ทริปหัวใจเดินทาง # 16
สมอปูน ...ตำนานภูเขาดอกไม้
        
 
        จากลำธารสีเขียวเราข้ามลำน้ำอีกครั้ง เส้นทางรกขึ้นมากจนแทบจะหาเดินทางเก่าไม่เจอ บางครั้งคนนำทางต้องเดินวนเพื่อหาทางเดิน ลูกหาบก็หาบสัมภาระไปด้วย อีกมือก็ถือมีดพร้าคอยเปิดทางให้พอเดินได้ เดินกันแบบทุลักทุเลบอกได้เลยว่าปีนี้เราเป็นคณะแรก ๆ ที่ย่ำเท้าลงไปบนเส้นทางสายนี้ ใกล้ค่ำเต็มทีเส้นทางสำหรับปลูกป่าทอดตัวยาวไปข้างหน้า คนนำทางบอกว่าอีกราวหนึ่งชั่วโมงก็จะถึงแคมป์พักเย็นนี้ ทุกคนกัดฟันเดินเพราะหนทางวันนี้ช่างยาวไกล แข้งขาลาจนบ้างครั้งรู้สึกว่าเท้าสองข้างไร้ความรู้สึก เหมือนเอาก้อนอะไรมาถ่วงไว้ที่ขาสองข้าง

        ถึงแคมป์วันนี้โพล้เพล้เต็มที ลูกหาบปรับพื้นที่ให้พอที่จะผูกเปล ทุกคนรีบทำงานแข่งกับความมืดที่โอบล้อมเข้ามาอย่างรวดเร็ว เปลนอนถูกผูกขึ้น เต้นท์กาง หน่วยทำกับข้าวทำงานแข่งขัน เมื่อที่หลับที่นอนเรียบร้อย กับข้าวกับปลาไม่ต่องห่วง ก็ได้เวลาอาบน้ำอย่างแสนสุข เพราะใกล้แคมป์พักเป็นลำธารกว้างเหนือน้ำตกเหวอีอ่ำที่ห่างออกไปราว 100 เมตร เดินเท้ามาทั้งวันได้แช่น้ำเย็น ๆ สุขจริง ๆ คืนนี้เรากินข้าวกินอิ่มอร่อย จากนั้นจึงตั้งวงพูดคุยเรื่องราวการเดินทาง สมาชิกเก่าใหม่ได้ทำความรู้จักกันมากขึ้น พรุ่งนี้ต้องลาจากธรรมชาติที่งดงาม และเพื่อนพ้อง การอำลาคืนนี้จึงเนิ่นนานข้างกองไฟอุ่นและเสียงริ่งหรีดกล่อมไพร

        เช้าแล้วหน่วยทำลายความวิเวกทำงานอยากได้ผล จนคนอื่น ๆ ทยอยลงจากเปลทีละคนสองคน เช้านี้อากาศดีฟ้าใส ๆ นั่งแปรงฟันริมน้ำ ปลาตัวเล็ก ๆ เข้ามาตอดฟองยาสีฟัน เสร็จแล้วไปหากาแฟร้อน ๆ มานั่งจิบข้างลำธาร ชีวิตคนเมืองที่วุ่นวายกับทุกสิ่ง ได้นั่งนิ่ง ๆ ฝังเสียงธรรมชาติ ปล่อยความคิดให้ล่องลอย นี่คือความสุขในวันพักผ่อนอย่างแท้จริง เช้าวันนี้ทุกคนทำสิ่งที่อยากทำ บ้างเดินเก็บภาพ บ้างเล่นน้ำสนุกสนาน บ้างก็นั่งประดิดประดอยมื้อเช้า สิบโมงเศษหลังมื้อเช้าพวกเราจึงเก็บสัมภาระเดินทางสู่น้ำตกอีอ่ำ น้ำตกขนาดกลางที่สูงราว 14 เมตร บ้างคนเล่นน้ำอีกครั้ง บางคนก็เก็บภาพความทรงจำ เที่ยงวันเรากินมื้อกลางวันง่าย ๆ แล้วหันหลังให้น้ำตกบ่ายหน้าสู่เมือง

        บ่ายสามโมงทุก ๆ คนค่อย ๆ โผล่หน้าออกจากป่า สู่ถนนลาดยางทางไปน้ำตกธารทิพย์ เพื่อนกลุ่มหน้าดักปล้นรถขายไอติมได้ และจี้บังคับให้รอเพื่อน ๆ ที่ตามออกมา แดดร้อน ๆ ได้กินไอติมมันช่างชื่นใจจริง ๆ เมื่อสมาชิกออกมาพร้อมหน้าเราก็ย้ายไปเล่นน้ำในลำธารข้าง ๆ ถนน ดับร้อนรอคอยรถตู้มารับ

        เกือบห้าโมงเย็นทุกคนเปลี่ยนชุดใหม่สะอาด ไม่เหลือร่องรอยคราบเหงื่อในวันเดินทาง มีเพียงผิวคล้ำจาง ๆ จากแสงแดดโลมเลีย เราร่ำลาคนนำทางและลูกหาบ พร้อมกับสินน้ำใจและเป้เก่าจากพวกเรา แต่เป็นเป้ใบใหม่สำหรับลูกหาบ ขากลับแวะซื้อของฝากและทานมื้อเย็นร่วมกันใน สามวันสองคืนบนเส้นทางตำนานภูเขาดอกไม้ มิตรภาพและดอกไม้ป่า แม้ว่าในวันนี้ไม่ได้มีดอกไม้มากมายเหมือนเมื่อครั้งอดีต กล้วยไม้ป่าถูกนำเข้าสู่เมือง ตราบใดมีผู้ซื้อก็ยังต้องมีผู้ขาย ข้อคิดสำหรับผู้รักดอกไม้อย่าได้อุดหนุนของป่า ถ้าคุณอยากเหลือดอกไม้งามไว้ให้ลูกหลาน ไม่ใช่เพียงตำนานภูเขาดอกไม้เยี่ยง "สมอปูน"