TRIP & TREK โลกกว้างของคนเดินทาง

พระบรมรูปรัชกาลที่ 5 บริเวณท่าน้ำหน้าวัด

ดอกกระบองเพชรกำลังบานสะพรั่งที่รั้วบ้านใครก็ไม่รู้อยู่ตรงทางเข้าวัด  อดไม่ได้ที่จะแวะเก็บภาพ

ดอกกระบองเพชรจะบานเพียงปีละหนึ่งครั้ง  แต่ละดอกจะบานอยู่แค่หนึ่งวันเท่านั้น พันธุ์นี้จะบานกลางคืน  สาย ๆ ก็จะหุบ

นกปากห่าง  พบได้ตามท้องนาทั่วไป  เป็นภาพที่น่าสะท้อนใจที่ผ่านแปลงนาแปลงนึง   ชาวนากำลังพ่นยาฆ่าแมลง แต่เจ้านกปากห่างก็ยังหากินในท้องนา 

ในวัดมีตลาดเช้าขายขนมของกิน  เป็นเครื่องยืนยันได้อย่างดีว่าลิงทีนี่นิสัยดีจริง  ไม่งั้นตลาดคงวาย(วอด)ไปแล้ว  ก็เดินหาขนมกินกันง่าย ๆ รองท้อง  คนอิ่มแล้วก็ถึงคิวปลาสวายหน้าวัดและเจ้าลิงน้อยที่นั่งมองเราตลอดตั้งแต่ตอนกินขนมแล้ว  ลิงที่นี่มีแม่ลูกอ่อนเยอะเลยถ้าไม่มีการคุมกำเนิดต่อ ๆ ไปก็คงเพิ่มจำนวนกันเป็นเท่าทวีคูณ  มีคุณลุงใจดีเอาเม็ดบัวมาแจกลิง  แกบอกว่าลิงชอบกินเม็ดบัวมากแกวางเม็ดบัวในมือแล้วยื่นให้ลิง  เจ้าลิงน้อยก็หยิบไปแต่โดยดีไม่ก้าวร้าวอะไร  พวกเราก็เลยได้ลองให้อาหารลิงจากมือกันถ้วนหน้า  เม็ดบัวหมดก็ต่อด้วยกล้วย  ขนม และ ข้าวโพดคั่ว  แจกหมดกันไปสามรอบ  ลิงอิ่มท้องพวกเราก็อิ่มใจ

* พี่ตุ่ม กับเจ้าลิงอ้วน  น่ารัก ขนปุย  ที่ดูเชื่องช้า  แล้วก็มารยาทดี ไม่แย่งอาหาร

คุณแม่ตัวนี้คงมีลูกเลี้ยงด้วย เพราะปกติลิงจะตกลูกคราวละตัว  แถมเจ้าตัวเล็กยังดูอายุห่างกันมา สงสัยจะไปรับอุปการะลูกใครมา  ลิงแม่ลูกอ่อนจะถ่ายรูปยากเสียหน่อย ค่อยข้างหวงลูก

กระโดดขึ้นมาหยิบกล้วยไปเลย ยังกะจั๊มพ์บอล

เจ้าตัวนี้เป็นตัวเดียวทีทำท่าแยกเขี้ยวขู่  แต่หลังจากโดนแฟลชเช้าไปก็เหว๋ออย่างที่เห็น

ลิงเยอะมากภาพนี้พี่ตุ่มถ่ายให้  อีกภาพได้ขนมเต็มปาก เต็มมือสองข้าง บางตัวเอาเท้าหยิบด้วย

เจ้าตัวนี้ตามไปเก็บเม็ดบัวที่คุณลุงเขาเอาไปเสียบไว้กับลวดหนาม  สามเม็ดในพริบตา

ทำบุญหล่อเทียนพรรษา

สถานีต่อมาเป็นร้านขายกาแฟเล็ก ๆ ในตัวเมืองสรรคบุรีที่เจ้าของร้านอัธยาศัยดี  อัดคาเฟอีนเข้าสู่กระแสเลือดแล้วก็เข้าไปสักการะอนุเสาวรีย์ขุนสรรค์   "วีรบุรุษแห่งลุ่มแม่น้ำน้อย"  บริเวณหน้าที่ทำการอำเภอสรรคบุรี   ท่านขุนสรรค์เป็นหนึ่งในผู้นำชาวบ้านบางระจันที่ต่อสู้กับพม่า สันนิษฐานว่าขุนสรรค์เป็นชาวเมืองสรรคบุรี ชาวชัยนาททุกคนไม่เคยลืมวีรกรรมของขุนสรรค์ และให้การยกย่องเทิดทูนว่า เป็นไทยอาสาป้องกันชาติคนแรกของอำเภอสรรคบุรี เมื่อ 223 ปีก่อน  หากดวงวิญญาณของท่านขุนสรรค์ยังคอยดูแลประเทศไทยอยู่  ก็ขอมาช่วยกันขับไล่คนไทยขายชาติโกงบ้านกินเมืองให้พ้นไปจากเมืองไทยด้วยเถิดค่ะ

* รูปปั้นควาย คงมีคนนำมาแก้บนเป็นจำนวนมาก

จากอนุเสาวรีย์ขุนสรรค์เราเดินทางต่อไปยังวัดมหาธาตุ  วัดเก่าแต่ประจำเมืองสรรคบุรี  ที่อยู่ในบริเวณย่านชุมชนริมแม่น้ำน้อย   เป็นศาสนสถานสำคัญของเมืองโบราณแพรกศรีราชา ซึ่งเป็นเมืองโบราณริมฝั่งแม่น้ำน้อยที่มีความสำคัญมาตั้งแต่สมัยทวาราวดี ได้รับการบูรณะซ่อมแซมใหม่ในปีพุทธศักราช 1897 รัชสมัยพระเจ้าธรรมราชาลิไท (พระญาลิไท) แห่งกรุงสุโขทัย แต่มาเจริญรุ่งเรืองในสมัยกรุงศรีอยุธยา  เดิมเรียกว่า วัดหัวเมือง หรือวัดศรีษะเมือง เพราะมีบริเวณพื้นที่ด้านหน้าเรียกว่า หน้าพระลาน เช่นเดียวกับบริเวณศูนย์กลางของเมืองใหญ่ทั้งอยุธยา และกรุงเทพมหานคร จึงน่าจะเป็นศูนย์กลางของเมืองแพรกศรีราชามาแต่โบราณ  สิ่งสำคัญและโดดเด่นที่สุดของวัดคือ เจดีย์กลีบมะเฟืองประดับรูปเทพพนม มีซุ้มจรนำประดิษฐานพระพุทธรูปทั้งสี่ทิศ รูปแบบอิทธิพลปรางค์กลีบมะเฟืองที่เมืองลพบุรี  เมื่อขอพรหลวงพ่อหลักเมืองแล้วก็เดินเก็บภาพกันเป็นเวลาพอสมควร  ที่นี่มีโบราณสถานที่น่าชมอยู่มาก  สรุปว่ามีสัญญาใจกันจะต้องกลับมาที่นี่อีกครั้งแน่นอน

* พระมหาธาตุเจดีย์  ทีเหลือเพียงแต่ฐาน  แต่ก็เห็นถึงความใหญ่โตอลังการ

* หลวงพ่อโต 

เจดีย์รายภายในวัด  ด้านขวาอีกภาพมีระฆังหินที่ขุดพบภายในวัด  วัดนี้พี่ตุ่มชอบมาก

ยอดเจดีย์ราย และ พระปรางค์ทรงกลีบมะเฟืองที่สวยงาม

รายละเอียดภาพปูนปั้น รอบ ๆ เจดีย์

ภายในวัด และห้องแถวชุมชมริมน้ำวัดมหาธาตุ

วัดพระยาแพรก

ภาพเขียนฝีพระหัตถ์ ฝีแปรงสวยสด

บ่ายสี่โมงหลังจากหลงเลี้ยวผิดไปแล้วสองครั้ง  พวกเราก็มาถึงสวนนกชัยนาทที่ตั้งใจเอาไว้แต่แรก  แสงบ่ายเริ่มหายไปอย่างรวดเร็วก็อย่าช้าทีทุกคนก็มุ่งหน้าสู่กรงนกใหญ่  เคยครั้งหนึ่งเคยครองตำแหน่งกรงนกที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย   ภายในกรงนกนี้มีนกยูงมากมาย  นกอีมูหลายตัว  นกกระเรียนไทยหนึ่งคู่  นกกระเรียนมงกุฎ นกกาบบัว นกกระทุง นกยางเปีย เป็ดแดง อีโก้ง ฯลฯ  ที่สำคัญนกเหล่านี้ถูกปล่อยให้เดินอย่างอิสระในกรงนกใหญ่   ทำให้สามารถชมได้อย่างใกล้ชิด  ไม่ผิดหวังที่ได้มาเยี่ยมชม  นอกจากกรงนกใหญ่ยังมีกรงนกอื่น ๆ แสดงให้ชม รวมถึงศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำที่เราเข้าไปไม่ทัน เพราะมัวแต่หลงเสน่ห์นกกระเรียนไทย  นกหายากที่สูญพันธุ์ไปจากแหล่งอาศัยตามธรรมชาติเมื่อนานมาแล้ว 

* นกกระเรียนไทย ตัวโปรด

กระเรียนมงกุฎ  นกจากแอฟฟริกา  เป็นดาราของที่นี่เหมือนกัน

เยอะสุดก็ต้องเจ้านี่  นกยูงสายพันธุ์ไทยแท้

นกกาบบัว และ กระทุง และไอ้เห้ลายดอก

เป็ดแดง ไก่ต๊อก ยางเปีย และ อีโก้ง

อีมูอาบน้ำ  กระรอก และ อีกัวน่า

พญาอินทรีย์  ที่เดิมทีเคยสร้างด้วยฟาง  แต่โดนนกมาเอาฟางไปทำรังเสียมาก  เลยเปลี่ยนเป็นไฟเบอร์กลาส และ สะพานสวย ๆ

สำหรับนกจริง ๆ นกพิราบคืออาหารของเหยี่ยว และ อินทรีย์  แต่ที่นี่คือบ้านสำหรับนกพิราบ

อำลาสวนนก แผงส้มโอขาวแตงกวา  อร่อยจริงจัง  ครั้งต่อไปจะขนกลับมาเยอะ ๆ เลย

เที่ยวสวนนกจนทั่วก็ออกมาเลือกซื้อส้มโอขาวแตงกวา  ของดีอีกอย่างของเมืองชัยนาท  เลือกขนาดลูกย่อม ๆ โลกว่า ๆ สนนราคา 3 ลูก 100 บาท  ทดลองแล้วว่าอร่อยจริงสมคำร่ำลือ  ได้ของติดไม้ติดมือกลับบ้านแล้วมีเวลาเหลือเลยขึ้นเขาพลวงนมัสการพระธาตุวัดเขาพลวง  และชมวิวเมืองชัยนาทจากบนยอดเขาพลวง  แม้จะท้าย ๆ โปรแกรมแล้ว  แต่เราก็ยังไม่วายเลี้ยวผิด แวะถามทางหนึ่งรอบ ถอยรถอีกสองครั้ง  ยังไงก็มาถึง ฮ่า ๆ  บนยอดเขาพลวงมองเห็นตัวเมืองชัยนาท และ แม่น้ำเจ้าพระยาได้จัดเจน  น่าเสียที่วันนี้ฟ้าหลัวเพราะมีเผาฟางข้าวในนา  ถ้าหากวันฟ้าใสอากาศดี  จุดชมวิวเขาพลวงนี้จะเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกที่ดีที่สุดแห่งหนึงของเมืองชัยนาท   ลงจากเขาพลวงมุ่งหน้าสู่เขื่อนเจ้าพระยา  เขื่อนขนาดใหญ่ที่สร้างแห่งแรกของเมืองไทย  สร้างขึ้นบนแม่น้ำเจ้าพระยาเพื่อประโยชน์ในการผลิตไฟฟ้าและการชลประทานเพื่อการเกษตร  จนพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าก็ได้เวลามื้อเย็นที่พวกเรารอคอย  วันนี้เลือกเอาร้านอาหารบ้านชาวดินริมแม่น้ำเจ้าพระยา  อาหารอร่อย ราคาสมเหตุสมผล  ก็อิ่มท้องและได้พูดคุยกันจนหายคิดถึงก็ได้เวลาอำลาเมืองชัยนาท  พร้อมกับภารกิจ One day trip ที่เสร็จสิ้นลงอย่างสมบูรณ์   สำหรับเวลาเพียงหนึ่งวันนี้ก็สามารถบอกได้ว่าชัยนาทมีดีดังคำขวัญที่ว่า " หลวงปู่ศุขลือชา เขื่อนเจ้าพระยาลือชื่อ นามระบือสวนนก ส้มโอดกขาวแตงกวา "

* วัดเขาพลวง

เขือนเจ้าพระยาวันนี้ฟ้าไม่ีเลยย้อมสีเล่นซะเลย

ส่งท้ายด้วยอาหารอร่อยร้านบ้านชาวดิน

 :'( :'( :'(

CF  card  cannot  format

 :'( :'( :'(

ตอนนี้ยังกู้ไฟด์ไม่ได้เลย

:(

อ้าววววววววววววว  :o

โทร.ถามที่ศูนย์แคนอนเลยพี่ คิดว่าเขาน่าจะมีโปรแกรมแก้ หรือเคยเจอปัญหาแบบนี้บอ่ยๆ

เป็นที่ CF หรือปล่าว ถ้าใช่ต้องลองใช้ SOFTWARE กู้ไฟล์

เ้ป็นที่ cf แต่ที่ศูนย์แคนอนมันมีโปรแกรมกู้ไฟล์