|
หัวข้อ: กอดเมืองไทย.. ให้หายเหนื่อย ตอน แสง สี เสียง ลอยกระทงสุโขทัย เริ่มหัวข้อโดย: Joyful ที่ พฤศจิกายน 27, 2010, 02:07:55 AM กอดเมืองไทยให้หายเหนื่อยจริงหรือเปล่าวะ??? ทำไมยิ่งไปยิ่งเหนื่อย
ทริปนี้ก็เป็นทริปทำฝันให้เป็นจริง อยากเห็นนางนพมาศตัวเป็น ๆ มานานแล้ว เค้าว่าลอยกระทงนี่เริ่มมาจากสุโขทัย บ้างก็ว่าไม่น่าจะใช่ อันนี้ไม่เกี่ยวกับเราให้นักวิชาการไปทะเลาะกันเอง หัวข้อ: Re: กอดเมืองไทย.. ให้หายเหนื่อย ตอน แสง สี เสียง ลอยกระทงสุโขทัย เริ่มหัวข้อโดย: Joyful ที่ พฤศจิกายน 27, 2010, 02:11:35 AM อันนี้ไปค้นประวัติมาค่ะ จาก wikipedia
ประวัติ พลุเฉลิมฉลองในเทศกาลวันลอยกระทงริมแม่น้ำเจ้าพระยาเดิมเชื่อกันว่าประเพณีลอยกระทงเริ่มมีมาแต่สมัยสุโขทัย ในรัชสมัยพ่อขุนรามคำแหง โดยมีนางนพมาศหรือท้าวศรีจุฬาลักษณ์ เป็นผู้ประดิษฐ์กระทงขึ้นครั้งแรก โดยแต่เดิมเรียกว่าพิธีจองเปรียง ที่ลอยเทียนประทีป และนางนพมาศได้นำดอกโคทม ซึ่งเป็นดอกบัวที่บานเฉพาะวันเพ็ญเดือนสิบสองมาใช้ใส่เทียนประทีป[ต้องการอ้างอิง] แต่ปัจจุบันมีหลักฐานว่าไม่น่าจะเก่ากว่าสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น โดยอ้างอิงหลักฐานจากภาพจิตรกรรมการสร้างกระทงแบบต่างๆ ในสมัยรัชกาลที่1 ปัจจุบันวันลอยกระทงเป็นเทศกาลที่สำคัญของไทย ที่มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศมาเที่ยวปีละมากๆ ทั้งนี้ในช่วงเวลาดังกล่าวมักจะเป็นช่วงต้นฤดูหนาว และมีอากาศดี ในวันลอยกระทง ยังนิยมจัดประกวดนางงาม เรียกว่า "นางนพมาศ" ประเพณีลอยกระทงนั้นมีมาแต่โบราณ โดยมีคติความเชื่อหลายอย่าง เช่น เชื่อว่าเป็นการบูชาและขอขมา แม่พระคงคา เป็นการสะเดาะเคราะห์ เป็นการบูชาพระเจ้าในศาสนาพราหมณ์ หรือเป็นการบูชารอยพระพุทธบาท เป็นต้น การลอยกระทงนิยมทำกันในวันเพ็ญ เดือน 12 ของทุก ๆ ปี อันเป็นช่วงที่น้ำในแม่น้ำลำคลองขึ้นสูงและ อากาศเริ่มเย็นลง ตามพระราชนิพนธ์พระราชพิธีสิบสองเดือน และตำรับท้าวศรีจุฬาลักษณ์ได้กล่าวว่า นางนพมาศ หรือท้าวศรีจุฬาลักษณ์ พระสนมเอกในพระร่วงเจ้าแห่งกรุงสุโขทัย เป็นผู้ริเริ่มประดิษฐ์กระทงสำหรับลอยประทีป เป็นรูปดอกบัวบานขึ้น ซึ่งคนทั่วไปนิยมทำตามสืบต่อมา นอกจากนั้นในศิลาจารึกหลักที่ 1 ยังได้กล่าวถึงงานเผาเทียน เล่นไฟ ของกรุงสุโขทัยไว้ด้วยว่า เป็นงานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของกรุงสุโขทัย ทำให้ผู้รู้ทั้งหลายสันนิษฐานต้องตรงกันว่า งานดังกล่าวน่าจะเป็นงานลอยกระทงอย่างแน่นอน หัวข้อ: Re: กอดเมืองไทย.. ให้หายเหนื่อย ตอน แสง สี เสียง ลอยกระทงสุโขทัย เริ่มหัวข้อโดย: Joyful ที่ พฤศจิกายน 27, 2010, 02:19:34 AM กลับมาที่งานแสงสีเสียงกัน ที่วิจารณ์กันมามากจากคุณพี่ต้น พี่ใหญ่ เราก็รู้สึกตามนั้น ว่าการจัดที่นั่งทำไมต้องขนาดนั้น อีกอย่างงานระดับประเทศขนาดนี้ ค่อนข้างผิดหวังจริง ๆ
หัวข้อ: Re: กอดเมืองไทย.. ให้หายเหนื่อย ตอน แสง สี เสียง ลอยกระทงสุโขทัย เริ่มหัวข้อโดย: Joyful ที่ พฤศจิกายน 27, 2010, 02:23:39 AM เรื่องต่อมาคงเป็นขี้เหนียวไฟ เพราะถ่ายยังไง speed shutter ก็ไม่พอ ครั้นจะเพิ่ม iso เป็น 800 กล้องโบราณของข้าพเจ้าก็เกรนมารึ่มเลย สรุปว่าการแสดงสวย แต่ว่าเก็บภาพไม่ได้ เฮ้อ..
หัวข้อ: Re: กอดเมืองไทย.. ให้หายเหนื่อย ตอน แสง สี เสียง ลอยกระทงสุโขทัย เริ่มหัวข้อโดย: Joyful ที่ พฤศจิกายน 27, 2010, 02:39:35 AM ฉะนั้นได้แค่ไหนก็ถ่ายกันไปคับ ;D
หัวข้อ: Re: กอดเมืองไทย.. ให้หายเหนื่อย ตอน แสง สี เสียง ลอยกระทงสุโขทัย เริ่มหัวข้อโดย: Joyful ที่ พฤศจิกายน 27, 2010, 02:42:46 AM :)
หัวข้อ: Re: กอดเมืองไทย.. ให้หายเหนื่อย ตอน แสง สี เสียง ลอยกระทงสุโขทัย เริ่มหัวข้อโดย: Joyful ที่ พฤศจิกายน 27, 2010, 02:44:36 AM ;D
หัวข้อ: Re: กอดเมืองไทย.. ให้หายเหนื่อย ตอน แสง สี เสียง ลอยกระทงสุโขทัย เริ่มหัวข้อโดย: Joyful ที่ พฤศจิกายน 27, 2010, 02:45:20 AM :)
หัวข้อ: Re: กอดเมืองไทย.. ให้หายเหนื่อย ตอน แสง สี เสียง ลอยกระทงสุโขทัย เริ่มหัวข้อโดย: Joyful ที่ พฤศจิกายน 27, 2010, 02:48:29 AM หลังจากที่จบการแสดงแล้ว บรรดาคนใหญ่คนโตก็มาปล่อยโคมกัน
หัวข้อ: Re: กอดเมืองไทย.. ให้หายเหนื่อย ตอน แสง สี เสียง ลอยกระทงสุโขทัย เริ่มหัวข้อโดย: i-am-ton ที่ พฤศจิกายน 27, 2010, 07:06:03 PM แต่งซะเหมือนภาพวิญญานหลอนเลยกุ้ง :D
หัวข้อ: Re: กอดเมืองไทย.. ให้หายเหนื่อย ตอน แสง สี เสียง ลอยกระทงสุโขทัย เริ่มหัวข้อโดย: Joyful ที่ พฤศจิกายน 27, 2010, 11:04:18 PM แต่งซะเหมือนภาพวิญญานหลอนเลยกุ้ง :D ก็อารมณฺมันประมาณนั้นแหละพี่ หัวข้อ: Re: กอดเมืองไทย.. ให้หายเหนื่อย ตอน แสง สี เสียง ลอยกระทงสุโขทัย เริ่มหัวข้อโดย: Trekkathon ที่ พฤศจิกายน 28, 2010, 09:04:56 AM Like :D
หัวข้อ: Re: กอดเมืองไทย.. ให้หายเหนื่อย ตอน แสง สี เสียง ลอยกระทงสุโขทัย เริ่มหัวข้อโดย: Joyful ที่ พฤศจิกายน 28, 2010, 05:42:14 PM Like :D มันจะขี้เกียจเกินไปป่าวพี่ like ทุกกระทู้เลยเนี่ย เขียนอย่างอื่นเป็นม๊ายยยยยยยยยย |