:: TRIP & TREK :: โลกกว้างของคนเดินทาง ::
   1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  
2
Copyright © 2002-2005 by TripandTrek.com All Rights Reserved    

        จากจุดลงเรือไม่ถึงร้อยเมตร มีสายน้ำลดระดับเบื้องหน้าทำให้เกิดเกลียวคลื่น หรือที่พวกเราเรียกว่า "wave" ค่อนข้างสูง "ซ้าย ขวา พาย" พี่น้อยสั่ง สิ้นเสียงพวกเราก็จ้ำกันสุดกำลัง หัวเรือพุ่งเข้าชนคลื่นลูกแล้วลูกเล่า พร้อมกันเสียงกรี๊ดของพวกเรา เริ่มแล้วหล่ะการผจญสายน้ำเดือดไม่เป็นรองใครของเมืองไทย

"ตะกี้แก่งอะไรคะ" เราถามพี่น้อย

"เมื่อกี้ยังไม่เรียกแก่งครับ แค่สายน้ำลดระดับ แต่ข้างหน้าของจริงครับ" พี่น้อยตอบพลางบุ้ยใบ้ให้ดูสายเดือดข้างหน้า

"แก่งวังไฮครับ แก่งนี้เล่น คลื่น
กันมันส์เลยล่ะ พร้อมหรือยังครับ"

"พร้อม ครับ-ค่ะ"

ว่าแล้วพวกเราก็ตั้งหน้าตั้งตาจ้วง
เพื่อส่งเรือเข้าไปปะทะคลื่นสูง
ทันทีที่หัวเรือกระแทกยอดคลื่น
แรงปะทะทำเอาหัวเรือเชิดขึ้นสูง
พร้อมเสียงกรี๊ดไม่หยุดของบรรดา
ลูกเรือ

"พาย ๆ อย่าหยุด ๆ ๆ" เสียง
พี่น้อยตะโกนสั่งมาจากข้างหลัง
เสียงน้ำโครมครืน หัวเรือเข้า
ปะทะคลื่นลูกแล้วลูกเล่า พร้อม
กับเสียงเฮ..ตลอดสามสิบเมตร

         เมื่อหลุดจากแก่งได้ ทุก
คนหันมายิ้มให้กันอย่างมีชัย มี
ทริคแค่นิดเดียวใน การปะทะ
แก่งที่มีคลื่นสูง ลูกเรือทั้งซ้ายและ
ขวา จะต้องช่วย กันพาย เพื่อส่งหัว
เรือให้ ปะทะยอดคลื่นตรง ๆ ยิ่ง
แรงส่งมากเท่าไหร่ ความ สนุก
จากการปะทะก็จะมาก ขึ้นเท่านั้น

        จากจุดนี้เราเข้าสู่ ช่วงที่
น้ำนิ่งเป็นระยะ เจ้ากระเต็นหัวดำ
หรือ black capped kingfisher
บินมาทักทายไม่ห่างไปนัก
เบื้องหน้ามีกอใคร้กอใหญ่ นกตัว
เล็ก ๆ สีดำขาวเกาะที่ก้อนหินพลางทำขย่ม ๆ ๆ

"นั่นล่ะครับนกเด้าลม" เสียงพี่น้อยบอก

"ถ้าลองเกาะตรงไหนแล้วขย่ม ๆ เป็นไม่ผิดตัวแน่"

        พวกเราชมนกชมไม้พายกันแบบอ้อยอิ่ง บ้างครั้งเราผ่านสายน้ำตกสายเล็กที่ตกจากผาสูงลงสู่ลำน้ำว้า รวมกันเป็นเป็นน้ำเพื่อหล่อเลี้ยงชีวิตที่อยู่พื้นราบเบื้องล่าง ต้นไม้ใหญ่ริมน้ำสูงซะจนต้องแหงนคอตั้งบ่า บางคาคบไม้ยังมีกล้วยไม้เกาะอยู่เต็มไปหมด
         แล้วเสียงน้ำกระแทกแก่งหินข้างหน้า ปลุกพวกเราขึ้นมาอีกครั้ง "แก่งโก้" แก่งที่มีสายน้ำโค้งหักศอก พร้อมทั้งลดระดับจนเกิดคลื่นสูง พี่น้อยนัดแนะพวกเราว่า หลังจากจ้วงส่งเรือเข้าแก่งแล้ว ให้ขวาพายหนัก ๆ เพื่อหักหัวเรือเข้าโค้งซ้าย เมื่อนัดแนะกับเรียบร้อยก็พร้อมลุยกันเลย

"เอ้า ซ้ายขวาพาย" เสียงพี่น้อยตะโกนแข่งกับสายน้ำ

"อึ๊บ อึ๊บ อึ๊บ" พวกเราส่งเสียงให้จังหวะการพาย

หัวเรือเข้าปะทะคลื่นลูกแรกทำเอาหัวเรือเชิดขึ้น

"พาย ๆ อย่าหยุด ๆ ขวาพายหนัก ๆ ๆ " เสียงพี่น้อยตะโกนไล่หลังมา

" เมื่อกี้ยังไม่เรียกแก่งครับ แค่สายน้ำลดระดับ แต่ข้างหน้าของจริงครับ "


 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 





พวกเราฝั่งขวาตั้งหน้าพายเพื่อหลบดงใคร้ด้านขวามือ เมื่อเรือเข้าโค้งซ้ายพวกเราก็หลุดจากแก่งด้วยลีลาอันสวยงาม

"เฮ เฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮ" พวกเราโห่ร้องเอาชัยกันอีกรอบ

"ไหนว่าแก่งวันแรกเด็ก ๆ ไงพี่ เนี่ยกรี๊ดกันคอแตกแล้ว" พวกเราถามพี่หนาน-หัวเรือ

"เด็ก ๆ ครับ พรุ่งนี้สนุกกว่านี้อีกเยอะ" พี่หนานตอบยิ้ม ๆ
        พวกเราผ่านแก่งเล็กแก่งน้อยกันอีกหลายแก่ง พี่น้อยบอกว่าถ้าที่นี่เค้าไม่เรียกว่าแก่งเพราะสายน้ำไม่รุนแรงมากพอ

แต่ถ้าการล่องที่อื่น ๆ อาจจะเรียกว่าแก่ง ก็ไอ้ที่พี่ท่านไม่เรียกว่าแก่งนี่ก็เรียกเสียงกรี๊ดจากพวกเราไปตั้งไม่รู้เท่าไหร่

"เดี๋ยวเตรียมพร้อมนะครับ เราจะลงแก่งผาหลวงกันแล้วครับ แก่งนี้เป็นรูปตัวเอสเราจะเข้าไลน์ซ้ายนะครับ ลงแก่งแล้วขวาพายให้หนักเลยไม่งั้นน้ำจะส่งเราเข้าไปกระแทกหินขวามือ พร้อมหรือยังครับ "

"พร้อม ครับ-ค่ะ" พวกเราประสานเสียง

"เอ้า ไป อึ๊บ อึ๊บ ๆ ๆ " เสียงพี่หนานให้จังหวะ

      บน : ลำน้ำว้าในช่วงที่เป็นน้ำนิ่ง เราสามารถพายเรือชมธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ได้เรื่อย ๆ แต่ที่น้ำว้าจะพบช่วงที่เป็นน้ำนิ่ง ไม่กี่ช่วงเท่านั้นที่เหลือก็เป็นแก่งให้ใด้ลุ้นกันตลอดการล่อง  
      ล่าง : ส่วนลำน้ำช่วงที่มีก้อนหินใต้น้ำหรือเป็นชั้นหินลดระดับ ก็จะเกิดแก่งมากมายในภาพคือแก่งผาหลวงที่อุปสรรคของการผ่านแก่งนี้คือ ก้อนหินกลางลำน้ำและผากินด้านซ้ายมือ  
 
เรื่องโดย : Joyful
ภาพโดย : Lighthouse
เรื่องเล่าคนเดินทาง
ข้อมูลการเดินทาง
แผนที่การเดินทาง
มุมมองคนหลังเลนส์
ความทรงจำบนแผ่นฟิล์ม