ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
พฤษภาคม 09, 2024, 04:27:14 AM
มองผ่านเลนส์ [ ปี 1- 5 ]

+  TRIP & TREK โลกกว้างของคนเดินทาง
|-+  กระดานข่าวสีเขียว
| |-+  มองผ่านเลนส์ (ผู้ดูแล: i-am-ton)
| | |-+  น่าสนใจดี คัดลอกฝากคน ชอบนู๊ดครับ
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
หน้า: [1] ลงล่าง พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: น่าสนใจดี คัดลอกฝากคน ชอบนู๊ดครับ  (อ่าน 4235 ครั้ง)
นายซาไกทัดดอกฝิ่น
สมาชิกตลอดชาติ
นักโพสต์มือวางอันดับ 1
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2148


ข้า..แผ่นดินไทย


อีเมล์
น่าสนใจดี คัดลอกฝากคน ชอบนู๊ดครับ
« เมื่อ: มิถุนายน 24, 2008, 08:50:46 AM »

ชัตเตอร์บรรลัยในโลกหล้า...
เมื่อคำว่า ‘Nude’ (เปลือยกาย) ถูกตั้งอยู่บนบรรทัดฐานที่แตกต่างกันไปในแต่ละวัฒนธรรม จนสามารถสะท้อนวิธีคิดเกี่ยวกับความโป๊เปลือยของมนุษย์ได้อย่างหลากหลาย สำหรับวัฒนธรรมไทย ‘Nude’ นับว่าเป็นผลงานที่ผู้คนส่วนใหญ่ในสังคมนี้ต่อต้าน ปฏิเสธ ไม่ค่อยให้ความสนใจ และมองว่าลามกอนาจารสถานเดียว จริงๆ หรือ ?...
       
       วิสามัญเมือง สิทธิเขตต์ ช่างภาพศิลปินร่วมสมัยที่หยิบเอาความโป๊เปลือย ซึ่งเป็นประเด็นแหลมคมสำหรับวัฒนธรรมของบ้านเรา มาแสดงออกอย่างเปิดเผย ด้านหนึ่งเขาเป็นช่างภาพมืออาชีพที่เชี่ยวชาญในการถ่ายนู้ด แต่ในอีกด้านเขาเป็นศิลปินที่มองสังคมด้วยความเข้าใจ เขาดื่มด่ำอยู่กับความงามของผู้หญิงอย่างตรงไปตรงมาจนสามารถมองเห็นความงามจากมุมลึกข้างในใจ
       
       ในขณะที่มนุษย์หลายคนต่างดิ้นรนกันอย่างทุรนทุราย ในสังคมที่ไร้ความหวัง ไร้ความรู้สึก วิสามัญเมืองสังเกตเห็นความจริงแห่งชีวิตได้จากแววตาของเรือนร่างอันเปลือยเปล่าตรงหน้า
       
       และเมื่อสัญชาตญาณดิบและแรงปรารถนาทางเพศถูกถ่ายทอดอย่างตรงไปตรงมาผ่านสายตา ความคิด และจิตวิญญาณของเขา ทำให้ผลงานหลายๆ ชุดถูกเล่าขานผ่านปากต่อปากว่า เสียดสีและแรงดีจริงๆ ถือเป็นการปลดเปลื้องราคะจริตของมนุษย์ผ่านกล้องดิจิตอลตัวเล็กๆ ที่เฉียบขาด
       
       สัมผัสเจตนารมณ์อันคุกรุ่นอยู่ข้างในใจของวิสามัญเมือง ผ่านวาทะดิบๆ ที่บ่งบอกตัวตนที่ชัดเจนได้นับจากบรรทัดต่อไป...
       
       - ช่วยบอกถึงเจตนารมณ์ในการที่หันมาเอาดีทางด้านการถ่ายภาพนู้ดให้ฟังหน่อย ?
       ผมไม่ได้คิดว่ามันเป็นเจตนารมณ์อะไรเลย และไม่ได้คิดว่าจะมาเอาดิบเอาดีทางนี้ และก็ไม่คิดว่าทุกวันนี้ได้ดิบได้ดีแล้ว เพียงแต่ผมกำลังทำงานด้านนี้อยู่ก็เท่านั้น โดยสนุกกับมันบ้างและทุกข์กับมันบ้าง และที่สำคัญผมได้เลือกทำในสิ่งที่ผมชอบและถนัดมากกว่าที่จะไปทำงานด้านอื่นที่ผมไม่ค่อยสันทัด
       
       - ที่ว่าสนุกนั้นสนุกอย่างไรและมันเป็นทุกข์ตรงไหน ?
       สนุกและตื่นเต้นที่ได้สร้างผลงานแปลกใหม่ไปเรื่อยเปื่อย สนุกกับการได้คิดและได้แก้ปัญหาเหล่านั้น สนุกกับการใช้ชีวิตที่อยู่ในโลกส่วนตัวของเราล้วนๆ ส่วนทุกข์นั้นทุกข์กับการต้องปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนมนุษย์ด้วยกันในสายงานนี้ เพราะงานด้านนี้มันละเอียดอ่อนเรื่องอารมณ์เป็นที่สุด
       
       - นอกจากความงาม และศิลปะคุณสัมผัสอะไรได้อีกจากงานที่คุณทำอยู่ ?
       ความงามเป็นเพียงเปลือกกายภายนอก ลึกลงไปถึงแก่นนั้นคือศิลปะ นอกเหนือจากนั้นคือลมหายใจของเพื่อนมนุษย์ร่วมชะตากรรมกับเรา ที่ทุกคนต่างดิ้นรนกันอย่างทุรนทุราย ในสังคมที่ไร้ความหวัง ไร้ความรู้สึก ผมสังเกตได้จากแววตาของพวกเขาเหล่านั้น อย่างเห็นได้ชัด
       
       - นู้ดในความคิดของคุณ ?
       คือความเปลือยเปล่าของรูปกายและกรีดลึกลงไปถึงแก่นใจ เห็นแล้วต้องสะท้านสะเทือนตั้งแต่แรกสัมผัส จากเส้นผมจดเล็บตีน จนถึงแววตาอันหวาดหวั่น
       
       - เส้นแบ่งระหว่างศิลปะและอนาจารดูอย่างไร เพราะแน่นอนว่าต้องมีคนจำนวนหนึ่งที่แยกไม่ออก ช่วยบอกให้พวกเขาคลายข้องใจหน่อย ?
       ผมว่าดูไม่ยากนักหรอก ให้ดูที่เจตนาและกำพืดของคนที่รังสรรค์มันขึ้นมา เด็กอมมือก็ดูออกว่า อะไรคือศิลปะ อะไรคือความลามกอนาจาร ไม่ต้องหยิบยกเอามาเป็นประเด็นให้เหล่าผู้อวดรู้ตีกินจนปวดลูกอัณฑะกันนักหรอก ส่วนใครที่แยกแยะศิลปะกับอนาจารไม่ออกก็คงเป็นกรรมของเขา สมควรปล่อยให้พวกเขาจมปลักอยู่กับคลิปวิดีโอเป็นดีที่สุด (หัวเราะ)
       
       - แล้วความแตกต่างในงานนู้ดของช่างภาพแต่ละคนอยู่ที่ตรงไหน ?
       อยู่ที่สภาพแวดล้อมของเขา อยู่ที่ไอเดียของเขารวมถึงปัจจัยและอิสรภาพในการแสดงออกของเขา
       
       - และอะไรในงานของคุณ ที่คิดว่าทำให้ดูโดดเด่นขึ้นมา ต่างจากของคนอื่น ?
       มันเป็นผลงานที่ผู้คนส่วนใหญ่ในสังคมนี้ไม่ค่อยให้ความสนใจไงล่ะ (หัวเราะ)
       
       - ถ้าหากจะบอกว่าความโป๊เปลือยกับเมืองไทย ดูไม่ค่อยเข้ากันเท่าไหร่คุณคิดอย่างไรกับเรื่องนี้ ?
       สังคมเราเป็นสังคมลับๆ ล่อๆ และชอบล่อกันในที่ลับ จนพัฒนากลายมาเป็นสังคมดัดจริตตอแหลในที่สุด ชอบเอาหลักศีลธรรมมาอ้างเพื่อลบล้างความอุบาทว์ และความสัปดนของตน แต่ลับหลังกลับเต้นแร้งตีลังกาบ้าจี้ จิตใจฝักใฝ่อารยะที่อยู่สูงไม่เกินติ่งสะดือกันแทบทั้งนั้น
       
       - แล้วถ้าเราจะถามความคิดเห็นจากเรื่องเซ็กซ์ของคุณล่ะ คุณจะว่าอย่างไร ?
       เซ็กซ์มันเป็นเรื่องส่วนตัว ของใครของมัน และเป็นเรื่องเดียวที่ผมไม่เคยปฏิเสธกับมันเลย ผมจะปล่อยให้มันเป็นไปตามกรรม
       
       - ถ้าเป็นไปตามหลักวัฒนธรรมบ้านเรา ผู้หญิงไม่ควรถามคำถามนี้ใช่ไหม ? หลักวัฒนธรรมบ้าบอตอแหลน่ะสิ ในสังคมหน้าไหว้หลังหลอกอย่างเช่นสังคมเรา ผู้หญิงมักโดนหลอกเป็นเพศแรกเสมอ เขาจะห้ามไม่ให้ทำไอ้โน่นไม่ให้ถามไอ้นี่ โดยเฉพาะห้ามรู้ความจริงจากเพศชายทุกเรื่องเป็นดีที่สุด
       
       - แล้วคุณคิดว่าอะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้มนุษย์เรามีปฏิกิริยาในการแสดงออกแตกต่างกันไป ?
       สังคม สภาพแวดล้อม อาหารการกินและการรับรู้ที่แตกต่างกันจากสื่อต่างๆ สังคมเราถูกซอยย่อยออกมาให้คนได้สุขสำราญกับการได้บริโภค บางคนชอบเกมโชว์ บางคนชอบละครน้ำเน่าหลังจากดูข่าวอาชญากรรมกระทำชำเราแล้ว หรือบางคนก็ชอบเรียลิตี้โชว์ ที่มีฮีโร่ของเขาถูกชักใยอยู่
       
       - ในฐานะที่เป็นผู้ชาย มองเรื่องความสวยงามของผู้หญิงเป็นอย่างไง ?
       สิ่งที่งดงามกว่าผู้หญิงคือศิลปะ สิ่งที่งดงามกว่าศิลปะคือผู้หญิง
       
       - แล้วคุณคิดอย่างไงกับพวกเฟมินิสต์ ?
       ผมถือว่าเป็นสีสันก่อนถึงวันสิ้นโลก
       
       - ถามจริงๆ คุณเคยมองภาพถ่ายของตนเองแล้วรู้สึกว่าเป็นภาพถ่ายที่ยั่วยุกามารมณ์บ้างไหม ?
       ผมจัดนิทรรศการมาก็บ่อยครั้ง ส่วนที่เหลือผมจะเอาผลงานของผมมาแขวนประดับอยู่ทั่วผนังห้อง ผมเห็นมันทุกวันตั้งแต่โงหัวขึ้น จนกระดกตัวลงนอน ยังไม่เคยเกิดอารมณ์ทางเพศกับมันสักที
       
       - หากคนอื่นมองเป็นแบบนั้นล่ะจะรู้สึกอย่างไร ?
       มันเป็นเรื่องของสภาวะจิตของเขา เป็นกรรมของเขา สังคมเรามันป่วยไข้ เขาก็คือผู้ป่วยคนหนึ่ง ที่จำเป็นต้องถูกบำบัดด้วยน้ำมือของเขาเอง
       
       - ทำงานมาตั้งนาน ผ่านเพื่อนร่วมชะตากรรมมาก็เยอะ แล้วคุณรู้สึกเบื่อหน่ายกับสังคมตรงนี้บ้างหรือยัง ?
       เบื่อกับตัวเองมากกว่าที่ลืมตาขึ้นมาก็ต้องเห็นฝ้าเพดานเดิมๆ แล้วลุกเข้าไปฉี่ยังโถส้วมโถเดิม แปรงฟันที่อ่างล้างหน้าอันเดิม แล้วก็มานั่งอยู่หน้าคอมพ์ เช็กเมลสักพักสูบบุหรี่สักสองสามมวนแล้วก็ลุกไปขบเม็ดข้าวกิโลละสี่สิบห้าบาทด้วยสายตาอันเหม่อลอย อย่างไม่ได้คาดหวังอะไรกับสังคมนี้แล้ว หลังจากนั้นก็ไปเปิด astv ฟังข่าวคราวของนักการเมืองบ้าจี้ จนปวดขี้ขึ้นมาอย่างฉับพลัน
       
       - ทุกวันนี้เอาไฟในการทำงาน และพลังความคิดสร้างสรรค์มาจากไหน ?
       เรียกร้องตัวเอง บางวันก็มีไฟลุกท่วมตัวเลย บางวันก็มีมอดสนิทเหมือนกันจุดอย่างไงก็ไม่ติดเพราะมันก็มีตันเหมือนกันนั่นแหละ ไม่แน่นอนนักหรอก
       
       - เล่าเรื่องเว็บไซต์วิสามัญดอทคอม (www.wisamun.com) ให้ฟังหน่อยว่าเป็นมาอย่างไร ?
       ผมเพิ่งใช้คอมพ์เป็นเมื่อไม่นานมานี้ หลังจากที่ไม่มีลูกน้องให้ใช้งานแล้ว และมารู้สึกว่าตัวเองเก่งขึ้นก็ตอนที่แบกคอมพ์ไปซ่อมเอง ยิ่งโดนช่างฟันมากเท่าไร มันก็ทำให้เราเหนียวขึ้นมากเท่านั้น และบีบให้เราต้องเรียนรู้ไปเอง จนผมเพิ่งมารู้ว่ามีพื้นที่บนเว็บไซต์ ที่สามารถให้เราไปตีลังกาเล่นได้ อาณาเขตของมันกว้างใหญ่ไพศาลกว่าเขายายเที่ยงแยะ ไม่ต้องไปดูแลและเป็นทุกข์กับมันมาก เพราะความไม่พอเพียงของกิเลส เรามีหน้าที่สร้างสรรค์ผลงานแล้วก็คอยอัปโหลดก็เท่านั้น
       
       - เนื้อหาและจุดประสงค์ในเว็บไซต์ ?
       ผมมีไฟล์ภาพถ่ายเก็บไว้อยู่หลายเข่ง ไม่รู้จะเอาไประบายที่ไหน จัดนิทรรศการก็ต้องเสียค่าใช้จ่ายเป็นจำนวนมาก ต้องบากหน้าไปหาสปอนเซอร์ จนเขาบ่ายหน้าหนี เพราะเขาก็บ่นว่าเศรษฐกิจ ณ ขณะนี้มันย่อยยับอับปางแล้ว ผมก็เลยต้องเอาผลงานของตนทยอยขึ้นเว็บไซต์ งานส่วนใหญ่เป็นงานนู้ดและงานบันทึกจากข้างถนนที่ผมได้เผชิญพบในแต่ละวัน ทำไปเพื่อสนองตอบกิเลสอันพอเพียงของตนล้วนๆ
       
       - มีรายได้จากตรงนี้บ้างไหม ?
       มีแต่รายจ่ายเสียมากกว่า เพราะแค่คิดมันก็มีต้นทุนแล้ว โดยเฉพาะต้นทุนก็คือเวลาของเรานั่นแหละ ผมแทบจะหยุดงานรับจ้างวาดรูป รับจ้างถ่ายรูปที่เป็นงานหลักในการเลี้ยงชีพของผมไปเลย
       
       - เห็นในเว็บไซต์ วิสามัญดอทคอมพ์มีคอร์ส สอนถ่ายภาพนู้ดด้วย อยากทราบถึงสาเหตุที่เปิดคอร์ส สอนอบรมนี้ ?
       เป็นงานทดลองซึ่งเคยคิดมาก่อนหน้านี้แล้ว เมื่อสองปีก่อน แต่พอเอาเข้าจริงๆก็ไม่สำเร็จสักที จนได้มาคุยกับคุณตั๋นเจ้าของ Hof Art Gallery อย่างเป็นเรื่องเป็นราวโครงการ wisamun workshop จึงได้เริ่มนับหนึ่งเมื่อเดือนธันวาคม ปีที่แล้ว จนเดินทางมาถึงครั้งที่ 7 วันที่ 29 มิถุนายนนี้
       
       - คุณมั่นใจแค่ไหนกับสิ่งที่ทำอยู่นี้ ?
       ผมเดินทางมาเรื่อยๆ อย่างไม่รีบร้อน จนมาถึงเวิร์กชอปครั้งที่ 7 แล้ว ผมจึงเห็นทิศทางชัดเจนขึ้นว่าจะปูทางอย่างไรต่อไป วิชาความรู้ทั้งหมดบนผิวโลกนี้เกิดจากการศึกษา-สั่งสมทดลองซ้ำแล้วซ้ำอีก หกคะเมนตีลังกา ถือว่าเป็นก้าวแรกของการตั้งไข่ หากจะเดินทางไกลสองตีนต้องแข็งแรงและใจก็ต้องแกร่งพอ อย่าท้อ หากบางอย่างไม่ได้ดั่งใจเพราะเราไม่ใช่คนโชคดีกันนักหรอกที่เกิดมามีแต่ทาสฯคอยประเคนให้ ขอให้มั่นใจโดยเฉพาะใจตนที่ทุกๆคนต่างเป็นเจ้าของหากต้องร่วมทางไปด้วยกัน
       
       - จริงจังกันงานสอนตรงนี้มากไหม ?
       ตอนแรกก็เอาสนุกและเอามันส์เข้าว่า ตามสไตล์ส่วนตัวของผม แต่ทำไปทำมาลูกศิษย์ที่มาเรียนกลับเอาจริงกันทั้งนั้นเลยนี่หว่า เราก็เลยต้องตั้งหลักใหม่ เพราะลูกศิษย์หลายคนที่มาเรียนต่างมาเรียนซ้ำแล้วซ้ำอีกจนผมต้องกลับไปทำการบ้าน พลิกตำราไปแทบไม่ทันเลย
       
       - คิดว่าลูกศิษย์จะได้อะไรบ้างจาก workshop ที่คุณคิดขึ้นมา ?
       อยู่ที่ตัวของเขานะ เพราะที่มาที่ไปแต่ละคนล้วนต่างกัน อย่างน้อยเขาคงได้ประสบการณ์ใหม่ๆ ที่เขาไม่เคยได้เรียนรู้กับงานถ่ายภาพแนวนี้มาก่อน
       
       - จะสอนไปอีกนานแค่ไหน ?
       สอนไปเรื่อยๆ เบื่อเมื่อไหร่ก็เลิกเมื่อนั้น
       
       - หลายคนเขาคงอิจฉาคุณ ที่มีนางแบบรูปร่างดีๆ มาให้ถ่ายรูปเป็นว่าเล่น พอบอกเคล็ดลับได้ไหมว่า คุณไปเดินหานางแบบ มาจากไหนหรือ ?
       เดินไปในอากาศ วาดรูปฝากไว้กับก้อนเมฆ สุดท้ายฟ้าฝนก็เป็นใจ (หัวเราะ)
       
       - ทุกวันนี้คุณใช้กล้องอะไรถ่ายภาพ (คำถามนี้ดูเชยๆ แต่แฟนๆ วิสามัญเมืองหลายคนคงอยากทราบ) ?
       มีทั้ง SLR และ Compact แต่ผมชอบใช้ Compact นะ เพราะมันใช้ง่าย น้ำหนักเบา ถ่ายอย่างไงก็ ติดและชัดดีด้วย ผมไม่ค่อยสนใจเรื่องมิติของกล้องมากนักหรอก ผมจะให้ความสำคัญกับสิ่งที่ผมจะถ่ายมันมากกว่า นั่นแหละคือมิติพิศวงอย่างแท้จริง
       
       - เคยคิดอยากเก็บอย่างอื่นมาเป็นภาพไหม เช่นเวลา อารมณ์ ความรู้สึก ?
       เมื่อสิบกว่าปีก่อนผมเก็บสะสมไว้เยอะมาก จนหนักกบาล และเวลาจะเอามันออกมาดูหรือปรุงแต่งต้องใช้แอลกอฮอล์เป็นตัวช่วย รู้สึกว่ามันเป็นบรรยากาศซ้ำๆ ซากๆ เลยเลิกเก็บมันไปนานแล้ว ทุกวันนี้ภาพเหล่านั้น คงเป็นเพียงแค่ภาพเลือนรางและจางหายไปในที่สุด
       
       - นอกจากถ่ายรูป วาดรูป และเขียนหนังสือ แล้วอยากทำอะไรอีกไหม ?
       อยากไปดูดกัญชาและฟังโอเปรา บนก้อนเมฆก่อนอัสดงลงดิน แต่ถ่ายรูป วาดรูป กับเขียนหนังสือยังไปไม่ถึงไหนเลย (หัวเราะ)
       
       - รู้สึกว่าตัวเองแปลกแยก หรือแตกต่างจากคนอื่นไหม ?
       รู้ทุกครั้งตอนเวลาตัวเองสะดุ้งตื่น (หัวเราะ)
       
       - จากประสบการณ์การทำงานที่ผ่านมาคุณไม่ชอบอะไรในมนุษย์ที่สุด ?
       ความตะกละ ที่กลั่นออกมาเป็นอุจจาระกองโตอันสูงใหญ่กว่าภูผาพระวิหาร
       
       - เวลานี้คุณคิดว่าอะไรในโลกเวลานี้ที่ควรจะโป๊ และเปลือย มากที่สุด ?
       ชนชั้นปกครองทั้งหมดบนโลกนี้
       
       - และอะไรในโลกเวลานี้ที่ บัดสี ลามก และอนาจาร มากที่สุด ?
       ผู้นำกำมะลอทั้งหลายทั้งปวงบนพื้นพิภพนี้
       
       - คิดว่าคำว่า ‘วิสามัญเมือง’ มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเมืองบ้างไหม แค่ไหน อย่างไร ?
       การเมืองเป็นเรื่องอัปลักษณ์ ไม่เกี่ยวพันกันอย่างแน่นอน (หัวเราะ-กร๊ากกกก์)
       
       - คำถามสุดท้าย ถ้าให้แลกชีวิตได้ อยากแลกกับใคร เพื่ออะไร ?
       แลกกับมิสเตอร์อาดัม อย่างแน่นอน เพราะอยากวาดรูปนู้ดผู้หญิงคนแรกของโลกที่มีนามว่าอี
       


* 551000008016801.jpg (11.14 KB, 400x434 - ดู 1053 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า

ยังจำได้ดี  และคิดถึง..อยู่ทุกวัน...
นายซาไกทัดดอกฝิ่น
สมาชิกตลอดชาติ
นักโพสต์มือวางอันดับ 1
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2148


ข้า..แผ่นดินไทย


อีเมล์
Re: น่าสนใจดี คัดลอกฝากคน ชอบนู๊ดครับ
« ตอบ #1 เมื่อ: มิถุนายน 24, 2008, 08:52:48 AM »

ความจริงเกี่ยวกับวิสามัญเมือง สิทธิเขตต์
       ข้าพเจ้าเป็นช่างภาพและจิตรกรคนหนึ่ง
       เกิดมาเมื่อไม่นานมานี้ถ้าเปรียบเทียบกับต้นตาลต้นหนึ่ง
       ข้าพเจ้าลืมตาอ้าปากเห็นหมอทำคลอดเป็นคนแรก
       ยังแถบซีกโลกหนึ่งในอาณาเขตของเอเชีย
       ครอบครัวของข้าพเจ้าสมานฉันท์และสันติ
       โดยยึดหลักเหตุผลที่มิอิงแอบกับกระแสสังคมดัดจริตนี้เป็นที่ตั้ง
       ข้าพเจ้าเป็นบุตรคนสุดท้ายหรือน้องคนสุดท้อง
       โดยมีพี่พี่คลานนำไปก่อน.. พวกเขาจึงได้ผจญกับความทุกข์ก่อน
       ข้าพเจ้ามีบุพการีที่ยิ่งใหญ่
       ที่ข้าฯมิอาจบรรยายในเนื้อความหน้ากระดาษดิจิตอลแผ่นนี้
       ข้าพเจ้าได้รับการศึกษาจากพ่อ แม่ ครูอาจารย์
       และพี่พี่ที่หล่อหลอมประสบการณ์นานา-มามอบให้
       ข้าพเจ้าได้เรียนรู้ศิลปะจากโลก-สิ่งแวดล้อม
       และลมหายใจของผู้คนร่วมทุกข์บนโลกสมมติแห่งนี้
       ข้าพเจ้าได้สัมผัสกับความงามและความอัปลักษณ์
       อันเป็นเสมือนเงาที่ฉาบติดจิตวิญญาณของมนุษย์ยังโลกนี้มาตั้งแต่เกิด
       ข้าพเจ้าเริ่มถ่ายรูปอย่างจริงจังเมื่อห้าปีที่ผ่านมา
       หลังจากวาดรูปมาอย่างหนักตลอดครึ่งทางของชีวิต
       ผลงานข้าพเจ้าจึงเป็นการบอกเล่าถึงเรื่องราว
       ของลมหายใจอันระริกระรี้ของมนุษย์ที่ยังคงดิ้นรนอยู่จริงบนกระพี้โลก
       ไม่ว่าพวกเขาจะอยู่ในสถานภาพใด เปลือยเปล่าหรือเคว้งคว้างจนจิตลอย-หลอน
       มันคือหน้าที่ที่ข้าพเจ้าจะต้องบันทึกเรื่องราวอันเป็นหมายเหตุ.. ที่ทำให้ข้าพเจ้าอยากมีชีวิตอยู่ต่อ 
       วิสามัญเมือง สิทธิเขตต์
  ที่มา  ผู้ จั ด ก า ร ป ริ ท ร ร ศ น์ http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9510000073917


* 551000008016814.jpg (107.75 KB, 250x373 - ดู 1200 ครั้ง.)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 24, 2008, 08:55:29 AM โดย นายซาไกทัดดอกฝิ่น » บันทึกการเข้า

ยังจำได้ดี  และคิดถึง..อยู่ทุกวัน...
หน้า: [1] ขึ้นบน พิมพ์ 
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  


เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.2 | SMF © 2006-2007, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF
 
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.02 วินาที กับ 19 คำสั่ง