TRIP & TREK โลกกว้างของคนเดินทาง

กระดานข่าวสีเขียว => กวีแรมทาง => ข้อความที่เริ่มโดย: นายซาไกทัดดอกฝิ่น ที่ สิงหาคม 12, 2009, 09:06:04 AM



หัวข้อ: เงาใจ..ในความว่าง
เริ่มหัวข้อโดย: นายซาไกทัดดอกฝิ่น ที่ สิงหาคม 12, 2009, 09:06:04 AM
เงียบสงัดไร้...ความเคลื่อนไหว   สัมผัสตา
ใจกลับ       จับเสียงซึ่ง         ผูกพัน..พี่น้อง
ในความว่าง    เงาลม              โฉบผ่าน
ใจเหงา         บอกกาย          จงแกร่ง..ทรนง
....................................................
เพื่อนเอ๋ย           จงนิ่งแน่ว         สัมผัสเสียง
ในความเงียบ      ในความว่าง       ปัจจุบัน
ไร้ความเปลื่ยน    ความเคลื่นไหว    หยุดสงบ
 ดั่งไร้เสี่ยง        สำเนียงเพื่อน       ที่เคยปลอบ
...........................................................
เพื่อนเอ๋ยเพื่อน     ฉันยังอยู่        เคียงข้าง
เป็นเงาร่าง         เงาใจ            ในความว่าง
เป็นสายลม        โบกพัด           ไม่มีตน
เป็นเงาคน         ส่งเงาเสียง        ว่า...ห่วงใย
...........................................................


หัวข้อ: Re: เงาใจ..ในความว่าง
เริ่มหัวข้อโดย: bamboo ที่ สิงหาคม 18, 2009, 11:34:42 AM
ท่านซาไก กลอนท่านลึกซึ้งเกินไป จนผมอ่าน 3เที่ยวยังไม่เข้าใจเลยอะ ช่วยอธิบายขยายความหน่อย
 ???  ::) >:( :(


หัวข้อ: Re: เงาใจ..ในความว่าง
เริ่มหัวข้อโดย: Joyful ที่ สิงหาคม 18, 2009, 03:54:49 PM
ฮี่ ๆ แซวกันเองซะแล้ว


หัวข้อ: Re: เงาใจ..ในความว่าง
เริ่มหัวข้อโดย: นายซาไกทัดดอกฝิ่น ที่ สิงหาคม 19, 2009, 08:23:14 AM
  บ่น รัฐนาวา ประชาธิปัตน์ กับความกล้าในการตัดสินใจ
  ปลอบ และคิดถึง  ความผูกพัน  พี่น้อง..เรา


หัวข้อ: Re: เงาใจ..ในความว่าง
เริ่มหัวข้อโดย: Trekkathon ที่ สิงหาคม 21, 2009, 07:20:03 PM
ท่านซาไกมิใช่กวีธรรมดา  หากแต่เป็นกวีที่จัดอยู่ในขั้นเซียนเหยียบเมฆ
ใครก็ตามที่อ่านกลอนของท่านซาไกแล้วไม่เข้าใจในสิ่งที่ท่านซาไกนำเสนอ  ต้องพยายาม
อ่านแล้วอ่านอีกหลายๆ ครั้ง  จนกว่าจะเข้าใจในสิ่งที่ท่านซาไกเรียงร้อยออกมาความคิดอันล้ำลึก
บทกลอนของท่านซาไกซ่อนและแฝงไว้ซึ่งกลบทอย่างแยบยล  ผู้ที่อ่านกวีของท่าน
ต้องรู้จักวิธีพลิกแพลงด้วยกลวิธีต่างๆ นาๆ  อาทิเช่น อ่านแบบคำเว้นคำแล้วย้อนกลับมาอ่าน
คำที่ข้ามไปในครั้งแรก  หรือ  บางบทกวีต้องอ่านแบบถอยหลัง แต่คนละแบบกับถอยหลังเข้าคลอง
หรือไม่ท่านซาไกนึกสนุกก็เขียนบทกวีในแบบสัมการ  ท่านจะใช้สูตรวิธีคำนวนทางคณิตศาสตร์
บวก ลบ คูณ หาร เสียก่อน  แล้วจึงเอาผลลัพธ์ที่ได้มาเขียนเป็นกลอนในรูปแบบที่ไม่มีใครเหมือน
นับเป็นการอภิวัฒน์บทกลอนให้สอดคล้องกับยุคโลกาภิวัฒน์

ดังนั้นที่ท่านแบมบู บอกว่าอ่านมา 3 ครั้งยังไม่เข้าใจ  ยังน้อยไปครับ  ขอแนะนำให้พยายามอ่านอีกหลายครั้ง
และพยายามอ่านหลายๆ วิธีดูนะครับ  นี่แหละบทกลอนที่ดูเหมือนธรรมดา  แต่ไม่ธรรมดา


หัวข้อ: Re: เงาใจ..ในความว่าง
เริ่มหัวข้อโดย: นายซาไกทัดดอกฝิ่น ที่ สิงหาคม 24, 2009, 10:05:07 AM
ท่านซาไกมิใช่กวีธรรมดา  หากแต่เป็นกวีที่จัดอยู่ในขั้นเซียนเหยียบเมฆ
ใครก็ตามที่อ่านกลอนของท่านซาไกแล้วไม่เข้าใจในสิ่งที่ท่านซาไกนำเสนอ  ต้องพยายาม
อ่านแล้วอ่านอีกหลายๆ ครั้ง  จนกว่าจะเข้าใจในสิ่งที่ท่านซาไกเรียงร้อยออกมาความคิดอันล้ำลึก
บทกลอนของท่านซาไกซ่อนและแฝงไว้ซึ่งกลบทอย่างแยบยล  ผู้ที่อ่านกวีของท่าน
ต้องรู้จักวิธีพลิกแพลงด้วยกลวิธีต่างๆ นาๆ  อาทิเช่น อ่านแบบคำเว้นคำแล้วย้อนกลับมาอ่าน
คำที่ข้ามไปในครั้งแรก  หรือ  บางบทกวีต้องอ่านแบบถอยหลัง แต่คนละแบบกับถอยหลังเข้าคลอง
หรือไม่ท่านซาไกนึกสนุกก็เขียนบทกวีในแบบสัมการ  ท่านจะใช้สูตรวิธีคำนวนทางคณิตศาสตร์
บวก ลบ คูณ หาร เสียก่อน  แล้วจึงเอาผลลัพธ์ที่ได้มาเขียนเป็นกลอนในรูปแบบที่ไม่มีใครเหมือน
นับเป็นการอภิวัฒน์บทกลอนให้สอดคล้องกับยุคโลกาภิวัฒน์

ดังนั้นที่ท่านแบมบู บอกว่าอ่านมา 3 ครั้งยังไม่เข้าใจ  ยังน้อยไปครับ  ขอแนะนำให้พยายามอ่านอีกหลายครั้ง
และพยายามอ่านหลายๆ วิธีดูนะครับ  นี่แหละบทกลอนที่ดูเหมือนธรรมดา  แต่ไม่ธรรมดา


  ทั้งยิ้ม  ทังหัวเราะ ทั้งมีความสุข  จริงๆ  นี่ละคือคือแก่นของ ความสุข
  อักษรที่ฉาบทาด้วยความจริงใจ อักษรที่แฝงซุกไปด้วยไออุ่นแห่งมิตรภาพ
  สุข ในถ้อยอักษร  ที่กระซ้า ............สหายๆ...


หัวข้อ: Re: เงาใจ..ในความว่าง
เริ่มหัวข้อโดย: bamboo ที่ สิงหาคม 26, 2009, 10:57:27 PM
หุๆๆๆๆๆๆๆๆๆรักดอกจึงหยอกเล่น