TRIP & TREK โลกกว้างของคนเดินทาง

กระดานข่าวสีเขียว => ผีเสื้อ และ ดอกไม้ => ข้อความที่เริ่มโดย: นายซาไกทัดดอกฝิ่น ที่ กันยายน 13, 2009, 07:56:11 PM



หัวข้อ: คู่ป่า..งาม
เริ่มหัวข้อโดย: นายซาไกทัดดอกฝิ่น ที่ กันยายน 13, 2009, 07:56:11 PM
พบเจ้าเขียวลายพรางนี้หน้าน้ำตกเจ็ดคตเหนือ
ท่าทางสง่างาม  บนโขดหิน  มีเม็ดน้ำตกกระเซ็นเป็นฉากหลัง
 เห็นแล้ว ประทับใจในความงาม...
........  อีกด้านหนึ่งของความรู้สึก
  นึกถึงอีกัวน่าในกรง...กับการพรัดพรากถิ่นเกิด  ข้ามทวีปมา.....


หัวข้อ: Re: คู่ป่า..งาม
เริ่มหัวข้อโดย: นายซาไกทัดดอกฝิ่น ที่ กันยายน 13, 2009, 10:53:44 PM
ได้ชื่อมาแล้วครับ
.......
ตะกอง หรือ ลั้ง หรือ กิ้งก่ายักษ์ (Chinese Water Dragon, Indochinese Water Dragon) เป็นสัตว์เลื้อยคลานประเภทกิ้งก่าที่มีขนาดใหญ่ที่สุดที่พบได้ในประเทศไทย มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Physignathus cocincinus มีรูปร่างทั่วไปคล้ายอีกัวน่าที่พบในอเมริกากลางและอเมริกาใต้ ขนาดเมื่อโตเต็มที่ยาวประมาณ 90-120 เซนติเมตร (ปลายจมูกถึงโคนหาง 35-50 เซนติเมตร และหางยาว 55-70 เซนติเมตร) โดยตัวเมียจะมีขนาดเล็กกว่าตัวผู้ราว 10-30 เซนติเมตร และจะมีหัวป้อมกว่า สีของลำตัวเข้มกว่า หางมีแถบสีดำเป็นปล้อง ๆ สีลำตัวปกติของตะกองจะมีสีเขียวเข้มและสามารถที่จะเปลี่ยนสีของให้เข้มขึ้นหรืออ่อนลงตามสภาพแวดล้อมได้ ในขณะที่เป็นวัยอ่อนบางตัวใต้คางและส่วนหัวจะมีสีม่วงหรือสีฟ้าแลดูสวยงาม และเมื่อโตขึ้นมาตัวผู้ส่วนหัวด้านบนจะโหนกนูนขึ้นเห็นชัดเจน ส่วนตัวผู้เมียจะมีความนูนน้อยกว่า

ตะกอง มีการกระจายพันธุ์ทั่วไปในป่าดิบในตอนใต้ของประเทศจีน, ประเทศลาว, เวียดนาม, กัมพูชา และภาคตะวันออกและอีสานของประเทศไทย ชอบที่จะอาศัยหากินอยู่ในพื้นที่ซึ่งมีแหล่งน้ำที่อุดมสมบูรณ์และมีสภาพป่าที่ค่อนข้างทึบ เช่น บริเวณริมห้วยที่มีน้ำไหล มีพฤติกรรมชอบนอนผึ่งแดดตามคาคบไม้ริมห้วยลำธาร เมื่อตกใจจะวิ่ง 2 ขาได้โดยหุบขาหน้าไว้แนบชิดลำตัว และโดยปกติเมื่อมีภัยจะกระโจนลงน้ำ และสามารถดำน้ำได้เป็นเวลานาน อาหารได้แก่ แมลงชนิดต่าง ๆ, กบ, เขียด, ปลาขนาดเล็ก, สัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนมขนาดเล็ก และผลไม้บางชนิด และยังสามารถดำน้ำจับปลาได้อีกด้วย ในที่สถานที่เลี้ยงพบว่ามีอายุถึง 30 ปี ตะกองจะมีฤดูกาลผสมพันธุ์และวางไข่ในระหว่าง เดือนเมษายนถึงเดือนพฤษภาคม และในหนึ่งครั้งตะกองตัวเมียจะวางไข่ประมาณ 10 ฟอง ตะกองจะวางไข่ บริเวณพื้นดินที่มีลักษณะเป็นดินทรายและจะขุดหลุมลึกลงไปประมาณ 12-17 เซนติเมตร และกว้างประมาณ 12-15 เซนติเมตร

ตะกอง ยังเป็นที่นิยมเลี้ยงเป็นสัตว์เลี้ยงของผู้นิยมเลี้ยงสัตว์เลื้อยคลาน แต่ว่าเมื่อเทียบกับอีกัวน่าแล้ว ตะกองเลี้ยงได้ยากกว่าพอสมควรเนื่องจากกินแมลงเป็นอาหารและยังมีนิสัยที่ดุไม่เชื่องเหมือนอีกัวน่า อีกทั้งยังต้องปรับสภาพของที่เลี้ยงให้มีน้ำและมีความชุ่มชื้นพอสมควร

สถานภาพของตะกองในปัจจุบัน พบน้อยลงมากเนื่องจากถูกจับเป็นสัตว์เลี้ยง จับเพื่อทำเป็นอาหาร และแหล่งที่อยู่อาศัยถูกทำลาย ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พุทธศักราช 2535 ได้จัดให้ตะกองเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง

ที่มาจากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี