แม่เหล็กโลกกลับขั้วทำไทยหิมะตกใน 7 ปี
ไม่ทราบว่าได้แรงบันดาลใจจากภาพยนตร์เรื่อง Absolute Zero ในชื่อไทยว่า "มหาวิบัติวันสิ้นโลก" หรือไม่ แต่ก็สร้างความตื่นตะลึงไม่น้อยกับข้อมูลเตือนภัยพิบัติของ ศ.นพ.เทพนม เมืองแมนที่อ้างว่าได้รับมาจากมนุษย์ต่างดาวอีก โดยระบุว่าภายในปี 2557 นี้โลกจะเผชิญกับการเปลี่ยนขั้วแม่เหล็กโลกแบบกลับเหนือ-ใต้ ซึ่งจะทำให้เกิดพายุหมุน แผ่นดินไหว อุณหภูมิโลกเปลี่ยนและไทยยังต้องเผชิญกับหิมะตก โดยโลกเผชิญภาวะแม่เหล็กเปลี่ยนขั้วมาแล้ว 8 ครั้ง
แม้ว่า "เดวิด คอช" (David Koch) ตัวละครเอกของเรื่องอาจไม่เร้าใจสาวๆ หลายคนแต่ภาพยนตร์ข้างต้นก็ได้นำเสนอภาพโกลาหลที่อาจจะเกิดหากขั้วแม่เหล็กโลกกลับทิศ ภายใน 4 ชั่วโมงกว่าของการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันได้นำพาโลกที่อยู่ในละติจูดต่ำกว่า 30 เหนือและใต้จมสู่ความมืดมิดและหนาวเย็นถึง -273 องศาเซลเซียสหรือเท่ากับ 0 เคลวินซึ่งนักวิทยาศาสตร์เรียกอุณหภูมิดังกล่าวว่า "ศูนย์องศาสัมบูรณ์" (absolute zero) ขณะที่แถบขั้วโลกเหนือและขั้วโลกใต้มีสภาพอากาศเช่นเดียวกับเขตร้อน จินตนาการดังกล่าวจะเป็นจริงในอีก 7 ปีหรือไม่? วิทยาศาสตร์คงมีคำตอบในเรื่องนี้
เผยข้อมูลขั้วแม่เหล็กโลกกลับทิศมากว่า 400 ครั้งในช่วง 330 ล้านปี โดยครั้งสุดท้ายเกิดขึ้นเมื่อ 780,000 ปีที่ผ่านมา และพบการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งด้วยความเร็ว 40 กิโลเมตรต่อปี หากคงไว้ที่อัตราดังกล่าวขั้วแม่เหล็กโลกจะอยู่ที่ไซบีเรียอีก 50 ปี ด้านผู้เชี่ยวชาญกรมทรัพยากรธรณีไทยเผยปรากฏการณ์ดังกล่าวไม่ทำมนุษย์สูญพันธุ์
เมื่อปี 2374 นักวิทยาศาสตร์ของแคนาดาได้เดินเรือสำรวจขั้วแม่เหล็กเหนือ (North Magenetic Pole) ของโลกเป็นครั้งแรกและคาดว่ามีตำแหน่งอยู่บริเวณชายฝั่งตะวันตกของคาบสมุทรบูเธีย (Boothia Peninsula) ซึ่งอยู่ตอนเหนือสุดของแคนาดา จากนั้นก็มีการสำรวจตำแหน่งของขั้วแม่เหล็กเหนือมาเรื่อยๆ และพบตำแหน่งที่ต่างกัน โดยระหว่างศตวรรษที่ 20 นี้ขั้วแม่เหล็กเหนือได้เปลี่ยนตำแหน่งไปราว 1,100 กิโลเมตรแล้ว ปัจจุบันพบว่าความเร็วของการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งขั้วแม่เหล็กโลกได้เพิ่มขึ้นเป็น 41 กิโลเมตรต่อปี หากการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งเกิดขึ้นด้วยความเร็วเท่าเดิมในทิศทางเดิมขั้วแม่เหล็กเหนือจะไปอยู่บริเวณไซบีเรียในอีก 50 ปีข้างหน้า
อีก 5 ปี ภัยพิบัติเกิดขึ้นทั่วโลก
ผมไปพูดเรื่องมนุษย์ต่างดาว จานบิน ที่ไหนๆ หลายคนมองว่าผมบ้า ผมก็ไม่โกรธเขานะที่เขาคิดไม่เหมือนผม ผมเชื่อของผมอย่างนี้ และผมก็ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน ที่สำคัญประเทศมหาอำนาจของโลกทั้งอเมริกา รัสเซีย จีน เขาสนใจเรื่องนี้ทั้งนั้น น้ำเสียงสุขุมนุ่มนวล ที่หลุดจากปากชายวัย 72 ปี อย่างศาสตราจารย์ ดร.เทพพนม เมืองแมน ทำให้ได้รับทราบถึง ความเชื่อ ส่วนตัวที่เขามีมาต่อเนื่องนานนับ 30 ปีเกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาวและจานบิน แม้วันนี้จะยังไม่มีใครสามารถพิสูจน์ได้ว่าเรื่องมนุษย์ต่างดาวนั้นมีจริงหรือไม่
หลังจากที่ศึกษาด้านวิทยาศาสตร์และลองนั่งสมาธิ ทำกรรมฐานจนสามารถติดต่อกับมนุษย์ต่างดาวได้แล้วทำให้ ศ.นพ.เทพพนม สามารถถ่ายรูปมนุษย์ต่างดาว ยานอวกาศได้ด้วยตัวเองนับร้อยๆ ภาพ เขาบอกว่าภาพถ่ายนี่คือหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ คนที่สงสัยว่าผมทำภาพเองก็สามารถนำไปตรวจได้ว่านั่นคือภาพถ่ายที่ถ่ายมนุษย์ต่างดาวจริงๆ
ใครไม่เชื่อผมก็ไม่ว่านะ เพราะผมรู้ตัวเองว่าผมทำอะไร ภาพถ่ายที่ผมถ่ายได้ก็เป็นภาพจริงๆ เอาไปตรวจได้เลย ผมไม่มีความจำเป็นที่จะโกหกใครๆ เพราะสถานะทางสังคม การเงินหน้าที่การงานมั่นคง ชื่อเสียงของผมก็มี ไม่จำเป็นต้องไปหลอกใคร
การติดต่อกับมนุษย์ต่างดาว ศ.นพ.เทพพนม บอกว่า จะต้องติดต่อผ่านการทำสมาธิเพียงอย่างเดียวเท่านั้นเนื่องจากจะสามารถผ่าน ภพภูมิ ต่างๆไปได้ด้วยจิตที่ละเอียดเพียงพอนั่นหมายถึงการนั่งสมาธิจน ถอดจิต ออกจากร่างได้นั่นเอง
สำหรับคนที่สนใจสามารถศึกษาด้วยตัวเองได้ในพระไตรปิฎกที่เขียนเรื่องภพภูมิไว้อย่างชัดเจน โดยศาสนาพุทธนิกายหินยานบอกว่าในจักวาลนี้มีภพภูมิอยู่ถึง 31 ภพภูมิ ขณะที่ฝ่ายมหายานบอกว่ามีภพภูมิ 32 ภพภูมิ รวมภพ อันตรภูมิ ซึ่งเป็นภพภูมิที่วิญญาณต้องรอกรรมการตัดสินว่าจะไปสวรรค์หรือนรกรวมเข้าไปด้วย ในขณะที่มนุษย์ต่างดาวที่เขาบอกว่าเขามีความเจริญกว่าเรานั้นบอกว่าในจักรวาลมีตั้งร้อยกว่าภพภูมิและยังบอกว่า การเวียนว่ายตายเกิดนั้นเป็นเรื่องจริง
เรื่องภพภูมินี้เราสามารถอธิบายอย่างเป็นวิทยาศาสตร์ได้เพราะผมเคยได้ศึกษาวิจัยร่วมกับ ศ.ดร.เอียนส์ ซิเวนเซนต์ จากดุกส์ ยูนิเวอร์ซิตี สหรัฐเอมริกา เรื่องการระลึกชาติโดยศึกษาจากคนไทยที่สามารถระลึกชาติได้ 300 คน ศึกษาจากคนทั่วโลกรวมทั้งสิ้น 3,000 คน ปรากฏว่าเด็กที่ระลึกชาติได้นั้นมีอยู่ทั่วทุกทวีป แต่ละคนที่เข้าร่วมโครงการสามารถระลึกชาติได้จริงๆ ยิ่งทำให้ผมมั่นใจว่ามนุษย์เรานี้มีการเวียนว่ายตายเกิด มีภพมีภูมิที่แตกต่างกันจริงๆ
ศ.นพ.เทพพนม บอกว่า การที่มนุษย์ต่างดาวเลือกที่จะติดต่อกับเขานั้นเป็นเพราะในภพภูมิหนึ่งเคยได้เป็นส่วนหนึ่งของเขา ทำให้เขาสามารถสื่อกับมนุษย์ต่างดาวได้และเขาเชื่อว่าเขาถูกส่งมาเพื่อยกจิตวิญญาณของมนุษย์ให้ดีขึ้น แต่มาถึงวันนี้ยังไม่สามารถทำตามวัตถุประสงค์ได้ ซึ่งมนุษย์ต่างดาวบอกว่าเพราะมนุษย์นั้นเป็นสิ่งชั่วร้ายและก็มาถึงยุคสุดท้ายที่มนุษย์จะถูกทำลายล้าง
ผมไม่รู้นะว่าจะมีคนเชื่อผมแค่ไหน แต่เท่าที่ผมได้ติดต่อกับมนุษย์ต่างดาวเขาบอกว่าภายใน 5 ปีนับจากนี้ มนุษย์จะเผชิญกับภัยพิบัติมากมาย ที่เขาบอกผมมันไปตรงกับภาวะโลกร้อนเข้าพอดี ซึ่งสหรัฐฯ ได้ทำการวิจัยแล้วว่าโลกมนุษย์กำลังเผชิญกับช่วงแม่เหล็กเปลี่ยนขั้ว โดยทุกๆ 26,000 ปีแม่เหล็กโลกจะเปลี่ยนขั้วแบบเหนือเป็นใต้ใต้เป็นเหนือเลยซึ่งเรื่องนี้คนที่ทำคือมนุษย์ กรอปกับจุดดับในดวงอาทิตย์ที่เพิ่มมากขึ้นทำให้โอกาสที่จะเกิดภัยพิบัติต่อโลกภายในปี คศ.2012 มากมาย
สำหรับการศึกษาเรื่องแม่เหล็กเปลี่ยนขั้นนี้ สหรัฐฯ เป็นผู้ดำเนินการเขาทำการศึกษามาแล้วว่าโลกมนุษย์เราเกิดแม่เหล็กเปลี่ยนขั้วมาแล้ว 8 ครั้งแต่ละครั้งจะทำให้เกิดพายุหมุน แผ่นดินไหว อุณหภูมิเปลี่ยน ประเทศที่ร้อนอย่างประเทศไทยก็อาจจะมีหิมะตก
รวบรวมจาก : ผู้จัดการรายสัปดาห์