TRIP & TREK โลกกว้างของคนเดินทาง

หยุดยาวสามวัน (22-24 ตค. 54)เลยพาครอบครัวไปเที่ยวเชียงคาน

ออกเดกินทางหัวค่ำวันที่ 21 ไปถึงตอนตี 4 แวะที่หล่มสักที่เดียว

ช่วงหล่มสักไปเชียงคานขับรถแทบจะมองไม่เห็นทางเพราะหมอกลงหนามาก ต้องอาศัยขับตามรถเจ้าถิ่นเลยขับสบาย

มาเชียงคานครั้งนี้เป็นครั้งแรก เลยเดาไม่ค่อยจะออกว่าหน้าตาเชียงคานเป็นอย่างไร

วิ่งถึงเชียงคานถึงแยกไฟแดงเลี้ยวขวา ลัดเลาะดูตลาด มันไม่ใช่เชียงคานตามที่คิดนี่มีแต่ตึกใหม่

วิ่งเลยไปถึงหน้าโรงพยาบาล มืดก็มืดมองอะไรก็ไม่ค่อยจะเห็นแถมหมอกลงหนาอีกเลยเลี้ยวกลับมาจอดหน้าร้านอิ่มอร่อยเป็นมินิมาร์ช

จะถามใครก็ไม่มีใครผ่านไปมาสักที ก็ตีสี่ คนกำลังนอน เลยจอดพักสายตา จนตื่นอีกทีประมาณ 6 โมงเช้าเจอยายคนหนึ่งเดินมาหิ้วกระติ๊บข้าวเหนียวมาด้วย เลยถามว่าไปใส่บาตรที่ไหน

คุณยายก็บอกว่าต้องไปอีกซอยติดแม่น้ำโขง เลยถึงบางอ้อ มันมีอีกซอย จึงคว้ากล้องถ่ายรูปแล้วเดินเข้าซอยไปจอดรถทิ้งไว้หน้าร้านนั่นแหละ เพราะดูแล้วซอยเล็กรถน่าจะเข้าไปยาก

พอเดินเข้าไปในซอยก็พบ บ้านไม้เก่าเรียงรายแป็นแถว ยาวตามแม่น้ำโขง ใช่เลยที่ที่เราอยากเห็น
แต่ มองไปทางน้ำโขงมองไม่เห็นอะไรเลยในแม่น้ำมีแต่หมอกขาวไปหมด

เดินสักพักก็มีผู้คนออกมานั่งสองฝั่งถนน เตรียมกระติ๊บข้าวเหนียวมาด้วย ประมาณหกโมงครึ่งพระก็เดินมาเป็นแถวคนก็เริ่มใส่บาตร เราก็ยังงงอยู่เลยครับ จะถ่ายรูปยังไงดีคนก็เยอะ พระก็หลายองค์ เลยต้องลองมองหามุมไปเรื่อย เดินดูเป็นส่วนมากไม่ค่อยได่ถ่าย

คนใส่บาตรก็เร็วมาก ปั้นข้าวเหนียวยัดใส่บาตร มองแทบไม่ทัน

เล็งอยู่นานกว่าจะได้ภาพ หาจังหวะไม่ค่อยได้

คุณยายรอใส่บาตร

แวปเดียวครึ่งชั่วโมงพระก็หายกลับวัดไปหมด

ร้านค้าก็ทะยอยกันเปิด ผู้คนก็เริ่มเดินถ่ายภาพกันขวักไขว่
รวมทั้งผมด้วย

ช่วงนี้นางแบบส่วนตัวหายเลยหานางแบบแถวๆนั้นแหละครับ

แล้วก็สายอีกหน่อยก็หาอาหารเช้าทานกัน เมื่อทานเสร็จก็ตรงไปตามหาแก่งคุดคู้และภูทอก
ก็ขับรถตามทางไปดูหลักกิโลและป้ายบอกทาง จนมาถึงทางเข้าภูทอกเลี้ยวรถเข้าไปทันที ไปถึงตีนเขา
ห้ามนำรถขึ้น ให้จอดรถด้านล่างและขึ้นรถตู้และปิคอับที่จอดรอเท่านั้น เสียค่าโดยสารเท่าไรจำไม่ได้แล้ว
ขึ้นไปด้านบน พอไปถึงมองอะไรไม่เห็นเลยครับมีแต่หมอกขาวฟุ้งกระจายไปทั่ว จึงกลับลงมาและเดินทาง
ไปตามหาแก่งคุดคู้ต่อ ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากภูทอกมากนัก

มาถึงก็เห็นแก่งคุดคู้ลางๆ เลยเดินทางกลับเข้าตัวอำเภออีกครั้ง และที่นี้กลับไปทางทิศตะวันตก
เพื่อจะไปไหว้พระใหญ่ ป้ายเขียนไว้ว่า 15 กิโลเอง เลยขับรถไปตามหา

สุดท้ายไหว้พระเป็นสิริมงคลแล้วก็กลับเข้าตัวเมืองอีกครั้ง ทีนี้เริ่มบ่ายแล้วจึงหาบ้านพัก
ก็ไปได้แถวๆทางไปภูทอก ใกล้ๆกับบ้านสามล้อ(จำชื่อไม่ได้)เป็นบ้านหนึ่งหลังครับ
 ไม่ใหญ่ไม่เล็กกำลังพอดี เป้นห้องพัดลมเพราะอากาศค่อนข้างเย็น และก็พักผ่อนหย่อนใจ
(นอนหลับคนละตื่น) จนพลบค่ำจึงออกมาเที่ยวตลาดเชียงคานยามค่ำคืน

เดินดูไปเรื่อยเหมือนตลาดปายมาก บรรยากาศก็ดี คืนนี้คนไม่มากเท่าไรเดินกำลังสะบายๆ

ภาพทั่วไปของเชียงคาน

แค่นี้ก่อนครับ "ไม่ชอบใส่ร้ายแต่ชอบป้ายสี"ชอบคำนี้มาก

ดูเป็นวันหยุดสบาย ๆ ดีนะพี่  คิดถึงบ้านไม้เก่า ๆ ที่นั่น