***** บันทึก Poonhill Trek ปลายมีนา – ต้นเมษา 2553 (ตอน 1) *****

[Trekkathon]

หลังจากที่บินลัดฟ้าจากประเทศไทยสู่เนปาล  เพื่อระบายความร้อนระอุจากอุณหภูมิของอากาศเกือบ 40 องศากลางฤดูร้อน  เพื่อให้ห่างไกลจากอุณหภูมิการเมืองที่เฉียดจุดเดือดเข้ามาทุกที   และเพื่อหาความสบายทางกายและใจให้ชีวิต   จึงต้องบรรเทาความดับเบิ้ลร้อนทั้งสองสภาวะการณ์ด้วยการเดินทางไกลไปตามฝัน

จุดหมายของการเดินทางครั้งนี้  เน้นการไปเดินเท้าบนเส้นทาง Poonhill Trek พอย่างเท้าก้าวสู่กรุง Kathmandu  พวกเราทั้ง 7 จึงไม่รอช้าเดินทางกันต่อไปยังเมือง Naya Pul อันเป็นเมืองที่เป็นจุดเริ่มต้นสู่จุดหมายทันทีในเช้าวันรุ่งขึ้น

จาก Kathmandu ถึง Pokhara เวลาหมดไปราว 6 ชั่วโมง   เราต้องพักค้างที่นี่ก่อนเพื่อเดินทางต่อในตอนเช้า  แต่บ่ายวันนี้พอมีเวลาเหลือให้ให้เดินเลือกซื้อสิ่งของจำเป็นของที่จะใช้ระหว่างเดินทางสู่ยอดเขา Poonhill และใกล้ๆ ที่พักก็มีทะเลสาป Fewa ให้ชมความงาม  และหากใครอยากลงไปพายเรือก็มีเรือลำน้อยสีสวยๆ ให้พายเล่นอีกด้วย

[Trekkathon]

ที่ Pokhara มีร้านค้าอยู่เรียงรายให้เลือกซื้อสินค้ามากมาย  ต่อรองราคากันได้ตามใจปรารถนา  ขายได้เขาก็ขายให้แต่ยังไงก็ต่อกันให้สุดๆ ไว้ก่อน  แล้วก็ตรวจดูคุณภาพกันให้ดีด้วยก่อนออกจากร้าน  ร้านค้าในเนปาลจะเปิดขายไม่ดึกนักสักสี่ทุ่มก็ปิดร้านกันแล้ว

[Trekkathon]

เช้าวันต่อมาเราต้องนั่งรถจาก Pokhara ไปยัง Naya Pul ห่างกันราวชั่วโมงเศษๆ  ก้าวแรกของการเดินเท้าสู่ Poonhill เริ่มต้นที่นี่

[Trekkathon]

ลูกหาบ 2 คนจัดการสัมภาระของเราทั้ง 7 คนที่อัดแน่นในเป้  4 ใบมาตั้งแต่ออกมาจาก Pokhara แล้ว  เขาแบ่งกันคนละ 2 ใบมัดติดกันด้วยเชือก  แล้วเดินนำพวกเราทันที  ประมาณ 8โมงกว่าๆ  พอเดินไปได้ไม่ถึงชั่วโมงก็ต้องผ่านการตรวจใบ ACAP กับ TIMS ซึ่งจะอยู่ห่างกันไม่มากนัก  ลูกหาบจะเป็นคนเข้าไปติดต่อลงทะเบียนให้

[Trekkathon]

พวกเรา  จากนั้นก็เดินผ่านหมู่บ้านเล็กๆ ลัดเลาะไปตามเนินเขา ธารน้ำ ทุ่งนา เดินกันสบายๆ  เรี่ยวแรงยังเต็มเปี่ยมด้วยหลายคนฟิตซ้อมก่อนมาหลายเดือน  พอได้เวลาอาหารกลางวันจึงแวะกันที่หมู่บ้าน Hille  นับจากนี้ไปอาหารหลักของพวกเราจะเป็นข้าวผัด  หมี่ผัด  น้ำท่าก็มีให้ดับกระหายได้ตลอดทาง 

[Trekkathon]

.

[Trekkathon]

เกือบบ่ายสามโมงเราก็มาถึงหมู่บ้าน Tikhedhunga ซึ่งตอนแรกคิดไว้ว่าจะพักค้างกันที่นี่  แต่เราเห็นว่ายังพอมีเวลาที่จะเดินต่อไปถึงอีกหมู่บ้านหนึ่งได้  จึงตัดสินใจเดินต่อ  เพื่อย่นระยะทางของวันพรุ่งนี้ให้สั้นลง

[Trekkathon]

แต่พอพ้นหมู่บ้านนี้ไปมันก็ใช่จะสบายๆ อีกต่อไปแล้ว  ทางเริ่มชันขึ้นเรื่อยๆ ต้องผ่านบันไดที่ว่ากันว่ามีกว่าสามพันขั้นอีกด้วย  ทำเอาเราเริ่มแตกกลุ่มไปตามกำลังขา 

[Trekkathon]

.

[Trekkathon]

.

[Trekkathon]

ในที่สุดราวบ่าย 5 โมง  พวกเราก็ผ่านกันมาได้แบบหมดเรี่ยวแรง  ณ หมู่บ้าน Ulleri พักค้างกันที่นี่  กลางคืนไม่หนาวจัด  กำลังเย็นสบายๆ

[Trekkathon]

ลูกหาบจะแบกของให้นักท่องเที่ยวตลอดตั้งแต่เริ่มวันแรกจนวันสุดท้าย  นอกจากจะแบกเป้ทั้งใหญ่และหนักให้เราแล้ว ก็ไม่ได้รีบเดิน แม้เราจะเดินช้ามากๆ  เขายังคอยดูแลไม่ให้พลัดหลง  ช่วยหาที่พัก สั่งอาหาร  ขาดอะไรก็เรียกลูกหาบ  เมื่อสิ้นสุดการเดินทางก็ทิปให้เขาบ้างเป็นน้ำใจ เขา   แม้ เขาจะได้ค่าแรงจากเราไปแล้วก็ตาม  เงินเล็กๆ น้อยๆ ในมือเรา ค่ามันต่างกันเมื่ออยู่ในมือเขา  เขาไม่มีทางเลือกอื่นที่สบายกว่านี้  สิ่งของที่ไม่จำเป็นก็ไม่ควรนำขึ้นไป  หนักเปล่าโดยไม่มีประโยชน์อะไรเลย

[Trekkathon]

I will be there

[Trekkathon]

7-11

[Trekkathon]

เช้าวันที่สองของการเดินเท้า  วันนี้เราไม่ต้องเร่งฝีเท้ามากนัก  ก็เมื่อวานเราเดินกันตีกินระยะทางมาพอควร  เป็นการตัดสินใจถูกต้องที่เราเดินผ่านความสูงชันในวันแรกมาก่อนแล้ว  และวันนี้ตลอดเส้นทางเราเริ่มเห็นป่ารอบตัวเปลี่ยนเป็นป่าโบราณของต้นกุหลาบพันปีที่กำลังอยู่ในฤดูกาลที่เบ่งบาน  สีแดงอมชมพูที่ตัดกับสีเขียวของป่างดงามจับตา  ไม่มีเสียงบ่นเหนื่อยบ่นเมื่อยให้ได้ยินเหมือนเมื่อวาน  แต่ที่เดินๆ หยุดๆ  เดินเรื่อยอย่างได้อารมณ์สุนทรีย์กับกุหลาบพันปี   อีกทั้งความสูงชันก็ลดน้อยลงไป  ทำให้เรามีเวลาลัลล้าชื่นชมกับธรรมชาติไปตลอดทาง