หัวข้อ: สิมิลัน วันฟ้าใส (10-13 ม.ค. 2551) เริ่มหัวข้อโดย: Joyful ที่ มกราคม 20, 2008, 01:22:05 PM ครั้งที่สองกับการมาเยือนหมู่เกาะสิมิลัน และ ครั้งแรกสำหรับกองหินริเชลิว ทริปนี้เราค่อนข้างจะนับวันรออยู่ไม่น้อย เพราะว่าการทำงานที่แสนจะวุ่นวายในช่วงนี้ ทำให้อยากทิ้งความรับผิดชอบและงานต่าง ๆ เอาไว้เบื้องหลัง ก็เมื่อได้ลงเรือแล้ว ความยุ่งเหยิงวุ่นวายก็หมดไปตั้งแต่เรือเริ่มวิ่งออกจากท่า และสัญญาณโทรศัพย์ก็รางเลือนไปในที่สุด
สำหรับเพื่อน ๆ ที่ยังไม่มีโอกาสดำน้ำ อาจจะยากที่จะเข้าใจถึงอารมณ์และความรู้สึก ยามที่เราได้อยู่กับตัวเองในห้วงน้ำสีคราม สรรพเสียงต่าง ๆ หายไปเหลือเพียงเสียงหายใจของตัวเอง เรื่องราวที่รบกวนจิตใจล้วนถูกทิ้งไว้บนแผ่นดินใหญ่ รอให้เรากลับไปสะสางอีกครั้งยามเมื่อพลังชีวิตถูกเติมเต็ม * ปะการังก่อนสีสวย และน้ำใส ๆ ที่ริเชลิว หัวข้อ: Re: สิมิลันวันฟ้าใส กับ เรือฟ้าใส (10-13 ม.ค. 2551) เริ่มหัวข้อโดย: Joyful ที่ มกราคม 20, 2008, 10:34:14 PM ทริปนี้เราออกเดินทางจากท่าเรือรัษฏา ภูเก็ต กับเรือฟ้าใสเช่นเคย บรรยากาศเดิม ๆ กับลูกเรือใจดีที่คุ้นเคย และเพื่อนฝูงที่เคยดำน้ำด้วยกันมาบ้างแล้ว รวมไปถึงน้ำใสใจจริงของพี่ขวัญเจ้าของเรือ และพี่มานะกัปตันหนุ่มผู้อ่อนโยน ก็ทำให้เรือฟ้าใสกลายเป็นบ้านที่อบอุ่น ยามเมือรอนแรมไปในท้องทะเลกว้างไกล ทุกคนต่างหลับไหลออมแรงในห้องนอนเย็นฉ่ำไปด้วยแอร์ตัวใหม่ พรุ่งนี้สิมิลันก็จะอ้าแขนสีฟ้าครามโอบกอดนักดำน้ำต่างถิ่นอย่างพวกเราทุกคน
ประตูห้องนอนเปิดออกเผยให้เห็น ผืนทะเลสีครามและท้องฟ้ากระจ่างใสด้วยแสงตะวันฉาย กาแฟร้อน ๆ หอมกรุ่น กับขนมปังปิ้งทาแยม เรียกความสดชื่นให้พวกเรา บังหนาน กะ พี่หนอม Dive leader หนุ่ม เตรียมพร้อมกับแผนผัง Dive site แรกของวัน Garden eel จุดดำน้ำไม่ลึกเกินไป ไม่ยากเกินไปสำหรับเรียกความพร้อมให้นักดำน้ำ จุดดำน้ำแห่งนี้เป็นลานทรายที่ค่อย ๆ ลาดเท มีฝูงปลาไหลสวน หรือ Garden Eel จนเป็นที่มาของจุดดำน้ำนี้ และ มีก้อนปะการังขนาดใหญ่ เต็มไปด้วยกัลปังหา และ ปะการังอ่อน เป็นศูนย์รวมสรรพชีวิต จนได้ชื่อว่า หินม้วนเดียว บ้างว่ากันว่าฟิล์มม้วนเดียวไม่พอสำหรับที่นี่ บ้างก็ว่าดำที่หินก้อนนี้ก้อนเดียวก็เจอครบหมดทุกอย่างแล้ว ไดฟ์แรกผ่านไป ลีดเดอร์เรียนรู้อุปนิสัยการดำน้ำของนักดำน้ำแต่ละคน สังเกตุปัญหาที่จะต้องแก้ไขและจะคอยปรับแก้ให้ในไดฟ์ต่อ ๆ ไป เรียกง่าย ๆ ว่าผ่านทริปนี้ไปก็เป็นนักดำน้ำที่ดีได้ไม่ยากเลย วันนี้แดดจัด น้ำใส ทำให้สิมิลันดูสดใสร่าเริง ระหว่างพักน้ำเรากับบัดดี้อดใจไม่ไหวลงสน็อคเกิ้ลกันท้ายเรือ ไดฟ์ต่อมาเราลงดำที่เรือทูน่าจม ว่ากันว่าที่นี่มี Giant frogfish หรือเจ้าปลากบยักษ์ใหญ่ขนาดเท่ากะลามัง พอลงตามสายทุ่นน้ำทะเลใสทำให้มองเห็นเรือจมได้ทั้งลำ เจ้ากบยักษ์ก็รออยู่แล้วท้ายเรือ เก็บภาพจน dive com ร้องเตือนก็ว่ายไปสมทบกลุ่มพลาดโอกาสที่จะเก็บภาพเรือจมทั้งลำอย่างน่าเสียดาย ไดฟ์ต่อมาที่ East of Eden และ Night dive ที่อ่าวด้านตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะแปด ที่นี่ทำให้เราได้พบแสงสะท้อนจากดวงตาคู่เล็กของกุ้งมดแดง และ กุ้งหินอ่อนหัวจุดเป็นครั้งแรก วันที่สองของการดำน้ำ เรือฟ้าใสพาพวกเรามาที่ยอดหินที่โพล่พ้นน้ำมาสักเมตรเห็นจะได้ กองหินริเชลิวมหานครกลางมหาสมุทร เราไม่เคยลงดำน้ำที่นี่มาก่อนแต่จากชื่อเสียงของริเชลิว เราแทบจะรอไม่ไหวที่จะได้ลงไปสัมผัสโลกใต้ทะเลแห่งนี้ ลีดเดอร์บรรยายสรุปเกี่ยวกับจุดดำน้ำ ย้ำเตือนให้ระวังอันตรายจากความลึกรอบ ๆ กองหิน เมื่อทุกอย่างพร้อมพวกเราแต่งตัวอย่างกระตือรือล้น เสียงแตรบอกความพร้อมให้นักดำน้ำลงสู่ผิวน้ำดังขึ้น พร้อมกับเสียงตูมเมื่อน้ำดำน้ำคนแรกกระโจนลงจากเรือ และอีกหลาย ๆ ตูม ตามมา ลีดเดอร์พาเราไต่ลงตามสายทุ่น ยอดกองหินเผยตัวกลางผืนน้ำสีครามใส ฝูงปลาแหวกว่ายไปมาทำให้ที่นี่ดูคักคักขึ้นมาถนัดตา ปะการังอ่อนต้นอวบอ้วนเกาะอยู่ตามผาหิน ปลาเหยี่ยวเกาะอยู่บนแผ่นหินกลอกตาอย่างระวังระไว ลีดเดอร์ให้สัญญาณเข้าไปดูอะไรบางอย่างใต้โพรงหิน ม้าน้ำสีเหลืองตัวใหญ่ใช้หางเกี่ยวกับก้อนหิน เกาะนิ่งไม่ขยับตัว ในเพิงหินถัดไปไม่ไกลกุ้งตัวตลกคู่หนึ่ง กำลังจัดการกับดาวทะเลสีฟ้าและสีแดงอย่างเพลิดเพลิน พวกเราผลัดกันเข้าไปเก็บภาพพร้อมกับความอิ่มเอมใจ จากนั้นจึงตีขาลัดเลาะไปตามไหล่หิน ก่อนขึ้นทำ safty stop ที่ความลึกห้าเมตร ไดฟ์ที่สองของวันพวกเราลงจากทุ่นอีกลูกทางทิศตะวันตก ด้านนี้เผยตัวรับกระแส ฝูงปลามากมายลอยตัวกินแพลงตอนที่ล่องลอยมา ปลาสากฝูงใหญ่ลอยนิ่งไม่สะทกสะท้าน ฝูงปลากล้วยมากมายว่ายเวียนราวกลับเป็นการแปรขบวนใต้ท้องทะเล ไดฟ์นี้เราพบ Ghost pipefish และม้าน้ำอีกตัว แต่ด้วยระดับความลึกราว ๆ ร่วม ๆ สามสิบเมตรทำให้มีเวลาไม่มากนักในการเก็บภาพ สุดท้ายก็ว่ายตามกระแสขึ้นมาพักน้ำสบายใจ ไดฟ์สามของวัน พวกเราลงไปด้วยจุดมุ่งหมายคือ ปลาสับปะรด หรือ Pineapple fish หรือ Knight fish ปลาที่สร้างความฮือฮาให้กับวงการดำน้ำไทย เพราะว่าถิ่นกำเนิดคือน่านน้ำที่มีอุณหภูมิต่ำ อย่างญี่ปุ่น หรือ ออสเตรเลีย ไดฟ์นี้เจ้าสับปะรดตัวน้อย ลอยตัวนิ่ง ๆ อยู่ในโพรงหิน ตอนนี้มันตัวใหญ่มากกว่าตอนที่คนพบทีแรกเยอะแล้ว ทำให้การถ่ายภาพเป็นไปได้ง่าย แต่ก็มีเวลาไม่นานนักเพราะต้องสลับให้คนอื่น ๆ ได้เข้าไปดูเจ้าสับปะรถสวมเกราะนักรบตัวน้อยนี้ จากลีดเดอร์พาลัดเลาะชมความงามของประการังอ่อนที่อุดมสมบูรณ์ ก่อนขึ้นพักน้ำและอำลาริเชลิว Night dive คืนนี้เราดำกันที่อ่าวทางด้านตะวันออกของเอาตาชัย เจอกุ้งมังกรตัวใหญ่กร้านชีวิต ขนาดวิ่งเข้าชนกล้องนั่นเลยทีเดียว วันที่สามของการดำน้ำมาถึงแล้ว กล้ามเนื้อเริ่มหายเมื่อยล้า ทำให้เริ่มสนุกในการดำน้ำมากขึ้น เช้านี้เราลงที่กองตาชัย จุดดำน้ำที่ได้ชื่อว่าน้ำแรงมาก แต่เช้านี้มีกระแสบ้างไม่มากเกินไป จุดดำน้ำแห่งนี้สวยงามไปด้วยกัลปังหา เพราะมีกระแสน้ำพัดพาเอาอาหารล่องลอยมามากมาย นอกจากนี้ยังมีปลาฝูงกลางน้ำให้ได้ดูกันมากพอควร ต่อมาพวกเราก็เริ่มปฏิบัติการตามหาแมนต้าที่เกาะบอน เกาะที่ได้ชื่อว่าบ้านแมนต้าเลยทีเดียว เมื่อต้นปี 2550 กระแสน้ำเย็นได้นำพาแมนต้ามากมายมาชุมนุมที่นี่ แต่ช่วงนี้ไม่มีใครพบเห็นแมนต้านานแล้ว ความคาดหวังที่จะได้พบแมนต้าจึงน้อยลง พวกเราดำไปเรื่อย ๆ ดูปะการังอ่อนต้นเล็กมากมาย และปลาปักเป้าตัวใหญ่ที่พบเห็นได้ที่นี่เสมอ เมื่อความหวังที่จะได้พบแมนต้าหมดไป พวกเราตัดสินใจมุ่งหน้าสู่เกาะเก้า และลงดำน้ำที่ North point ที่นี่มีชื่อเรื่องปลานโปเลียน และกระแสน้ำด้านหัวเกาะทิศตะวันตก เมื่อพวกเราลงสู่ผืนน้ำใสสามารถมองเห็นได้ไกลหลายสิบเมตร ก็ทำให้ดำน้ำแบบอารมณ์ดี ถึงไม่เจอปลาใหญ่แต่ก็เป็นสุขใจไม่น้อย บ่ายนี้เรือเข้าผูกทุ่นที่อ่าวเกือก ไม่นานเจ้าเต่ารับแขกก็โผล่หน้ามาขอกล้วยหอมกิน และเต่าอีกตัวก็มาสมทบ กล้วยหอมทั้งหมดจึงถูกประเคนให้เจ้าเต่าทั้งสอง พวกเราลงเล่นน้ำกับเต่าสนุกสนาน ก่อนที่จะแต่งตัวขึ้นเก็บภาพบนเกาะแปด หาดทรายขาวละเอียดที่ทำให้ชื่อเสียงของสิมิลันระบือไกล และหินเรือใบตั้งเด่นสัญลักษณ์ของหมู่เกาะแห่งนี้มาช้านาน คืนนี้เราลงดำน้ำกันในอ่าวเกือก ช่วงแรกผ่านไปโดยไร้สิ่งมีชีวิต เพราะบริเวณนี้มีเพียงแต่ซากปะการัง นี่เป็นเครื่องยืนยันได้อย่างดีว่าแนวปะการังคือบ้านของสรรพชีวิตใต้ท้องทะเล อึดใจต่อมา Miss G-girl หมุนไฟฉายเป็นรูปวงกลมเร็วจี๋ เธอมีความร้อนใจอะไรถึงได้รีบเร่งถามว่าเราโอเคไหมแบบด่วนขนาดนั้น สักพักถึงได้เข้าใจว่าเจ้าหล่อนเรียกให้เข้าไปดูอะไรบางอย่าง Robust ghost pipefish โอ้พระเจ้าจอร์จ รู้สึกว่ารักเจ้าหล่อนขึ้นมาถนัดใจ จากนั้นหล่อนยังเรียกไปดูเจ้า Leaffish อีกตัว ซึ่งจิ๋วไปกว่าตัวแรกซะอีก ทำไมวันนี้มันตาดีจังวะ เก็บภาพไปยิ้มไป(ในใจ)ด้วย คืนนี้เกทับใครต่อใครว่าเจอปลาหายากถึงสองตัวทีเดียว วันสุดท้ายเราตื่นแต่เช้าตรู่เพราะว่าเรือฟ้าใสใจดี แถมให้พวกเราได้ดำกันเต็ม ๆ ถึง 4 ไดฟ์ในวันนี้ จากเดิมในแผนมีแค่ 3 ไดฟ์เท่านั้น ทุกคนกระปรี้กระเปร่าลงน้ำที่หินหัวกะโหลก แบบสบาย ๆ ไร้กระแสแถมอีกกลุ่มเจอปลากบตัวขาวสะอาด อิจฉาจังเลย ไดฟ์สองเราลง West of Eden พอลงไปปุ๊บเจ้าเต่าตัวนึงก็ปรี่เข้ามา และดูเหมือนว่ามันอยากจะกินเลนส์ถ่ายภาพของเราซะเต็มประดา จนต้องใช้นิ้วชี้ดันหน้าผากของมันออกไป ก่อนที่มันจะง่วนกับปะการังโดยไม่สนใจว่าใครจะถ่ายภาพมันหรือไม่ ที่นี่มี Red fire goby เต็มไปหมด กัลปังหาก็สวย แล้วปลาโนรีก็ว่ายเป็นกลุ่มโบกพริ้วตามกระแสเหมือนธงทิวเล็ก ๆ อีกกลุ่มเจอ Ribbon eel อีกแล้ว แต่กลุ่มเราไม่เจอแต่ใครจะไปสนใจล่ะ ก็ปลาอื่น ๆ มีให้พบมากมาย สวยจริง ๆ อ้อ.. ไดฟ์นี้น้ำเย็น 23 องศาเชียว มิน่าใคร ๆ ก็บ่นเป็นเสียงเดียวว่าหนาวจับใจ ไดฟ์ต่อมาชื่อ StoneHenge บริเวณแหลมด้านทิศเหนือของเกาะสี่ ที่นี่เราเก็บภาพหมู่เป็นที่ระลึกก่อนจะไหลตามกระแส ผ่านหมู่หินก้อนใหญ่แปลกตา และก็สะดุดกับกลุ่มหินที่เราคิดว่าน่าจะเป็นที่มาของชื่อจุดดำน้ำนี้ จากนั้นก็ลัดเลาะตามร่องหินลึก ๆ จนเกือบจะดูเหมือนหน้าผาทีเดียว น่าเสียดายที่น้ำไม่ใสเท่าไหร่ ไม่งั้นที่นี่ก็จะเป็นจุดดำน้ำที่สวยงามไม่แพ้ที่อื่นทีเดียว อีกอย่างที่นี่มีปลาขี้ตังเบ็ดนานาชนิดมารวมกัน เยอะกว่าจุดดำน้ำอื่น ๆ ซะอีก สุดท้ายพวกเรามาลอยลำอยู่เหนือกำแพงเมืองจีน หรือ Shark fin reef หรือ หินสันฉลาม เกลียวคลื่นจากผิวน้ำบอกให้รู้ว่ากระแสข้างล่างปั่นป่วนไม่น้อย ไหนจะลูกทุ่นที่ถูกพัดไปตามกระแสจนจมลงไปในน้ำเกือบครึ่งลูก ลีดเดอร์เลยติวเข้มเรื่องการลงน้ำอย่างรวดเร็วเพื่อหลบกระแส เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยพวกเราก็ลงสู่ผิวน้ำทางด้านตะวันออกเฉียงเหนือ ผิดคาดด้านนี้ไร้กระแส พวกเราดำไปเรื่อยไม่มีเรื่องตื่นเต้น สุดท้ายลีดเดอร์เรียกพักน้ำเรามัวแต่ก้มหน้าเก็บ Arm จับแฟลช จนถูกพัดห่างจากกลุ่มโชคดีที่ข้างหน้าคือสายทุ่น ก็เลยพยายามตีขาเข้าไปเกาะไว้ก่อน หันไปอีกทีทั้งกลุ่มก็หายไปแล้ว โอ้... พักน้ำคนเดียวที่สายทุ่นกับกระแสน้ำพลังเทอร์โบ ตอนโพล้เพล้ วังเวงใจดีแท้ พอครบเวลาขึ้นสู่ผิวน้ำก็มองเห็นเรือกำลังเก็บเพื่อน ๆ ขึ้นสู่เรืออยู่ไกลลิบ การลอยเท้งเต้งคนเดียวกลางท้องทะเลไม่สนุกเอาซะเลย ตอนนี้ได้แต่ภาวนาให้พวกปลาใหญ่ ๆ อย่าโผล่มาเลยเชียว ไม่งั้นหัวใจวายไปคนเดียวจะโทษใคร .. ฮึ!! หัวข้อ: Re: สิมิลันวันฟ้าใส กับ เรือฟ้าใส (10-13 ม.ค. 2551) เริ่มหัวข้อโดย: Joyful ที่ มกราคม 20, 2008, 10:42:38 PM ตามด้วยปะการังอ่านที่ริเชลิวอีกชุดนะ ชอบมาก ๆ เลย
หัวข้อ: Re: สิมิลันวันฟ้าใส กับ เรือฟ้าใส (10-13 ม.ค. 2551) เริ่มหัวข้อโดย: Joyful ที่ มกราคม 20, 2008, 10:48:02 PM ภาพหมู่ใต้น้ำ และ บังหนานลีดเดอร์หนุ่มคมเข้ม
หัวข้อ: Re: สิมิลันวันฟ้าใส กับ เรือฟ้าใส (10-13 ม.ค. 2551) เริ่มหัวข้อโดย: G-girl ที่ มกราคม 20, 2008, 10:50:28 PM หนาย รูปอะ :o :o
คิดถึงทะเลอีกแย้วอะ คิคิ อยากให้ถึงเดือนหน้าเร็วๆ จัง ดำไม่กลัวอนาคตดับ ;D ;D ;D วันสุดท้ายเจอ Robust ghost pipefish แม่ลูกอ่อนด้วย ;D หัวข้อ: Re: สิมิลันวันฟ้าใส กับ เรือฟ้าใส (10-13 ม.ค. 2551) เริ่มหัวข้อโดย: Joyful ที่ มกราคม 20, 2008, 11:03:12 PM สีสันที่หินม้วนเดียว และ กัลปังหายักษ์มุมมหาชน
หัวข้อ: Re: สิมิลันวันฟ้าใส กับ เรือฟ้าใส (10-13 ม.ค. 2551) เริ่มหัวข้อโดย: Joyful ที่ มกราคม 20, 2008, 11:06:53 PM หินม้วนเดียวอีกแล้ว อยากมีสโตรปที่ไฟแรง ๆ ถ่ายมาจะได้เห็นสีเยอะ ๆ แต่เฮ้อ.. ตังค์มะมีทำใจคับ
หัวข้อ: Re: สิมิลันวันฟ้าใส กับ เรือฟ้าใส (10-13 ม.ค. 2551) เริ่มหัวข้อโดย: Joyful ที่ มกราคม 20, 2008, 11:10:09 PM สีสันริเชลิว
หัวข้อ: Re: สิมิลันวันฟ้าใส กับ เรือฟ้าใส (10-13 ม.ค. 2551) เริ่มหัวข้อโดย: Joyful ที่ มกราคม 20, 2008, 11:17:28 PM อันนี้ก็ริเชลิว ชอบจังเลย
1. ปลาสับปะรด หรือ ปลาอัศวิน (Knight fish) เพราะมีเกล็ดเหมือนเสื้อเกราะอัศวิน 2. ทุ่งปะการังอ่อนสุดลูกหูลูกตา อยากมีแฟลชยักษ์จะได้ถ่ายให้เห้นสีให้หมดเลย 3. ฝูงปลาแปรขบวน หัวข้อ: Re: สิมิลันวันฟ้าใส กับ เรือฟ้าใส (10-13 ม.ค. 2551) เริ่มหัวข้อโดย: Joyful ที่ มกราคม 20, 2008, 11:21:51 PM 1. เจ้าเต่าจอมตะกละที่ West of Eden
2. กินไม่สนใจใครเลย หัวข้อ: Re: สิมิลันวันฟ้าใส กับ เรือฟ้าใส (10-13 ม.ค. 2551) เริ่มหัวข้อโดย: Joyful ที่ มกราคม 20, 2008, 11:24:18 PM หินรูปร่างประหลาดที่ Stonehenge
หัวข้อ: Re: สิมิลันวันฟ้าใส กับ เรือฟ้าใส (10-13 ม.ค. 2551) เริ่มหัวข้อโดย: Joyful ที่ มกราคม 20, 2008, 11:27:38 PM หินหัวกะโหลกบ้างนะ ที่นี่จะเป็นก้อนหินก้อนใหญ่ ๆ กลมบ้างไม่กลมบ้าง ซ้อนกันมีโพรงให้มุด แล้วบนก็หินก็จะมีปะการังอ่อนเกาะอยู่เต็มไปหมด
หัวข้อ: Re: สิมิลันวันฟ้าใส กับ เรือฟ้าใส (10-13 ม.ค. 2551) เริ่มหัวข้อโดย: Joyful ที่ มกราคม 20, 2008, 11:29:25 PM ลาลีปลาโนรี
หัวข้อ: Re: สิมิลันวันฟ้าใส กับ เรือฟ้าใส (10-13 ม.ค. 2551) เริ่มหัวข้อโดย: Joyful ที่ มกราคม 20, 2008, 11:30:44 PM Longnose Filefish ปลาสามัญแต่สีสันไม่ธรรมดาเลย อยากเจอมาตั้งนานแล้วเนี่ย ตัวนี้เจอที่ West of Eden
หัวข้อ: Re: สิมิลันวันฟ้าใส กับ เรือฟ้าใส (10-13 ม.ค. 2551) เริ่มหัวข้อโดย: Joyful ที่ มกราคม 20, 2008, 11:33:31 PM มาดูปลานกแก้วกันบ้าง กลางวันเค้าจะกิน ๆ ๆ ส่วนกลางคืนก็จะนอนหลับยิ้มแป้นอย่างนี้ อ้อ.. บางตัวกางมุ้งนอนด้วยนะ โดยหาโพรงเหมาะ ๆ แล้วก็ปล่อยเมือกออกมาเป็นมุ้ง
หัวข้อ: Re: สิมิลันวันฟ้าใส กับ เรือฟ้าใส (10-13 ม.ค. 2551) เริ่มหัวข้อโดย: Joyful ที่ มกราคม 20, 2008, 11:38:34 PM คราวนี้มาดูปลาปักเป้ากันบ้าง เที่ยวนี้มีแต่ปักเป้าตัวใหญ่ ๆ เพราะว่าปักเป้ากล่องตัวเล็ก ๆ สีเหลืองหายากไม่เหมือนอันดามันใต้เลย
1. ตัวนี้ที่ Shark fin reef 2. ตัวนี้ที่เกาะบอน ลงสองครั้งก็เจอสองครั้ง เห็นในหนังสือของคุณวินิจก็มีนะ น่าจะเป็นตัวเดียวกัน 3. ตัวใหญ่จิง ๆ นะ เจ๊ยืนยัน 4. ตัวนี้พบที่ North point มันว่าน้ำดิ่ง ๆ ๆ แล้วจู่ ๆ ก็หยุดให้ถ่ายรูปซะงั้น หัวข้อ: Re: สิมิลันวันฟ้าใส กับ เรือฟ้าใส (10-13 ม.ค. 2551) เริ่มหัวข้อโดย: Joyful ที่ มกราคม 20, 2008, 11:45:00 PM เต่ารับแขกที่เกาะแปดฮะ
หัวข้อ: Re: สิมิลันวันฟ้าใส กับ เรือฟ้าใส (10-13 ม.ค. 2551) เริ่มหัวข้อโดย: Joyful ที่ มกราคม 20, 2008, 11:50:23 PM 1. ปลากบยักษ์ที่เรือทูน่าจม
2. Robust ghost pipefish 3. ปลาสิงโตนอนหลับ 4. ปลาวัวไตตัน ตัวนี้ไม่ดุนะ หัวข้อ: Re: สิมิลันวันฟ้าใส กับ เรือฟ้าใส (10-13 ม.ค. 2551) เริ่มหัวข้อโดย: Joyful ที่ มกราคม 20, 2008, 11:53:31 PM สีสันใต้ท้องทะเล
หัวข้อ: Re: สิมิลันวันฟ้าใส กับ เรือฟ้าใส (10-13 ม.ค. 2551) เริ่มหัวข้อโดย: Joyful ที่ มกราคม 20, 2008, 11:56:42 PM น้ำใส ๆ ที่ North point
หัวข้อ: Re: สิมิลันวันฟ้าใส กับ เรือฟ้าใส (10-13 ม.ค. 2551) เริ่มหัวข้อโดย: Joyful ที่ มกราคม 21, 2008, 12:00:57 AM 1. กุ้งมังกรกร้านชีวิต ตัวหนักสักสองโลเห็นจะได้
2. กุ้งหินอ่อนหัวจุด ถ่ายยากจังพอเห็นไฟก็หลบทุกที 3. ปลาเหยี่ยวหน้าจุด พบทั่วไปที่เกาะบอน หัวข้อ: Re: สิมิลันวันฟ้าใส กับ เรือฟ้าใส (10-13 ม.ค. 2551) เริ่มหัวข้อโดย: Joyful ที่ มกราคม 21, 2008, 12:03:28 AM ส่งท้ายด้วยลีลาประดาน้ำ
หัวข้อ: Re: สิมิลันวันฟ้าใส กับ เรือฟ้าใส (10-13 ม.ค. 2551) เริ่มหัวข้อโดย: Joyful ที่ มกราคม 21, 2008, 12:06:43 AM สุดท้ายแล้ว เจอกันอีกครั้งวันหยุดมาฆบูชานะจ๊ะ สิมิลัน
หัวข้อ: Re: สิมิลันวันฟ้าใส กับ เรือฟ้าใส (10-13 ม.ค. 2551) เริ่มหัวข้อโดย: G-girl ที่ มกราคม 21, 2008, 09:59:56 AM :o :o :o
เดือนหน้าไปด้วยนะ ;D ;D คิคิ มะสนละ อยากไป อยากไป ;D ;D หัวข้อ: Re: สิมิลันวันฟ้าใส กับ เรือฟ้าใส (10-13 ม.ค. 2551) เริ่มหัวข้อโดย: merman ที่ มกราคม 21, 2008, 10:35:47 PM ว้าววว คิดถึงสิมิลัน คิดถึงเรือฟ้าใสอ่ะ ไม่รู้เมื่อไหร่จะได้ไปอีก
ถ่ายรูปสวยขึ้นมากเลยครับ ซื้อไฟใหม่เหรอครับ แจ่มเชียว :) หัวข้อ: Re: สิมิลันวันฟ้าใส กับ เรือฟ้าใส (10-13 ม.ค. 2551) เริ่มหัวข้อโดย: Joyful ที่ มกราคม 21, 2008, 10:44:40 PM ว้าววว คิดถึงสิมิลัน คิดถึงเรือฟ้าใสอ่ะ ไม่รู้เมื่อไหร่จะได้ไปอีก ถ่ายรูปสวยขึ้นมากเลยครับ ซื้อไฟใหม่เหรอครับ แจ่มเชียว :) ใช้สโตรป inon d2000 ค่ะ แต่เป็นมือสองนะ ฝีมือการถ่ายภาพรู้สึกจะถอยหลังเข้าคลองทุกที ว่าแต่ว่าทำไมเว็บรักษ์ฉลามวาฬมันเข้าไม่ได้อ่ะคะ หัวข้อ: Re: สิมิลันวันฟ้าใส กับ เรือฟ้าใส (10-13 ม.ค. 2551) เริ่มหัวข้อโดย: merman ที่ มกราคม 23, 2008, 01:17:46 PM .............ว่าแต่ว่าทำไมเว็บรักษ์ฉลามวาฬมันเข้าไม่ได้อ่ะคะ ตอนนี้เว็บฉลามวาฬหยุดพักผ่อนครับ คงหายจากวงการไปซักพัก เว็บมาสเตอร์ตกงานก็เลยไปป่วนตามเว็บชาวบ้านยังงี้แหละ Joyful จะลงไปเรือฟ้าใสอีกเมื่อไหร่ครับ ฝากความคิดถึง ถึงทุกคนด้วย ช่วงนี้ไม่ได้ดำน้ำเลยอ่ะครับ :) หัวข้อ: Re: สิมิลันวันฟ้าใส กับ เรือฟ้าใส (10-13 ม.ค. 2551) เริ่มหัวข้อโดย: Joyful ที่ มกราคม 28, 2008, 05:53:28 PM ลงเรืออีกทีวันที่ 20 กพ จะนำส่งความคิดถึงไปให้ค่ะ
หัวข้อ: Re: สิมิลันวันฟ้าใส กับ เรือฟ้าใส (10-13 ม.ค. 2551) เริ่มหัวข้อโดย: "xxx" ที่ กุมภาพันธ์ 15, 2008, 12:45:43 AM หายไปนานเพราะมัวแต่ง่วนกับต้นฉบับเที่ยวไม่ง้อทัวร์เชค เห็นสิมิลันแล้วคิดถึงมาก
เอาไว้กลับมาจากเชคต้นเืดือนมี.ค. จะหาเวลาว่างไปดำน้ำอีกครั้ง ที่จริงพี่แจ็คชวนไปสิปาดัน แต่ใจจริงยังอยากกลับไปหาสิมิลันมากกว่า ถ่ายรูปสวยขึ้นทุกวันๆเลยนะ ถ้ามีโอกาสคงจะได้ดำน้ำด้วยกันอีก และถ้าโอกาสดีๆ ยังคงไม่ลืมที่จะแนะนำบ.ก.ให้รู้จัก เพื่อที่จะได้ทำตามฝันอีกอย่าง คือ การได้เขียนหนังสือ ที่เราคิดว่า กุ้งทำได้ดีกว่าเราแน่นอน... ;) เอาไว้ไปร้องคาราโอเกะกันอีกนะ ;D |