TRIP & TREK โลกกว้างของคนเดินทาง

กระดานข่าวสีเขียว => ศิลปวัฒนธรรม => ข้อความที่เริ่มโดย: Joyful ที่ มกราคม 14, 2010, 10:26:43 PM



หัวข้อ: 15 ม.ค.เตรียมชมสุริยุปราคาอย่างปลอดภัย
เริ่มหัวข้อโดย: Joyful ที่ มกราคม 14, 2010, 10:26:43 PM
15 ม.ค.เตรียมชมสุริยุปราคาอย่างปลอดภัย


(http://pics.manager.co.th/Images/553000000549101.JPEG)

ภาพสุริยุปราคาในแบบวงแหวน (ซ้าย) และ แบบบางส่วน (ขวา) ซึ่งจะเกิดขึ้นในวันที่ 15 ม.ค. โดยไทยจะเห็นเป็นปรากฏการณ์บางส่วน (สดร.)  

สุริยุปราคาบางส่วนในบ่ายวันที่ 15 ม.ค. เป็นสุริยคราสทิ้งทวน ก่อนจะพักไปอีก 2 ปี จึงจะกลับมาให้คนไทยเห็นอีกครั้งบนแผ่นดินขวานทอง แต่เนื่องจากเป็นสุริยุปราคาบางส่วน ดังนั้นตลอดปรากฏการณ์จึงไม่สามารถสังเกตได้ด้วยตาเปล่า
       
       สุริยุปราคาบางส่วนในวันพรุ่งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของจองสุริยุปราคาวงแหวนที่เห็นได้ในจีนและพม่า โดยในเมืองไทยจะเกิดระหว่าง 14.00-17.00 น. ซึ่งจังหวัดภาคเหนือจะเห็นการบดบังในสัดส่วนมากกว่าจังหวัดในภาคใต้ เช่น จ.แม่ฮ่องสอนเห็นการบดบังมากถึง 77% ส่วนกรุงเทพฯ เห็นการบดบังได้ 57.3% ขณะที่ภาคใต้เห็นการบดบังน้อยสุด จ.นราธิวาสเห็นการบดบังเพียง 36%
       
       ด้าน ดร.ศรัณย์ โปษยะจินดา รองผู้อำนวยการสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (สดร.) กล่าวว่า สุริยุปราคาวงแหวนเป็นสิ่งปกติของสุริยุปราคาที่เกิดในเดือน ม.ค. เนื่องจากเป็นเดือนที่ดวงอาทิตย์อยู่ใกล้โลกมากที่สุด ดังนั้นจึงเกิดสุริยุปราคาเต็มดวงได้ยาก ครั้งนี้ไทยอยู่ใกล้แนวคราสวงแหวน จึงเห็นสุริยุปราคาบางส่วน ซึ่งแต่ละภาคจะเห็นการบดบังไม่เท่ากัน แต่ตลอดปรากฏการณ์สุริยุปราคาวงแหวนและสุริยุปราคาบางส่วน ไม่สามารถสังเกตได้ด้วยตาเปล่า
       
       ทั้งนี้มีหลายหน่วยงานที่จัดงานเพื่อให้ประชาชนได้ร่วมสังเกตปรากฏการณ์ดาราศาสตร์ครั้งนี้ อาทิ งาน “มหกรรมสุริยุปราคา 15 มกราคม 2553” ณ สนามหน้าอนุสาวรีย์ 2 รัชกาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งจัดงานขึ้นตั้งแต่ 14.00 น. หรือสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (สดร.) จะจัดกิจกรรมที่สวนเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ จ.เชียงใหม่ พร้อมจัดเตรียมอุปกรณ์สำหรับดูดวงอาทิตย์ เช่น กล้องโทรทรรศน์ชนิดต่างๆ แว่นตาดูดวงอาทิตย์ กล้องรูเข็ม ฯลฯ และจัดนิทรรศการและกิจกรรมทางดาราศาสตร์ด้วย และยังมีหน่วยงานอื่นๆ ที่ร่วมจัดงานอีก ได้แก่ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงราย หอดูดาวบัณฑิต จ.ฉะเชิงเทรา มหาวิทยาลัยราชภัฎภูเก็ต เป็นต้น
       
       อย่างไรก็ดี สดร.ได้เตือนว่าไม่ควรสังเกตปรากฏการณ์สุริยุปราคาด้วยตาเปล่า รวมถึงไม่ควรมองผ่านกล้องถ่ายรูปหรือกล้องส่องทางไกลที่ไม่มีการติดตั้งอุปกรณ์กรองแสง เนื่องจากเลนส์ของกล้องต่างๆ เหล่านี้ มีคุณสมบัติในการรวมแสง อีกทั้งการมองดวงอาทิตย์ด้วยตาเปล่าหรือผ่านเลนส์ที่ไม่มีการติดตั้งอุปกรณ์กรองแสง อาจเป็นอันตรายถึงขั้นตาบอดได้ฃ
       
       สำหรับวิธีดูดวงอาทิตย์ขณะเกิดสุริยุปราคาอย่างปลอดภัยนั้น ควรใช้อุปกรณ์ช่วย ซึ่งสามารถสังเกตปรากฏการณ์ได้ทั้งทางตรงและทางอ้อม ดังนี้ อุปกรณ์ที่ใช้สังเกตทางตรง ได้แก่ กล้องโทรทรรศน์ที่ติดแผ่นกรองแสงสำหรับดูดวงอาทิตย์ แว่นดูดวงอาทิตย์ หรือแผ่นกรองแสงชนิดพิเศษ (Mylar Filter, Black Polymer) แผ่นดีวีดี ที่ไม่มีลวดลาย กระจกช่างเชื่อมเบอร์ 14 แต่ถึงแม้จะมีอุปกรณ์ช่วยสังเกตอย่างปลอดภัยแล้ว ก็ไม่ควรมองดวงอาทิตย์นานเกินครั้งละ 5 วินาที ส่วนอุปกรณ์ที่ใช้สังเกตทางอ้อม ได้แก่ การฉายภาพดวงอาทิตย์บนฉากรับภาพจากกล้องโทรทรรศน์ การดูผ่านกล้องรูเข็ม การสังเกตเงาใต้ร่มไม้
       
       ส่วนผู้ที่ต้องการถ่ายภาพ “สุริยุปราคา” ทำได้โดยถ่ายภาพผ่านแผ่นกรองแสงอาทิตย์ (Solar Filter) เพื่อลดความเข้มของแสงจากดวงอาทิตย์ อีกทั้งยังช่วยป้องกันสายตาไว้มิให้เป็นอันตรายจากแสงอันแรงกล้าของดวงอาทิตย์ และอย่าใช้กล้องส่องไปยังดวงอาทิตย์โดยตรงอย่างเด็ดขาด
       
       หลังปรากฏการณ์สุริยุปราคาในที่ 15 ม.ค.53 นี้ คนไทยต้องรออีก 2 ปีจึงจะเกิดปรากฏการณ์สุริยุปราคาอีกครั้งในประเทศไทย คือปรากฏการณ์สุริยุปราคาบางส่วนวันที่ 20 พ.ค.2555 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสุริยุปราคาวงแหวนที่คราสพาดผ่านญี่ปุ่น และในวันที่ 8 มี.ค.59 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของปรากฏการณ์สุริยุปราคาเต็มดวงที่คราสพาดผ่านเกาะบอร์เนียวและเกาะสุมาตรา และไทยจะเห็นปรากฏการณ์สุริยุปราคาวงแหวนในส่วนของภาคใต้วันที่ 21 พ.ค.74 ส่วนสุริยุปราคาเต็มดวงในเมืองไทยจะเกิดขึ้นในวันที่ 11 เม.ย.2613
       
       * อย่ามองดวงอาทิตย์ด้วยตาเปล่า เพราะดวงตาจะได้รับอันตรายถึงขั้นตาบอดได้

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 14 มกราคม 2553 14:55 น.

(http://pics.manager.co.th/Images/553000000549102.JPEG)



หัวข้อ: Re: 15 ม.ค.เตรียมชมสุริยุปราคาอย่างปลอดภัย
เริ่มหัวข้อโดย: Joyful ที่ มกราคม 14, 2010, 10:29:37 PM
สุริยุปราคาอีก 5 ครั้งถัดไปบนโลกนี้

หลังจากสุริยุปราคาแห่งศตวรรษเมื่อวันที่ 22 ก.ค.52 ซึ่งเป็นสุริยุปราคาเต็มดวงอันยาวนานที่สุดในศตวรรษที่ 21 และเพิ่งผ่านพ้นนั้น ยังคงมีเงาจันทร์ที่จะพาดผ่านโลกต่อไป เนื่องจากโดยเฉลี่ยแล้วเกิดสุริยุปราคาบนโลกทุกปี เพียงแค่ว่าสุริยุปราคาเหล่านั้นจะเห็นได้ในเมืองไทยหรือไม่เท่านั้น
       
       ต่อไปนี้คือ สุริยุปราคาที่จะเกิดขึ้นอีก 5 ครั้งถัดไป ที่ทีมข่าววิทยาศาสตร์ ASTV-ผู้จัดการออนไลน์ ได้คัดเลือกข้อมูลอุปราคาขององค์การบริหารการบินอวกาศสหรัฐฯ (นาซา) มานำเสนอ
       
       - 15 ม.ค.53 เกิดสุริยุปราคาวงแหวน (Annular Solar Eclipse) ในทวีปแอฟริกาและเอเชีย ประเทศที่เห็นปรากฏการณ์นี้ ได้แก่ แอฟริกากลาง อินเดีย พม่าและ จีน ส่วนไทยอยู่ในแนวเงามัวจึงเห็นเป็นสุริยุปราคาบางส่วน
       
       - 11 ก.ค.53 เกิดสุริยุปราคาเต็มดวง (Total Eclipse) ในทวีปอเมริกาใต้ ประเทศที่เห็นเหตุการณ์นี้ ได้แก่ ชิลีและอาร์เจนตินา โดยเงาดวงจันทร์ยังพาดผ่านมหาสมุทรแปซิฟิกตอนใต้และหมู่เกาะอีสเตอร์ด้วย ส่วนไทยไม่อยู่ในแนวคราสจึงไม่เห็นปรากฏการณ์ดังกล่าว
       
       -  4 ม.ค.54 เกิดสุริยุปราคาบางส่วน (Partial Eclipse) ซึ่งจะครอบคลุมทวีปยุโรปเกือบทั้ง ครึ่งของทวีปแอฟริกาและเอเชียกลาง ส่วนไทยไม่อยู่ในแนวคราส
       
       - 1 มิ.ย.54 เกิดสุริยุปราคาบางส่วน (Partial Eclipse) ในเอเชียตะวันออก ตอนเหนือของอเมริกาและไอซ์แลนด์ ส่วนไทยไม่อยู่ในแนวคราส
       
       - 1 ก.ค.54 เกิดสุริยุปราคาบางส่วน (Partial Eclipse) ในมหาสมุทรอินเดียทางตอนใต้ ไม่มีเงาทอดผ่านแผ่นทวีปใดๆ
       
       ส่วนสุริยุปราคาเต็มดวงนั้น จะเกิดขึ้นในเมืองไทยอีกครั้ง วันที่ 11 เม.ย.2613 ซึ่งตามข้อมูลขององค์การบริหารการบินอวกาศสหรัฐฯ (นาซา) ระบุว่า เป็นสุริยุปราคาในชุดซารอส (Saros) ที่ 130 โดยคราสเต็มดวงจะพาดผ่านศรีลังกา พม่า ไทย ลาว เวียดนามและฟิลิปปินส์ สำหรับไทยนั้นเงามืดจะพาดผ่าน จ.ประจวบคีรีขันธ์

(http://www.manager.co.th/asp-bin/Image.aspx?ID=1288545)

แผนภาพแสดงการเคลื่อนที่ของคราสสุริยุปราคาเต็มดวง ซึ่งพาดผ่าน จ.ประจวบของไทย และจะเกิดขึ้นในวันที่ 11 เม.ย.2613 (นาซา)