TRIP & TREK โลกกว้างของคนเดินทาง

กระดานข่าวสีเขียว => หัวใจเดินทาง => ข้อความที่เริ่มโดย: นายซาไกทัดดอกฝิ่น ที่ มิถุนายน 22, 2009, 09:22:14 PM



หัวข้อ: ตักบาตรดอกไม้ ที่วัดพระพุทธบาท สระบุรี
เริ่มหัวข้อโดย: นายซาไกทัดดอกฝิ่น ที่ มิถุนายน 22, 2009, 09:22:14 PM
ททท. สำนักงานลพบุรี ขอเชิญร่วมงานประเพณีตักบาตรดอกไม้ ประจำปี 2552 ระหว่างวันที่ 6 – 8 กรกฎาคม 2552 ณ วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี
       
       นายวัฒนพงษ์ โพธิ์นิ่มแดง ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสำนักงานลพบุรี เปิดเผยว่า การตักบาตรดอกไม้ เป็นประเพณีที่เป็นเอกลักษณ์สำคัญ ของชาวจังหวัดสระบุรี ถือเอาวันเข้าพรรษา ในวันแรมค่ำ เดือนแปดของทุกปี จะมีประชาชนจากทุกสารทิศ พากันไปทำบุญตักบาตร เนื่องในวันเข้าพรรษาที่วัดพระพุทธบาท ราชวรมหาวิหาร ตำบลขุนโขลน อำเภอพระพุทธบาท เมื่อเสร็จจากการทำบุญ ตักบาตรในตอนเช้าแล้ว ก็จะพากันนำดอกไม้ชนิดหนึ่ง คล้ายต้นกระชาย หรือต้นขมิ้น มีหลายสี เช่น สีเหลือง สีขาว เรียกกันว่า ดอกเข้าพรรษา (ดอกไม้นี้จะพบในช่วงเข้าพรรษา) มารอใส่บาตรพระสงฆ์
       
       ทั้งนี้พระภิกษุทั้งวัด เดินจะออกจากศาลาการเปรียญมารับดอกไม้จากพุทธศาสนิกชนที่รอนำดอกไม้ใส่บาตร เพื่อนำขึ้นไปสักการะรอยพระพุทธบาท ที่ประดิษฐานบนพระมณฑป ซึ่งรอยพระพุทธบาท ภายในวัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร แห่งนี้ เป็นที่เคารพและศรัทราของพุธทสาสนิกชนทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ โดยมีความเชื่อในคติชาวลังกาว่า พระพุทธเจ้าได้ประทับรอยพระพุทธบาทไว้ 5 แห่ง
       
       สำหรับรอยพระพุทธบาทที่วัดพระพุทธบาทฯ แห่งนี้ เป็น1 ใน 5 แห่ง หลังจากพระสงฆ์เข้านมัสการ รอยพระพุทธบาทที่มณฑปแล้ว ก่อนที่จะเข้าพระอุโบสถ จะผ่านพุทธศาสนิกชนที่เฝ้ารออยู่ตรงบันไดนาคเพื่อที่จะร่วมกันล้างเท้าพระภิกษุสงฆ์ ซึ่งการกระทำดังกล่าว ถือเป็นการชำระกิเลส ชำระบาป เพื่อจะได้บุญกุศล และความสุขทางจิตใจติดตัวกลับไป
       
       และสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางในช่วงวันเวลาดังกล่าว ททท.สำนักงานลพบุรี ขอแนะนำ เส้นทางท่องเที่ยว ไหว้พระ 9 วัด สุขใจใกล้กรุง ซึ่งเป็นเส้นทางท่องเที่ยวเชิงศาสนาและวัฒนธรรม ที่นักท่องเที่ยวสามารถแวะเยี่ยมเยือนได้ อาทิ
       
       1.สักการะหลวงพ่อดำ หรือหลวงพ่อศรีพุทธมงคลมุณี พร้อมศาลเจ้าแม่ตะเคียนทอง ตำนานบ้านเสาร้องไห้ ต้นกำเนิดชื่ออำเภอเสาไห้ ณ วัดสูง อ.เสาไห้
       
       2.วัดสมุหประดิษฐาราม สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 3 ภายในวัดมีพระอุโบสถเป็นที่ประดิษฐาน
       พระพุทธรูปลงรักปิดทองสมัยปางมารวิชัย ศิลปะสุโขทัย และชมภาพจิตรกรรมฝาผนังที่งดงาม
       
       3.วัดพระเยาว์ ชมพระพุทธรูปทองคำ ที่รอดพ้นจากการถูกเผาทำลายของพม่าที่ชาวบ้านให้ความ
       เลื่อมใส พร้อมแวะชมผ้าพื้นเมืองฝีมือกลุ่มสตรีท่อผ้าไทยวน ณ ศูนย์ทอผ้าวัดต้นตาล
       
       4.วัดเขาแก้ววรวิหาร สักการะพระบรมสารีริกธาตุและพระธาตุสาวก ที่สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าทรงธรรม และทรงสถาปนาให้เป็นพระอารามหลวง จากนั้นชมวิถีชีวิตและเรื่องราวของชาวไทยวน กับอาจารย์ทรงชัย วรรณกุล ที่ยังคงรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีไว้อย่างเหนียวแน่น ณ ศูนย์วัฒนธรรมพื้นบ้านชาวไทยวง
       
       5.วัดเขาวง (ถ้ำนารายณ์) สถานที่ซึ่งเคยเป็นที่พักแรมของกษัตริย์ถึง 2 พระองค์ คือ พระนารายณ์มหาราช และพระเจ้าทรงธรรม ภายในวัดค้นพบอักษรปัลวะ อักษรโบราณที่มีอายุกว่า 1,200 ปี และนมัสการพระพุทธรูปปางสมาธิ ภายในถ้ำ
       
       6.นมัสการรอยพระพุทธบาทวัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร สถานที่จัดงานตักบาตรดอกไม้
       
       7.วัดศาลาแดง นมัสการพระพุทธนิโรคันตรายชัยวัตน์จตุรทิศ เป็นพระพุทธรูปประจำทิศตะวันออก สร้างโดยกรมรักษาดินแดน ที่สร้างไว้เพียง 4 องค์ เพื่อประจำทั้ง 4 ทิศ เพื่อถวายความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช 8.ชมภาพจำหลักพระพุทธเจ้าแสดงธรรมเพื่อโปรดสรรพสัตว์ในโลก ในสมัยทวารวดี อายุกว่า 1,600 ปี ภายในวัดถ้ำพระโพธิสัตว์ 9.สักการะพระพุทธฉาย (พระฉายา / เงา) ขององค์สัมมาสัมพุทธเจ้า และนมัสการรอยพระพุทธบาทเบื้องขวา ณ วัดพระพุทธฉาย
       
       โดยนักท่องเที่ยวสามารถสอบถามรายละเอียดทั้งหมดเพิ่มเติมได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานลพบุรี โทร. 0-3642-2768–9 ได้ทุกวันในเวลาราชการ

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 22 มิถุนายน 2552 17:33 น.