันหนึ่งเปิดเว็บไซต์ไปเจอเรื่องราวเกี่ยวกับโปรแกรมในการทำเพลงมีหนังสือด้วยจึงโทรสั่งซื้อมาศึกษา ตอนโทรสั่งหนังสือผมก็คุยถึงการทำเพลงไปด้วยทำให้เข้าใจว่ากระบวนการเป็นยังไง   

อานู- ในที่สุดหลังจากศึกษาพอที่จะรู้เรื่องของการทำเพลงบ้างจึงตัดสินใจไปทำดนตรีที่ห้องอัด ARARIS STUDIO อยู่ซอยลาดพร้าว 71 ก็จริงอย่างที่คิดใช้เวลาไม่มากอย่างที่เคยทำที่สระบุรี มาสเตอร์เสร็จในช่วงปีใหม่ 2549 แต่ผมต้องมาพบกับอุปสรรคที่หนักพอตัวอีกครั้งเมื่อไม่มีเงินพอที่จะไปจ้างปั๊มแผ่น อัลบั้มนี้จึงต้องหยุดไว้เป็นการชั่วคราว แต่ในระหว่างที่รองบประมาณก็ดำเนินการในเรื่องปก ทั้งการออกแบบปกและถ่ายภาพในอัลบั้มนี้เป็นฝีมือของเพื่อนที่ทำงานซึ่งเป็นช่างภาพอาสาช่วยทำให้ด้วยความเต็มใจ (หรือเปล่าก็ไม่รู้นะ หัวเราะ) 

   

ปืนกระดาษ - แต่ก็เดินผ่านอุปสรรคที่ว่าสำคัญนั้นมาได้ ?
อานู- (ยิ้ม) ก็ใช่ครับ...ด้วยการอนุเคราะห์จากหลายฝ่ายที่ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ ทั้งผู้บังคับบัญชาในที่ทำงาน พี่น้องผองเพื่อนร่วมงานและไปหยิบยืมมาจนทำให้อัลบั้มแรก "กีต้าร์ซ้าย" เสร็จสมบูรณ์ด้วยความทุลักทุเลพอสมควร และในวันนี้ที่ได้เกิดมีศิลปินแม้จะเป็นเพียงเพลงใต้ดินก็ตามแต่ก็ภูมิใจครับ ภูมิใจมาก

ปืนกระดาษ - กีต้าร์ซ้าย ออกมาแล้วรู้สึกยังไงบ้าง ?
อานู- ดีใจครับ !! แต่ที่ผมดีใจนั้นไม่ใช่ว่าเพราะผมได้มีอัลบั้มเป็นของตัวเองหรอก ผมดีใจตรงที่หลายฝ่ายต่างก็ยอมรับถึงบทเพลงใต้ดิน จนต้องสั่งปั๊มแผ่นมาเพิ่มอยู่เรื่อยๆ อย่าลืมนะว่าเพลงแนวนี้ไม่มีการโฆษณาออกสื่อโทรทัศน์ ไม่มีการออกทางสื่อวิทยุหนังสือหรืออาจจะมีบ้าง ก็ขอขอบคุณผู้จัดรายการทุกท่านที่ช่วยเปิดเพลงโปรโมทให้ อยากจะบอกว่าผมรอวันนี้มานานวันที่ผมได้จรรโลงสังคมให้มีความสุข 

ปืนกระดาษ - มีส่วนกับการทำงานในอัลบั้มนี้มากน้อยแค่ไหน ?
อานู- การทำงานเหรอ....ก็ทั้งเนื้อร้องและทำนองส่วนใหญ่ผมก็ทำเองเขียนเอง จะมีก็บางเพลงที่เขาให้มาอย่าง อ.สนั่น เขียวรอด(หลวงหนั่น), อ.ประทีป สอนดา และเพื่อนๆชาว Trip&Trek ส่วนการทำดนตรีก็มีพี่ๆ ชาว ARARIS STUDIO ที่ช่วยกันทำช่วยกันออกความคิดหลายคนก็หลายความคิดมุมมองก็มากตามไปด้วยอาจจะทำให้ข้อบกพร่องของเราน้อยลงไป ผมชอบคำสุภาษิตที่ว่าเอาไว้คนเดียวหัวหายสองคนเพื่อนตาย   

ปืนกระดาษ - บนปกเขียนว่า "รายได้ส่วนหนึ่งนำไปช่วยเหลือโรงเรียนยากจนในชนบท" หมายความว่าอะไร ?
อานู- เรื่องมันมีอยู่ว่าช่วงหนึ่ง เพื่อนๆ ชมรมรถสองล้อโบราณมาติดต่อให้ผมไปช่วยเล่นดนตรีการกุศลมอบสิ่งของให้กับนักเรียนยากจนในชนบทผมก็เคยไปบ่อยครั้ง ทำแบบนี้กันมานานเหมือนกับว่าเป็นกิจกรรมประจำที่เราทำให้กับเด็กๆ เหล่านั้นเขามีความสุข เราก็มีความสุขด้วยเพราะว่าเราทำด้วยหัวใจเรารวมกลุ่มกันทำ ดังนั้นเมื่อผมมีโอกาสผมก็สานความคิดเดิมเพื่อไปผนึกกำลังกับกลุ่มเพื่อนในชมรมรถสองล้อโบราณ เพื่ออะไรนะหรือ..ก็เพื่อเปิดโอกาสให้เด็กเหล่านั้นได้มี ได้กินอิ่ม ได้เล่น ได้เรียนรู้ เพื่อที่จะได้เป็นกำลังในการพัฒนาชาติต่อไปภายภาคหน้า 

 

ปืนกระดาษ - อยากจะกล่าวอะไรถึงใครเพิ่มเติมมั้ย ?
อานู- ครับ...ก็เหนื่อยมาพอสมควรกว่าจะมาเป็น "กีต้าร์ซ้าย" ในวันนี้ได้ แต่ก็มีความสุขที่กำลังใจมากมายหอบมาให้อย่างที่คาดไม่ถึง ทั้งจากพี่น้องผองเพื่อนและแฟนเพลงที่ให้การต้อนรับกันเป็นอย่างดี สำหรับผม "อานู" และศิลปินเพลงอิสระท่านอื่นๆ ก็ต้องขอบคุณในน้ำใจและไมตรีจิตที่ยื่นมาให้ ขอบคุณ "ซาไก ทัดดอกฝิ่น" ที่ออกไอเดียดีๆ ให้มาโดยตลอด ขอบคุณแฟนเพลงทุกคนที่ช่วยอุดหนุนช่วยเป็นกำลังใจและเป็นแรงใจให้เราได้สู้ต่อไป อย่างน้อยผมและศิลปินอีกหลายท่านก็เป็น "นักสู้คนหนึ่ง" ที่ทำงานเพลงเพราะว่าใจรักและศรัทธาในเสียงเพลงเสียงดนตรี แม้ในบางคราวอาจจะไม่มีทุนเพียงพอแต่ก็ต้องทำ ขอบคุณผู้ให้การสนับสนุนทุกท่านที่อุตส่าห์สละทุนทรัพย์อันมีค่ายิ่งมาเพื่อจรรโลงโลกให้สดใส อย่างไรก็ตามฝากไว้ด้วยกับงานดนตรีที่หลายคนเรียกว่า "เพลงใต้ดิน" และที่สำคัญอัลบั้มแรก “กีต้าร์ซ้าย” ของอานูด้วยนะครับ สวัสดีครับ. 

ศิลปินในปัจจุบันหากว่าไม่มีงานประจำรองรับอยู่ด้วยเห็นทีจะลำบากสักนิด มันช่างแตกต่างกันกับสมัยที่ดนตรีรุ่งเรือง หรืออาจจะคิดพึ่งพา บริษัท ค่ายเพลง นั้นก็ต้องคิดแล้วคิดอีกหลายตลบ จะด้วยเหตุผลประการใดก็ตามมันก็เป็นสิทธิและผลประโยชน์ของเขาที่เราไม่อาจจะข้องเกี่ยวได้ แต่ที่มองเห็นเด่นชัดก็จาก "ศิลปินใต้ดิน" ที่ปัจจุบันมีมากขึ้นทุกวัน ทำไม ทำไม ทำไม ? น่าจะเป็นญัตติที่จะต้องนำไปพิจารณาใน "รัฐถะส่วนบุคคล" ก็จะเป็นการดีไม่ใช่น้อยเลย แต่ก็เสียดายรัฐถะที่กล่าวถึงนั้นได้ล่มสลายไปเสียแล้ว ยังไงก็ขอฝากเรื่องนี้กับรัฐยุคใหม่หันมาดูแลบ้างก็แล้วกัน..... 


หมายเหตุ: ปืนกระดาษ/เขียน/เรียบเรียง - ปรับปรุง 23 พฤศจิกายน 2551


 
 


* Rnoo_002.jpg (40.36 KB, 110x156 - ดู 431 ครั้ง.)

* Rnoo_022.jpg (41.75 KB, 110x156 - ดู 447 ครั้ง.)

* Rnoo_023.jpg (48.4 KB, 221x156 - ดู 445 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า

ยังจำได้ดี  และคิดถึง..อยู่ทุกวัน...
หน้า: [1] ขึ้นบน พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
 
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.046 วินาที กับ 21 คำสั่ง